คืบหน้า ครู รร.ดังโคราช หั่นผมนักเรียนกว่า 10 คน ล่าสุด โรงเรียนเชิญผู้ปกครองพูดคุยแล้ว ไม่ติดใจเอาความ ยังเหลือรอฟังความเห็นผู้ปกครองอีก 3 ราย ขณะที่ อบจ.โคราช ได้ตั้งคณะกรรมการสอบครูที่ก่อเหตุแล้ว

จากกรณีเพจ นักเรียนเลว ได้แชร์เหตุการณ์โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ครูที่ปรึกษาบังคับนักเรียนหญิงนั่งพื้นปล่อยผม จับตัดผมเรียงคนจนเสียทรง แม้จะย้ำในระเบียบว่า ครูไม่มีอำนาจตัดผมนักเรียน และไม่มีการแจ้งหรือขออนุญาตล่วงหน้า แม้นักเรียนบางคนเพิ่งตัดผมสั้นมาแล้ว ก็ยังถูกบังคับให้ตัดเพิ่ม แต่ครูกลับเพิกเฉยต่อเหตุผลและยังกล่าวตำหนิโยงถึงพ่อแม่และพฤติกรรมในอดีตของนักเรียนคนนั้น ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้มีนักเรียนหญิงถูกตัดผมประมาณ 11-12 คน และหนึ่งในนั้นเป็นนักเรียนที่มีความหลากหลายทางเพศ สร้างความอับอายและไม่สบายใจแก่ผู้เรียน จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในขณะนี้

ล่าสุด วันนี้ (20 พฤศจิกายน 2567) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่โรงเรียนบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ถูกอ้างถึง โดยโรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา ในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา มีนักเรียนอยู่ประมาณ 2,100 คน บรรยากาศภายในโรงเรียน พบว่า มีนักเรียนหญิงจำนวนมากไว้ผมยาวเกือบถึงกลางหลัง จากการสอบถามนักเรียน ส่วนใหญ่บอกว่า ที่โรงเรียนแห่งนี้อนุญาตให้สามารถไว้ผมยาวได้ตามปกติ ไม่ได้มีการบังคับให้ตัดผมสั้นแต่อย่างใด

...

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เข้าพบกับ นายไพทูลย์ จักรแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนบัวใหญ่ เปิดเผยว่า หลังจากทราบข่าว ทางโรงเรียนได้เชิญครูที่ปรึกษาที่เป็นคนตัดผมมาสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งยอมรับว่ามีการตัดผมเด็กนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจริง จำนวน 12 คน ที่ทำไปไม่มีเจตนาทำให้เกิดความอับอาย เพียงแต่อยากให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น สำหรับเด็กนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นเท่านั้น เพราะบางคนไว้ผมยาวเกินครึ่งหลัง อย่างไรก็ตาม ทางโรงเรียนไม่ได้มีนโยบายให้ตัดผมนักเรียนแต่อย่างใด

ดังนั้น จึงได้เชิญผู้ปกครองของนักเรียนทั้งหมดมาพูดคุยกันในช่วงเช้า ซึ่งผู้ปกครองมากันไม่ครบ ยังเหลืออยู่ 3 ราย และจากการได้พูดคุยในเบื้องต้น ปรากฏว่า ผู้ปกครองไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใด เนื่องจากผู้ปกครองทั้งหมดก็เป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนแห่งนี้ด้วย แต่ในเมื่อมีกระแสข่าวออกมา ทางโรงเรียนก็จะเขียนรายงานไปยังกองการศึกษาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัด เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป ถ้าหน่วยงานต้นสังกัดมีข้อสั่งการให้ดำเนินการอย่างไร ทางโรงเรียนก็พร้อมที่จะดำเนินการอย่างเต็มที่ ไม่มีการปกป้องกันแน่นอน

ด้านนายวีระชาติ ทุ่งไผ่แหลม รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า "เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะต้องดำเนินการตามระเบียบบริหารงานบุคคล ซึ่งเบื้องต้น เมื่อวานนี้ (19 พฤศจิกายน 2567) ทางครูแจ้งมาว่า ได้ไปเยี่ยมบ้านของนักเรียน ได้พูดคุยกับผู้ปกครอง และได้มีการเตือนในเรื่องนี้ไปแล้ว และช่วงเช้าวันนี้ โรงเรียนได้เชิญผู้ปกครองมาประชุมพูดคุยที่โรงเรียนฯ แต่มาไม่ครบ ขาดไป 3 รายที่ติดภารกิจมาไม่ได้ ซึ่งผู้ปกครองก็เข้าใจและรับทราบถึงระเบียบของทางโรงเรียนดี เพราะส่วนใหญ่จะเป็นศิษย์เก่า และทุกครั้งที่มีการประชุมผู้ปกครองนักเรียนก่อนจะเปิดภาคเรียน ก็จะมีการชี้แจงอธิบายกฎระเบียบของทางโรงเรียนให้ได้ทราบ ผู้ปกครองจึงไม่ได้ติดใจอะไร

ทั้งนี้ ทางโรงเรียนไม่ได้มีนโยบายให้ตัดผมสั้น แต่จะมีกฎระเบียบซึ่งเป็นกติการ่วมกันสำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น ว่าความยาวของผมอย่าให้เกินบ่าหรือส่วนหลัง ส่วนมัธยมศึกษาตอนปลายจะไม่ได้กำหนด แต่นักเรียนทั้งหมดจะต้องจัดแต่งผมโดยอาจจะมัดรวบผูกโบว์ให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม ซึ่งครูที่ปรึกษาจากเหตุการณ์นี้ ได้ชี้แจงว่า ได้ตักเตือนเด็กนักเรียนและแจ้งเด็กไปก่อนแล้วให้ตัดทรงผมให้ตรงตามระเบียบที่โรงเรียนกำหนด เพราะต้องการสอนให้เด็กรู้จักระเบียบวินัยเบื้องต้น แต่ตัวเด็กไม่ได้ไปตัดผมให้ตรงตามระเบียบ ซึ่งเรื่องนี้ ตนได้กำชับและสั่งการให้ทางโรงเรียนสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากครูผู้สอนและจากนักเรียน แล้วรีบชี้แจงรายงานมาให้ทาง อบจ.ได้ทราบ เพื่อที่จะได้ตั้งคณะกรรมการฯ ขึ้นมาไต่สวนพิจารณาเรื่องนี้

ตอนนี้ต้องรอผลสรุปจากทางโรงเรียนก่อนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร กฎระเบียบข้อบังคับของแต่ละโรงเรียนอาจจะมีข้อแตกต่างกันอยู่บ้างในเรื่องของข้อกำหนดหรือข้อบัญญัติของโรงเรียน ทางคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะผู้บริหาร ครู บุคลากร และคณะกรรมการนักเรียน จะมีการประชุมพูดคุยและมีข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับระเบียบหรือข้อกำหนดต่างๆ ของโรงเรียน แต่จริงๆ จะไม่มีมาตรการบังคับในเรื่องทรงผมเอาไว้ ซึ่งจำนวนครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัดฯ ที่มีอยู่เกือบ 1,700 คน จึงอาจจะมีบางคนที่กระทำการหลุดไปบ้าง ซึ่งได้เน้นกำชับในเรื่องนี้ไปว่าอย่าให้มีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก ส่วนผู้ปกครองอีก 3 ราย ทางโรงเรียนจะโทรศัพท์พูดคุยก่อนว่าจะมีความคิดเห็นอย่างไร เพื่อนำมาสรุปรายงานแจ้งให้ทาง อบจ.ฯ ทราบ" นายวีระชาติ กล่าว.