“คำว่า “ความยั่งยืน” ของไทยรัฐเองไม่ใช่สิ่งที่เราเพิ่งมาใส่ใจ แต่เป็นทั้งกลยุทธ์ในการเติบโตและเป็นค่านิยมหลักขององค์กรที่เรายึดถือเสมอมา ตัวอย่างชัดเจนที่แสดงถึงปรารถนาอย่างแท้จริงในการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเท่าเทียมกันในสังคม คือการก่อตั้งมูลนิธิไทยรัฐ และการสนับสนุนโรงเรียนไทยรัฐวิทยาทั้ง 111 แห่งทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการสร้างความยั่งยืนในมิติทางสังคม เพราะเราเชื่อว่าการเข้าถึงการศึกษาไม่เพียงแต่เปลี่ยนแปลงชีวิตของนักเรียนเองเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบที่ยั่งยืนต่อคุณภาพชีวิตของครอบครัวและชุมชนของพวกเขาด้วย”
จิตสุภา วัชรพล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมไทยรัฐทีวี และไทยรัฐออนไลน์ กรรมการมูลนิธิไทยรัฐ กล่าวถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาของ “ไทยรัฐกรุ๊ป” ทั้งตอกย้ำถึงความตั้งใจในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ผ่านทางมูลนิธิไทยรัฐ ส่งต่อยัง ร.ร.ไทยรัฐวิทยา 111 โรงทั่วประเทศที่ทำมาตลอดกว่า 50 ปี โดยมีผู้ใหญ่ใจดีร่วมสมทบทุนบริจาคผ่านทางมูลนิธิไทยรัฐตลอดมา และเพื่อให้เด็กๆ ที่ยากจนได้เข้าถึงโอกาสทางการศึกษามากยิ่งขึ้น ในปี 2567 นี้ “ไทยรัฐกรุ๊ป” จึงได้จัดงาน “Thairath Afternoon Gala 2024” ระดมทุนสนับสนุนมูลนิธิไทยรัฐ เพื่อนำไปช่วยเหลือโรงเรียนไทยรัฐวิทยา โดยภายในงานจะมีการรับบริจาคแบบกำหนดวัตถุประสงค์ใน 3 โครงการสำคัญ ประกอบด้วย
1. โครงการคอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนรู้ เพื่อเติมเต็มคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเรียนการสอนของ ร.ร.ไทยรัฐวิทยา ที่ปัจจุบันมีไม่เพียงพอต่อจำนวนนักเรียน บางเครื่องใช้งานเกิน 10 ปี ชำรุดซ่อมแซมไม่ได้
2. โครงการทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนด้อยโอกาส เป้าหมายเพื่อจัดทุนการศึกษาช่วยเหลือนักเรียนที่ขาดแคลน ยากไร้ และด้อยโอกาสทางการศึกษาในโรงเรียนไทยรัฐวิทยา โดยจะมอบทุนการศึกษาแห่งละ 2 คน รวมทั้งสิ้น 222 คน
3. โครงการอาหารให้นักเรียนยากไร้ในโรงเรียนไทยรัฐวิทยา เป้าหมายเพื่อให้นักเรียนใน ร.ร.ไทยรัฐวิทยาซึ่งส่วนใหญ่มีฐานะยากจน รวมทั้งนักเรียนชาติพันธุ์ที่มาพักนอนในบางโรงเรียน ได้รับประทานอาหารกลางวันครบทุกมื้อ แบบมีคุณค่าทางโภชนาการ ในปริมาณเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
สำหรับกิจกรรมภายในงาน “Thairath Afternoon Gala 2024” จิตสุภา ได้ฉายภาพว่า “ในงานได้เชิญชวนผู้หลักผู้ใหญ่ ทั้งภาครัฐ เอกชนมาพูดคุยกันเรื่องการศึกษา ซึ่งที่ผ่านมาอาจจะมีการพูดกันมาแล้วในหลายๆ โอกาส แต่จากข้อมูลที่ได้รวบรวมมายังคงมีช่องว่างระหว่างภาคนโยบายกับภาคปฏิบัติอยู่ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีผู้ใหญ่หลาย ๆ ท่านออกมาแสดงความคิดเห็นถึงการศึกษาไทยในยุค 5.0 ว่าควรจะเป็นไปในทิศทางใด เพราะที่ผ่านมาทั้งที่นโยบายตลอดจนวิสัยทัศน์ของทางกระทรวงศึกษาธิการ กับมูลนิธิไทยรัฐเอง มีความคล้ายคลึงกัน แต่เมื่อมองในส่วนหน้างาน หรือภาคปฏิบัติ อย่าง ร.ร.ไทยรัฐวิทยา กลับพบว่ามีช่องว่างระหว่างการปฏิบัติตามนโยบายในส่วนหน้างานจริง เพราะหลายๆ อุปสรรคที่พบต้องใช้การบูรณาการความร่วมมือจากหลายๆ ภาคส่วน นอกเหนือจากแค่กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อแก้ไขปัญหาให้สำเร็จเป็นรูปธรรมได้จริงๆ อยากขอร้องให้ภาครัฐได้ช่วยลงมาดูเรื่องนี้อย่างจริงจัง ซึ่งอาจจะต้องบูรณาการมากกว่ากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) แต่ต้องรวมถึงการบูรณาการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กระทรวงแรงงาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นต้น ยกตัวอย่างให้เห็นชัดเจนขึ้น เช่น เราเห็นเด็กไม่มีเงินแม้แต่จะไปซื้อข้าวกินในแต่ละมื้อ แถมบางคนยังมีภาระอื่น ๆ ที่ต้องรับผิดชอบ ทำให้ไม่สามารถไปเรียนหนังสือหรือไปโรงเรียนได้ด้วยความสบายใจ เช่น เด็กบางคนมีภาระต้องดูแลพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ที่เจ็บป่วยนอนติดเตียงอยู่ที่บ้าน ส่งผลกระทบทำให้ไปเรียนหนังสือได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเหมือนเด็กคนอื่น ๆ ดังนั้นหากมีการบูรณาการจากหลายๆ หน่วยงานเข้ามาช่วยกันดูแลลดภาระของเด็กให้เขาสามารถไปเรียนหนังสือได้โดยไม่มีห่วง หรือกังวลกับภาระต่าง ๆ เหล่านี้ได้คิดว่าน่าจะช่วยดึงเด็กกลับเข้ามาสู่ระบบการศึกษาได้”
จิตสุภา ยังพูดถึงไฮไลต์ของงานนี้ด้วยว่า ช่วงแรกจะมีการเสวนาเรื่องการศึกษาไทย หัวข้อ “Empowering To Education” มีนายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกิตติคุณ ธนาคารกสิกรไทย, นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด และตนร่วมเสวนา ส่วนช่วงที่สอง จะมีการประมูลของรักจากผู้มีชื่อเสียงจากหลากหลายวงการเพื่อระดมทุนเข้ามูลนิธิไทยรัฐ นำไปใช้สนับสนุนโรงเรียนไทยรัฐวิทยา จำนวน 16 ชิ้น อาทิ นาฬิกาของคุณเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี คุณบัณฑูร และคุณศุภชัย กระเป๋าของคุณนวลพรรณ ล่ำซำ คุณกรณ์ ณรงค์เดช คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล พระบรมรูป ร.9 “ทรงงาน” (จำลอง) องค์หล่อด้วยสำริด สูง 60 ซม. ของคุณเอมอร ศรีวัฒนประภา เป็นต้น
สำหรับผู้ที่สนใจร่วมสร้างอนาคตของเยาวชนอย่างยั่งยืนด้วยวิทยาทานกับทางไทยรัฐกรุ๊ป ที่ไม่ได้มาร่วมในงาน “Thairath Afternoon Gala 2024” สามารถร่วมสมทบทุนได้ที่ เลขที่ 1 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 หรือที่บัญชีเงินฝาก มูลนิธิไทยรัฐ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาวิภาวดีรังสิต กระแสรายวัน เลขที่ 196-3-061591
ร่วมเป็นหนึ่งในพลังต่อยอดและเติมเต็มการศึกษากับเยาวชนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม