"นายกฯอิ๊งค์" ปลื้มผลโพล มีกำลังใจทำงาน แสดงว่าตรงตามเป้า รอถกหัวหน้าพรรคร่วมปมแก้ รธน. อ้อน “สนธิ” อย่าเพิ่งไล่มาคุยกันก่อน บอกไม่อยากมีเรื่องขอความสงบสุขเพื่อชาติ “ภูมิธรรม” ให้ประธานวิป รบ.ไปเคลียร์ ปธ.วุฒิ หลัง สว.คว่ำร่าง พ.ร.บ.ประชามติ “ชูศักดิ์” ขอทุกพรรคคุยกันให้สะเด็ดน้ำ “เสี่ยหนู” รีบปัด ภท.ไม่มีเอี่ยวกับ สว. “ทวี” ไม่เชื่อค่ายน้ำเงินอยู่เบื้องหลังบงการ ดักคอ “หนู” พูดเป็นคนแรกๆจะแก้ รธน. “จุลพันธ์” รอจังหวะแจกเงินหมื่นเฟส 2 โปรดเกล้าฯ "ณัฐพงษ์" ผู้นำฝ่ายค้าน เจ้าตัวฟิตจัดลับมีดรอซักฟอกต้นปี 68 “ไพบูลย์” ปูด 10 ต.ค. ยุบ พท.ถึงขั้นล่มสลาย “ลุงป้อม” ตัดปัญหาคืนเงินเดือน สส.

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รับมีกำลังใจทำงาน หลังผลสำรวจโพลสำนักต่างๆ ยกว่าประชาชนสนับสนุนให้เป็นนายกฯ อันดับ 1 แสดงว่า การทำงานที่ผ่านมาตรงตามเป้า ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ ยืนยันว่าความนิยมที่เพิ่มขึ้น มาจากผลการทำงาน เป็นไปตามเทรนด์โลกผู้นำคนรุ่นใหม่

“อิ๊งค์” ปลื้มโพลมีกำลังใจทำงาน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ต.ค. ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ก่อนเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวหยอกล้อกับผู้สื่อข่าวที่เอ่ยชมว่ากางเกงสวยว่า เอฟได้จาก TikTok ได้มา 3 แบบจะค่อยๆทยอยใส่ ผู้สื่อข่าวถามว่ารู้จักหมูเด้งหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า “รู้จักสิ มีใครไม่รู้จักหมูเด้ง” เมื่อถามถึงผลสำรวจโพลประชาชนสนับสนุนให้เป็นนายกฯ อันดับ 1 น.ส.แพทองธารยิ้มพร้อมกล่าวว่า “ดีใจมากเลย เป็นกำลังใจให้การทำงานมาก” เมื่อถามว่าแสดงว่าการทำงานตรงตามเป้า นายกฯตอบว่า ใช่ เรื่องงานตรงตามเป้า จากนี้อยากให้มอนิเตอร์หน้างานเยอะๆ จะได้แก้ปัญหาได้ทัน

...

ย้ำปมแก้ไข รธน.ต้องคุยกันแน่

ต่อมาเวลา 12.15 น. น.ส.แพทองธารในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการนัดหารือหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ต้องคุยกัน เป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาลทุกคน หัวหน้าพรรคต้องคุยกัน ต้องคุยกันนอกรอบแน่นอนอยู่แล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า สว.เสียงข้างมากมีมติคว่ำร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติของ สส. โดยแก้ไขหลักเกณฑ์ให้จัดทำประชามติ 2 ชั้น น.ส.แพทองธารตอบว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯดูแลอยู่ ความจริงเรื่องนี้ต้องเป็นการรวมความคิดเห็นของพรรคร่วม แต่คำตอบสุดท้ายคือประชาชน ที่ผ่านมายังไม่ได้มีการนัด แต่หลังจากนี้วางแผนไว้ว่าต้องคุยในรายละเอียดกัน บางทีอาจมีการเปลี่ยนแปลงในหลายเรื่อง กำลังค่อยๆ จัดระเบียบการทำงานอยู่

อ้อน “สนธิ” อย่าเพิ่งไล่คุยกันก่อน

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า การแก้รัฐธรรมนูญจะเสร็จในรัฐบาลนี้หรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า คงต้องรอดูว่าความคิดเห็นเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อถามว่าเหมือนมีคนไม่อยากให้แก้ไขรัฐธรรมนูญเกิดขึ้น น.ส.แพทองธารตอบว่า มีทั้งที่อยากให้แก้และไม่อยากให้แก้ เมื่อถามว่านายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตร ประกาศจะลงถนนไล่รัฐบาลในต้นปีหน้า น.ส.แพทองธารยิ้มก่อนตอบว่า “เพิ่งทำงานได้เดือนเดียวเอง จะไล่แล้วหรือคะ อย่าเพิ่งรีบไล่เลยค่ะ” เมื่อถามต่อว่าข้อเรียกร้องของนายสนธิ 3 ข้อต้องการอะไร น.ส.แพทองธารตอบว่า ยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับนายสนธิ แต่พร้อมคุยกับนายสนธิอยู่แล้ว วันนี้เราเป็นรัฐบาล เป็นนายกฯ เราต้องพูดคุยกับทุกภาคส่วนอยู่แล้ว อีกอย่างการทำให้ประเทศสงบสุขเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าประเทศสงบสุขคนไทยมีความสุข ต่างประเทศก็จะมาลงทุน

ไม่อยากมีเรื่องขอความสงบสุข

เมื่อถามว่า การพูดคุยจะเป็นลักษณะใด เป็นการเดินสายคุยหรือนัดมารับฟังความคิดเห็น นายกฯย้อนสื่อว่า “แนะนำหน่อยคะยังไงดี เพื่อให้ประเทศสงบสุขช่วยกันด้วย เราไม่พร้อมมีเรื่อง ความจริงดิฉันเองและรัฐบาลโฟกัสเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเชื่อจริงๆว่าถ้าเศรษฐกิจดี คนไทยมีฐานะรวยขึ้นสบายขึ้น ทุกอย่างก็จะดีขึ้น เราไม่อยากมีเรื่อง เพราะรู้สึกว่าถ้าประเทศชาติดีก็พร้อมเดินต่อ” เมื่อถามว่าการปลุกม็อบลงถนนเป็นการเมืองแบบเก่าที่ไม่สร้างสรรค์ หรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า ไม่ได้คิดเรื่องลงถนน คิดว่าหากต้องลงถนนจริงๆมาคุยกันก่อนก็ได้ว่าปัญหาคืออะไร ทุกอย่างน่าจะคุยกันได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ความเกลียดชังหรือความรุนแรงเข้าหา ความจริงวันนี้เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่มาจากหลายพรรคก็คุยกันได้ เมื่อถามอีกว่าเป็นเพราะตระกูลชินวัตรหรือไม่ที่ทำให้เขาคิดเดินลงถนน น.ส.แพทองธารกล่าวทีเล่นทีจริงว่า “ถ้าสมมติว่าตอนแต่งงานเมื่อปี 2019 แล้วเปลี่ยนนามสกุลก็อาจไม่มีปัญหาใช่หรือไม่” ก่อนหัวเราะและตอบว่า “ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ก็ไม่อยากให้มีเรื่อง”

“อ้วน” ตัดบทให้รอผล กมธ.ร่วม

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงผลสำรวจนิด้าโพลว่า โพลเป็นการหยั่งกระแสและสำรวจความคิดเห็น มีหลายสำนัก แต่ที่ทำให้ น.ส.แพทองธารได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น น่าจะมาจากผลการทำงาน เพราะตอนแรกที่เข้ามายังไม่มีใครรู้ ไม่มั่นใจว่าสามารถทำอะไรได้ เพราะอายุยังน้อย แต่จริงๆเป็นเทรนด์ของโลกผู้นำสมัยใหม่ เป็นการพิสูจน์ว่าอย่างน้อยนายกฯตั้งใจอยากทำงาน และทำให้เกิดประโยชน์ ทำให้ประชาชนเกิดความรู้สึกชื่นชมยินดี ผลโหวตจึงออกมาแบบนี้ ส่วนกรณีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายก รัฐมนตรี เสนอให้คุยกับหัวหน้าพรรคการเมือง เพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ หลัง สว.เสียงข้างมากมีมติแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ประชามติว่า คงต้องหารือตามที่นายชูศักดิ์เสนอ ต้องดูว่าผลการตั้งกรรมาธิการร่วมสองสภาฯจะออกมาอย่างไร ระหว่างนี้ ต้องคุยกับหัวหน้าพรรคการเมืองว่าคิดเห็นอย่างไร

ให้ ปธ.วิป รบ.ไปคุย สว.ให้เข้าใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ให้เกิดสัญญาประชาคมและไม่ให้มีการบิดพลิ้วในภายหลังใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบว่า ไม่ใช่ แค่ต้องการหารือกันเมื่อ สว.ตัดสินใจออกมาแบบนี้ สถานการณ์การเมืองเป็นแบบนี้ พรรคที่ร่วมรัฐบาลมีความเห็นอย่างไร แต่ยังไม่ได้นัด เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่เป็นโต้โผแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับมาตลอด 1 ปี แต่สุดท้ายเหมือนกลับมาเริ่มต้นใหม่ นายภูมิธรรมตอบว่า เราต้องทำความเข้าใจกันให้มากขึ้น นอกจากหัวหน้าพรรคการเมืองแล้วประธานวิปรัฐบาลต้องหารือกับประธานวุฒิสภาด้วย ให้เกิดความเข้าใจว่าสิ่งที่เรากำลังทำคืออะไร เป็นประโยชน์อย่างไร สว.เห็นแตกต่างในแง่มุมไหน หากคุยกันจะหาข้อยุติได้ เมื่อถามว่าจะส่งผลให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับไม่เสร็จในรัฐบาลนี้หรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า อย่าเพิ่งไปไกลอย่าเพิ่งสรุป ส่วนกรณีที่อาจไม่ทันกับการเลือกตั้ง อบจ.ในต้นเดือน ก.พ.ปีหน้า จริงๆเราต้องการเร่งทำประชามติไปพร้อมกับ การเลือกตั้ง อบจ. แต่เมื่อมีความเห็นต่างเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องทำความเข้าใจ

“ชูศักดิ์” ขอทุกพรรคคุยให้สะเด็ดน้ำ

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายก รัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี สว.มีมติคว่ำร่าง พ.ร.บ.การจัดทำประชามติของ สส.ว่า หัวหน้าพรรคต้องมาคุยกันว่าจะทำอย่างไร เจ้าภาพอาจเป็นประธานวิปรัฐบาลลองคิดดูถ้าเรามีคณะทำงาน 1 ชุดก่อน ประกอบด้วยผู้แทนจากทุกพรรครวมทั้งฝ่ายค้าน มานั่งพูดคุยกันจะเดินต่ออย่างไร เข้าใจว่าทุกพรรคมีเจตนาจะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่มีใครค้าน เพียงแต่ขัดข้องทางเทคนิคก็มาลองคุยกันให้สะเด็ดน้ำว่าจะเดินยังไง แล้วแจ้งหัวหน้าพรรคจะได้ง่าย ปัญหาใหญ่ขณะนี้อยู่ที่การทำประชามติ ความยากคือสมมติต้องทำประชามติ 3 ครั้ง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย คิดว่าท้ายสุดสภาผู้แทนราษฎรจำเป็นต้องยืนหยัด แต่ต้องใช้เวลา เมื่อถามว่าถ้าคุยกันแล้ว 3 ปีที่เหลือคิดว่าทันหรือไม่ นายชูศักดิ์ตอบว่า ถ้าเราทำกันอย่างจริงจังมันไปได้

ไม่ซีเรียส สว.คว่ำร่างประชามติ

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่ากรณี สว.คว่ำร่าง พ.ร.บ.ประชามติของ สส.ถือเป็นขั้นตอนในสภา ขบวนการ สว.มีความคิดเห็นที่เป็นอิสระ เมื่อมีการแก้ไขก็เป็นไปตามขั้นตอน ต้องตั้งคณะกรรมการร่วมสองสภาขึ้นมาพิจารณา เป็นขั้นตอนปกติ เรื่องเหล่านี้ไม่ได้เป็นปัญหาที่จะหยุดยั้งอะไร ไม่ซีเรียส เพียงแต่เราต้องพยายามเดินหน้าให้ได้ และหาจุดร่วมที่เป็นประโยชน์สูงสุด เมื่อถามว่า สว.ไม่ได้เซาะกร่อนบ่อนทำลายใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ตอบว่า ไม่หรอก เป็นความอิสระ สามารถตัดสินได้เองอยู่แล้ว

“หนู” รีบปัด ภท.ไม่มีเอี่ยวกับ สว.

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณี สว.คว่ำร่าง พ.ร.บ.ประชามติของ สส. ว่า เป็นเรื่องของ สว. เราไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เมื่อถามว่า มี สว.บางคนอ้างว่า ที่ สว.กลับมติมาใช้เสียง 2 ชั้น มีใบสั่งจากพรรคการเมือง นายอนุทินย้อนถามว่า สว.คนไหนพูด ผู้สื่อข่าวตอบกลับว่านางนันทนา นันทวโรภาส สว. นายอนุทินตอบว่า ท่านคงไม่ได้ พูดอย่างนั้น วุฒิภาวะขนาดนี้คงไม่พูดอะไรแบบนี้ เมื่อถามต่อว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าท่าทีของ สว.กับพรรค ภท.เป็นทางเดียวกัน นายอนุทินตอบว่า ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับ สว. เมื่อถามว่า ถ้าจะแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ หัวหน้าพรรค การเมืองในฝั่งรัฐบาลต้องมาคุยกันก่อนหรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า คุยกันก่อนอยู่แล้ว เพราะทำงานด้วยกัน

“ทวี” ไม่เชื่อ ภท.เบื้องหลังบงการ

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวถึงการนัดหารือหัวหน้าพรรค การเมือง เรื่องแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ยังไม่ได้นัด ปกติพรรคร่วมรัฐบาลนัดคุยกันอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมามีเหตุการณ์น้ำท่วมต้องไปช่วยเหลือประชาชนก่อน แต่เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นนโยบายสำคัญ เป็นเจตจำนงของรัฐบาลที่ต้องแก้ เมื่อถามว่า สว.คว่ำร่าง พ.ร.บ.ประชามติฉบับ สส. มองว่าเป็นการ ยื้อการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ พ.ต.อ.ทวีตอบว่า ไม่ได้มองแบบนั้น สภาต้องมีพื้นที่สำหรับคนที่เห็นต่างกัน เมื่อถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องพึ่งพา เสียง สว. ถูกมองว่า มีบางพรรคอยู่เบื้องหลัง พ.ต.อ.ทวี ตอบว่า ไม่เชื่อว่าเป็นอย่างนั้น เพราะเริ่มต้นการแก้ไข รัฐธรรมนูญ นายอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พูดเรื่องนี้เป็นคนแรก เมื่อถามย้ำว่า จะเป็นใบสั่งของ พรรคสีน้ำเงินให้ สว.คว่ำร่าง พ.ร.บ.ประชามติหรือไม่ พ.ต.อ.ทวีตอบว่า เชื่อว่าไม่มี คนที่จะสั่งรัฐบาลได้คือ ประชาชน เมื่อถามย้ำว่า ถือเป็นการยื้อมรดก คสช. หรือไม่ พ.ต.ท.ทวีตอบว่า ขอไม่มอง อย่าไปคิดให้ ทะเลาะกันดีกว่า

“จุลพันธ์” รอจังหวะแจกเฟสสอง

วันเดียวกัน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวถึงข้อขัดข้องในการโอนเงิน 1 หมื่นบาท โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะแรก 14.5 ล้านคน ในกลุ่มคนพิการยังมีที่ค้างอยู่ 8,829 ราย ว่า ส่วนใหญ่ มีปัญหาเรื่องบัตร มีบางส่วนสิทธิซ้ำกับกลุ่มเปราะบาง ประมาณ 93,000 ราย ส่วนกลุ่มเปราะบางยังเหลือ อีก 372,458 ราย มีปัญหาเรื่องบัญชีไม่เดิน และยัง ไม่ได้ผูกพร้อมเพย์ ทางกระทรวงการคลังจะโอนเงินซ้ำ อีก 3 ครั้งตามรอบ ขณะนี้เม็ดเงินที่เข้าไปในระบบ ทั้งหมดประมาณ 141,000 ล้านบาท จะมีผลกระตุ้นระบบเศรษฐกิจ 3.35% สำหรับเฟสถัดไปพยายามทำให้เป็นรูปแบบดิจิทัล ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ในเฟส ที่ 2 จะจ่ายเพียง 5,000 บาท ยังไม่มีข้อสรุป แต่ต้อง เติมเงินเข้าไปในจังหวะเวลาที่เหมาะสม

“ไพบูลย์” ปูดยุบ พท.ถึงล่มสลาย

อีกเรื่อง นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ทราบข่าวว่าจะเกิด ปัญหากับพรรคการเมืองที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ เป็นสมาชิก หรือที่รับใบสั่งแกนนำมาร้องเรียนจนมั่ว ไปหมด วันที่ 10 ต.ค.เป็นต้นไป จะเกิดจุดเริ่มต้นปัญหาใหญ่มากอาจไปถึงบทจบ กระทบกับสถานะรัฐบาลอย่างแน่นอน อยากให้เตรียมรับแรงกระแทกไว้ให้ดี ถ้ารับมือไม่ดีก็อาจถึงขั้นล่มสลาย เมื่อถามว่า หมายถึงการยุบพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ ประมาณนั้น ให้รอดูวันที่ 10 ต.ค.

“ลุงป้อม” ตัดปัญหาคืนเงินเดือน สส.

ด้านว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อหัวหน้า พรรค พปชร. ทำหนังสือถึงสำนักงานเลขาธิการสภา ผู้แทนราษฎร 2 ฉบับ แจ้งว่า จะไม่ขอรับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งในการทำหน้าที่ สส.นับตั้งแต่ วันนี้เป็นต้นไป และอีกฉบับแจ้งว่าในส่วนเงินเดือนที่รับไปแล้ว นับตั้งแต่ดำรงตำแหน่ง สส. ขอคืนกลับมา ให้ทั้งหมด

โปรดเกล้าฯแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้าน

เมื่อเวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา มีการจัดพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ลำดับที่ 11 เมื่อถึงกำหนดพิธี เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เชิญพระบรมราชโองการว่า สมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่าอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 106 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายณัฐพงษ์เป็นผู้นำฝ่ายค้าน ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 25 ก.ย.2567 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร จากนั้นนายณัฐพงษ์ถวายบังคมต่อพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว หลังเสร็จพิธีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ร่วมถ่ายภาพแสดงความยินดีกับนายณัฐพงษ์ มี สส.พรรค ปชน. รวมถึงข้าราชการสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ร่วมแสดงความยินดี

ฟิตจัดลับมีดรอซักฟอกต้นปี 68

ต่อมานายณัฐพงษ์ให้สัมภาษณ์ว่า ยืนยันจะทำหน้าที่ตรงไปตรงมาที่สุด ให้คุ้มค่าเงินภาษี จากนี้การทำงานของฝ่ายค้านจะครบถ้วนสมบูรณ์เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย และเตรียมความพร้อมเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นช่วงต้นปี 2568 สำหรับการกระชับความสัมพันธ์กับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) คงทำงานแยกแยะงานพรรคกับส่วนบุคคล ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ถูกร้องเรียนเรื่องจริยธรรม หากมีประเด็นนี้เกิดในสภาฯ หากคณะกรรมการจริยธรรมไม่เดินหน้าตรงไปตรงมาเต็มที่ จะทำลายศรัทธาของประชาชน เรื่องนี้คณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองหารือ และส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร คิดว่าจะมีการดำเนินการเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา

ยังฝัน รบ.หนุน 6 แพ็กเกจที่เหลือ

นายณัฐพงษ์กล่าวถึง 7 แพ็กเกจแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรค ปชน. ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องได้รับความเห็นตรงกันของทุกฝ่าย ทั้ง สว. รัฐบาล หรือฝ่ายค้าน เรื่องมาตรฐานจริยธรรมพักไว้ก่อน เพราะหากรัฐบาลไม่เห็นด้วยอาจทำให้การแก้ไขทั้ง 7 ชุดถูกตีตก ทั้งนี้อีก 6 แพ็กเกจที่เหลือ เชื่อว่ารัฐบาลจะเห็นตรงกัน ส่วนกรณี สว.เสียงข้างมากคว่ำร่าง พ.ร.บ.ประชามติของ สส.อาจทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญทำไม่ทันการเลือกตั้งในปี 2570 ยังพอมีหนทางหากจัดทำประชามติเพียงแค่ 2 ครั้ง เรื่องนี้ต้องหารือกับฝ่ายค้านและรัฐบาล อาจต้องทำภายในรัฐสภา หารือกับประธานรัฐสภาว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน เมื่อถามว่ารัฐบาลขอถอนวาระรายงานคณะกรรมาธิการนิรโทษกรรมไปก่อน เพื่อไปพูดคุยกับหัวหน้าพรรคทุกพรรค เรื่องจุดยืนของผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 นายณัฐพงษ์ตอบว่า ไม่มีเหตุผลที่จะถอนร่างรายงานออกไปก่อน รายงานเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็น ไม่มีผลผูกพันใดๆ ที่ผ่านมามีผู้ได้รับผลกระทบจากคดีทางการเมืองมากมาย คนเหล่านี้ควรต้องได้รับการเยียวยา เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและได้รับความยุติธรรม

“ไอติม” ชูตั้ง ส.ส.ร.-แก้รายมาตรา

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวว่า กรณีวุฒิสภามีมติคว่ำร่าง พ.ร.บ.ประชามติของ สส. สภาผู้แทนราษฎรยังมีสิทธิยืนยันเนื้อหาร่างกฎหมายที่สภาฯให้ความเห็นชอบไปได้ แต่กระบวนการต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน แนะนำ 2 ทางออกให้กับรัฐบาล คือ การลดจำนวนครั้งการออกเสียงประชามติจาก 3 ครั้ง เหลือ 2 ครั้ง โดยให้ประธานรัฐสภาบรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อตั้ง ส.ส.ร.เข้าสู่วาระการประชุม ส่วนอีกทางออก คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราควบคู่ไป โดยแก้ไขมาตราที่มีความจำเป็นไปก่อน ยังเห็นว่าการจัดตั้ง ส.ส.ร.เพื่อมาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ สอดคล้องกับพรรครัฐบาล ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท. ก็เห็นด้วยกับการมี ส.ส.ร.มาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หวังว่าจะมีการผนึกกำลังระหว่างรัฐบาลและฝ่ายค้าน ให้การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เกิดขึ้นจริง

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่