คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เปิดใจดราม่าโดนไล่ออก หลังลางานไปเฝ้าลูกวัย 2 ขวบป่วยที่ รพ. ไข้ขึ้น 40-41 องศา พร้อมเผยสาเหตุที่ไม่หาคนมาเฝ้าแทน

วันที่ 28 สิงหาคม 2567 มีรายงานว่า จากกรณีโลกออนไลน์แชร์เรื่องราวของคุณแม่รายหนึ่งที่ได้ลางานไปเฝ้าลูกวัย 2 ขวบ ป่วยนอนโรงพยาบาล ผ่านไป 3 วันโดนไล่ออก ขณะที่โซเชียลเสียงแตก มองมุมต่าง หลายคนเห็นใจทั้ง 2 ฝ่าย ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว: โซเชียลถกดราม่า สาวโดนไล่ออก หลังลางานไปเฝ้าลูกวัย 2 ขวบที่ รพ.

ล่าสุด คุณแม่รายดังกล่าว เปิดเผยกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ว่า ตนเองได้พาลูกวัย 2 ขวบไปรพ. ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2567 โดยแจ้งลากิจแบบหักเงิน พร้อมกับอัปเดตแบบวันต่อวันว่าจะลา แต่ทางหัวหน้าทีมได้ทักมาให้ออกจากงานวันที่ 26 สิงหาคม 2567

ในช่วงแรกที่ลูกนอนรพ. อาการไม่ดี มีไข้สูงทุกวัน ประมาณ 40-41 องศา ต้องให้เลือด เจาะเลือด และพ่นยา ตนจึงไม่ได้ให้คำตอบกับที่ทำงานว่าจะลางานถึงวันไหน ซึ่งตอนนี้ลูกอาการดีขึ้นแล้ว หมอบอกว่าให้ยาฆ่าเชื้อครบ 7 วันก็จะได้ออกจากรพ. ครบกำหนดวันเสาร์นี้ (31 สิงหาคม)

คุณแม่เปิดเผยอีกว่า ในช่วงแรกไม่มีคนมาเฝ้าลูกที่ รพ. แทนได้ เนื่องจากน้องร้องไห้หาแต่แม่ ช่วงแรกลูกเป็นหนัก ไม่เอาใครเลย ตอนนี้สามารถสลับเฝ้ากับยายของน้องได้แล้ว ซึ่งตนได้เลิกกับพ่อของน้อง เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ระหว่างที่ตนเฝ้าน้อง แม่ของตนก็จะดูแลลูกคนโตอีกคนให้ ซึ่งตอนนี้ตนโดนให้ออกจากงานแล้วก็สามารถเฝ้าน้องเองได้

ส่วนเรื่องที่ตนโดนออกจากงานนั้น ส่วนตัวคิดว่า ถ้าที่ทำงานหาทางออกหรือพูดคุยด้วยความเห็นใจ ตนคงรู้สึกดีกว่านี้ และหลังจากตนได้โพสต์เรื่องนี้ลงโซเชียลแล้ว หัวหน้าทีมที่ตนได้คุยด้วยได้โทรมา แต่ตนไม่ได้รับ หลังจากนั้นตนก็โดนให้ออกจากกลุ่มไลน์ของที่ทำงานทุกกลุ่ม

...

สุดท้ายนี้ สำหรับคนที่ให้กำลังใจ ตนอยากขอบคุณทุกๆ ท่าน ขอบคุณที่ทำให้มีกำลังใจต่อไป เจอแบบนี้ก็เหมือนเจอทางตัน ทั้งต้องทำงานหาเงินคนเดียว ทั้งลูกป่วยเข้ารพ. แถมตกงาน ตอนนี้มีทางออกจากคนที่แนะนำมากมาย ขอบคุณมากๆ ค่ะ.