อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ประกาศปิด "น้ำตกแม่สา" ชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ หลังเกิดน้ำป่าไหลหลาก
วันที่ 27 สิงหาคม 2567 มีรายงานว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ หลายชั่วโมงตั้งแต่ช่วงเช้า ทำให้ในช่วงบ่ายวันนี้เกิดน้ำป่าจากดอยสูงไหลทะลักลงสู่น้ำตกแม่สา แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังใน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นกะทันหันและมีกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก
นายภูพิชิต ช่วยบำรุง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้สั่งปิดแหล่งท่องเที่ยวน้ำตกแม่สา ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปในพื้นที่ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เบื้องต้นไม่มีนักท่องเที่ยวได้รับอันตรายจากน้ำป่าไหลหลากและทรัพย์สินของทางราชการยังไม่พบความเสียหายแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนให้ชาวบ้านตลอดสองฝั่งลำน้ำแม่สาให้เฝ้าติดตามสถานการณ์และเตรียมพร้อมรับมือกับน้ำที่อาจจะล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนริมสองฝั่งลำน้ำได้ และจนถึงช่วงเย็นวันนี้ คาดว่าฝนจะยังตกลงมาในพื้นที่อำเภอแม่ริมอย่างต่อเนื่องทำให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ แฟนเพจ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้โพสต์ข้อความว่า "ประกาศ!!! น้ำป่าไหลหลาก บริเวณน้ำตกแม่สา อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้นแก่ชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว จึงขอปิดน้ำตกแม่สา (ชั่วคราว) จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ เหตุฉุกเฉิน โทร. 1669"
...
สำหรับวิธีสังเกตน้ำป่าไหลหลากในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ในช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ สิ่งที่ต้องระมัดระวัง คือฝนที่ตกหนักและตกสะสม ที่อาจทำให้เกิดอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ โดยเฉพาะน้ำตก ซึ่งนักท่องเที่ยวไม่ควรประมาทกับภัยธรรมชาติ ซึ่งสามารถสังเกตสัญญาณเตือนจากธรรมชาติได้
- บรรยากาศฟ้าครึ้ม คล้ายฝนจะตก
- มีเสียงน้ำไหลดังขึ้นผิดปกติ
- อุณหภูมิของน้ำเปลี่ยนไปจากปกติ
- น้ำตกมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
- สังเกตพฤติกรรมของสัตว์ป่า หากจะเกิดอันตราย สัตว์ป่ามักจะแตกตื่น และหนีออกมาจากป่าจนผิดสังเกต
- มีกิ่งไม้ เศษดิน หิน กรวด ไหลมากับน้ำ
- สีของน้ำเปลี่ยนเป็นสีแดงหรือน้ำขุ่นขึ้น
ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติไม่ว่าจะมาในรูปแบบใด ล้วนส่งผลกระทบต่อทั้งทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ และชีวิตสัตว์ป่า รวมถึงชีวิตของมนุษย์ที่ต่างได้รับผลกระทบส่งต่อถึงกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากประชาชนประสบเหตุอุทกภัยในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์หรือพื้นที่ใกล้เคียง สามารถขอความช่วยเหลือได้ที่ สายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง.
ข้อมูลจาก แฟนเพจ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย