เจ้าของบ้านสุดเซ็ง เปิดใจหลังถูกขโมยรุกที่ต่างจังหวัด รื้ออาคารไปทั้งหลัง จนต้องแจ้งความ บอกอยากจะมอบโล่รางวัล ด้านร้านค้าใกล้เคียงเผย เหตุเกิดในตอนกลางวัน
จากกรณีที่โลกออนไลน์ได้มีการแชร์เรื่องราวเตือนภัย จากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่โพสต์แชร์อุทาหรณ์ ถูกบุกรุกที่พักต่างจังหวัด รื้อถอนอาคารโรงจอดรถ-อาคารโรงเลี้ยงสัตว์ โครงเหล็กหายเกลี้ยง พร้อมเตือน ควรติดกล้องวงจรปิด และผูกมิตรกับคนในพื้นที่ไว้ ดังที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น (หนุ่มแชร์อุทาหรณ์ ที่พักต่างจังหวัด ถูกรื้อถอนอาคาร โครงเหล็กหายไปทั้งหลัง)
ล่าสุดวันที่ 26 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายสมศักดิ์ หิรัณยตระการ เจ้าของบ้าน อายุ 37 ปี ชาว กทม. ทราบว่า เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา เวลา 15.30 น. ได้เดินทางมาที่บ้านพัก พบว่าโรงจอดรถและอาคารโรงเลี้ยงสัตว์ ที่สร้างด้วยโครงเหล็ก บนพื้นที่กว่า 300 ตารางวา ได้ถูกรื้อถอนไป
จึงเดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ที่ดินดังกล่าวครอบครองตั้งแต่ พ.ศ. 2548 ช่วงแรกก็มาบ่อย เพราะคุณพ่อมาบ้านสวน กระทั่งเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา เข้ามาพบว่าทุกอย่างถูกรื้อถอนหมด แล้วตกใจคิดว่าเข้ามาบนที่ดินผิดแปลง จึงเดินออกไปดูนอกรั้ว ว่าป้ายบ้านเลขที่ใช่ของตนเองหรือไม่ ซึ่งที่ดินแปลงนี้ตนได้ประกาศขาย และมอบหมายให้นายหน้าเป็นผู้ดูแล นายหน้าเคยแจ้งว่าถูกตัดกุญแจรั้ว และนำกุญแจลูกใหม่มาล็อกให้ โดยนายหน้าดังกล่าว เป็นคนพาผู้ที่สนใจจะมาติดต่อซื้อมาดูที่ดิน
...
ซึ่งรอบแรกโดนรื้อผนัง ที่ทำด้วยตะแกรงเหล็ก ตัวอาคารและหลังคายังอยู่ ก็ไม่ได้ไปแจ้งความ กระทั่งล่าสุดเข้ามาก็ไม่เหลืออะไรเลย รอบหลังคล้องโซ่ไว้ก็โดนตัดโซ่ทิ้งก่อนหน้านี้ ต่อมาคนร้ายได้เข้ามาขโมยต้นตะกู ประมาน 1,000 ต้น ก็ถูกตัดหายไป คนร้ายได้เข้ามาลักทรัพย์เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า มูลค่าความเสียหายประมาณ 50,000 บาท
ส่วนอาคารที่หายไป ประมาณ 400,000 บาท มีเครื่องครัวสุขภัณฑ์ เครื่องจักรบางส่วนที่ใช้ทำการเกษตร อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายให้ได้ ไม่ใช่มีแค่แปลงตน มีหลายแปลงที่โดนแบบนี้ ในพื้นที่อำเภอกำแพงแสน ถือว่าก่อเหตุอุกอาจมาก เลือดเย็นมาก ก่อเหตุสองวันสองคืนเลย แถมยังมาขโมยสายไฟ แป๊บน้ำไปหมด อยากฝากถึงคนร้ายที่เข้ามาขโมยของ ถ้าดูข่าวอยู่ ให้เข้ามารับโล่รางวัลที่ผม ทำงานดีเด่นมากเลยครับ
ในส่วนของทางคดี วันนี้ชุดสืบภาค 7 ได้ลงพื้นที่ และนำเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดไปตรวจสอบ ซึ่งกล้องวงจรปิดบางจุด สามารถบันทึกได้ไม่กี่วัน และถูกบันทึกซ้ำไปแล้ว ต้องตรวจสอบอีกครั้งว่าสามารถกู้ได้หรือไม่ และเรียกนายหน้า พร้อมผู้เกี่ยวข้องไปสอบปากคำต่อไป
ด้าน นายมงคล ทองบุญเนือง อายุ 35 ปี เจ้าของร้านเจริญทรัพย์การเกษตร ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เผยว่า เราเปิดร้านขายของ มาอยู่นานประมาน 1 ปี ก่อนหน้ามีคนตัดหญ้าเข้าออกบ่อย มีคนเปิดประตูเข้าออกปกติ บางครั้งก็มีคนเข้าออกมาดู ที่เข้าใจว่าแบบนั้น
วันเกิดเหตุมีรถกระบะเข้ามา เมื่อช่วง 2 สัปดาห์ที่แล้ว มีรถมาจอดซื้อน้ำที่ร้าน ก็ยังถามว่ามาทำอะไรกัน เขาบอกว่าเจ้าของที่ให้มารื้ออาคาร ตอบด้วยท่าทีปกติ ตนคิดว่าเขามีกุญแจเข้าได้ ก็น่าจะมาจากเจ้าของที่นั่นแหละ อีกอย่างเขามาในช่วงกลางวันด้วย ไม่คิดว่าจะเป็นขโมย เพราะไม่ได้มีพิรุธอะไรเลย ส่วนตัวเจ้าของที่ดินไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว
ด้าน นายประทีป กังวาล ผช.ผญ.บ้านหมู่ที่ 2 กล่าวว่า จำวันที่เกิดเหตุไม่ได้ว่าเป็นวันที่เท่าไร ช่วงเช้าของวันนั้นผ่านมาเห็นรั้วเปิด และมีคนเข้าไปในพื้นที่ ตอนแรกก็คิดว่าจะเข้าไปคุย เข้าไปขอตัดหญ้า แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่าไม่เอาดีกว่า ก็เลยไม่ได้เข้าไปพูดคุยกับคนร้ายที่เข้ามาขโมยของด้านใน ส่วนตัวไม่ได้รู้จักกันกับเจ้าของที่ และเจ้าของที่ก็ไม่ได้ฝากฝังว่าถ้ามีใครเข้าออกให้แจ้งด้วย.