"หมอยง" เผยลักษณะอาการผู้ป่วย "ฝีดาษวานร" หากได้รับเชื้อแล้ว จะมีระยะฟักตัวประมาณ 5-14 วัน โดยผู้ป่วยจำนวนมาก จะมีตุ่มขึ้นบริเวณอวัยวะเพศรอบก้น
วันที่ 23 สิงหาคม 2567 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความเรื่อง "ลักษณะอาการของโรคฝีดาษวานร MPOX" โดยระบุว่า
"ฝีดาษวานร เมื่อได้รับเชื้อแล้วจะมีระยะฟักตัวประมาณ 5-14 วัน (ช้ากว่าโควิด-19) โดยจะเริ่มอาการไข้ เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามตัว เหมือนไข้ในโรคไวรัสทั่วๆ ไป หลังจากมีไข้แล้วประมาณ 1-2 วันก็จะมีตุ่มขึ้น โดยที่ตุ่มที่ขึ้นจะมากหรือน้อยแล้วแต่บุคคล หรือภูมิต้านทานของโรค
ผู้ป่วยจำนวนมาก จะมีตุ่มขึ้นบริเวณอวัยวะเพศรอบก้น ในเด็กจะขึ้นได้ทั่วไปบริเวณไหนก็ได้ ลักษณะของตุ่มที่ขึ้นจะแตกต่างกับสุกใส คือในฝีดาษวานร ตุ่มเกือบทั้งหมดจะมีระยะเดียวกัน และจะสุกพร้อมกัน ซึ่งต่างกับสุกใส ตุ่มจะมีหลายระยะ บางตุ่มใสแล้ว บางตุ่มเพิ่งขึ้นแดงๆ ตุ่มของฝีดาษจะขึ้นที่มือและเท้า ที่ฝ่ามือฝ่าเท้า มากกว่าลำตัวซึ่งต่างกับสุกใส จะขึ้นที่ลำตัวมากกว่า
เมื่อตุ่มที่ใสในฝีดาษวานร จะบุ๋มตรงกลาง หรือที่เรียกว่า umbilicated lesion ส่วนสุกใสจะมีลักษณะใส ชัดเจน ผู้ที่มีผื่นตามตัวหรือแพ้ง่าย ผื่นจะมีโอกาสขึ้นได้มาก และสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ การใช้มือไปแกะเกาแล้วมาขยี้ตา ก็อาจจะเกิดรอยโรคขึ้นที่ตาและเยื่อบุนัยน์ตา
ต่อมาก็จะตกสะเก็ด ตุ่มที่เกิดขึ้นรวมทั้งสะเก็ด มีเชื้อไวรัสจำนวนมาก สามารถติดต่อได้ ลักษณะอาการกว่าจะหายหมดใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ จนมั่นใจว่าตุ่มทุกตุ่มหายไป และไม่มีสะเก็ดหลงเหลืออยู่ผู้สัมผัสโรค จะต้องเฝ้าสังเกตอาการอย่างน้อย 21 วัน ถ้าไม่มีอาการก็ไม่น่าจะติดโรค".
...
ขอบคุณเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan