มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ขออภัย พร้อมเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเป็นธรรม กรณีรุ่นพี่ใช้ความรุนแรงกับรุ่นน้อง และผู้ปกครองได้รับบาดเจ็บ
วันที่ 16 สิงหาคม 2567 มีรายงานว่า จากกรณีสามีภรรยาได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มรุ่นพี่ เนื่องจากลูกชายวัย 20 ปี ซึ่งเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 และผู้ปกครองถูกรุ่นพี่ทำร้ายได้รับบาดเจ็บภายในมหาวิทยาลัย ขณะไปทำเรื่องของย้ายที่เรียนจากการรับน้องโหด ที่อ้างว่ามีการเผารักแร้และเผาอวัยวะเพศ
นายพล ผู้เป็นพ่อ กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อเช้าวันที่ 15 สิงหาคม ที่มหาวิทยาลัย ขณะกำลังไปคุยกับอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย เพื่อเรียกเด็กมาไกล่เกลี่ยว่า ลูกตนอยากเรียนหนังสือ ไม่ใช่มาเป็นนักเลง เขากำลังจะมาไกล่เกลี่ยกับตน แต่พอตนคุยจบกับอาจารย์ เขาดักอยู่ตรงห้องอาหารประมาณ 20 คน แล้วเดินเข้ามารุมทำร้ายเลยทั้งพ่อทั้งลูก โดยเขาทำตนและลูก 2 คน สาเหตุที่ตนเข้าไปมหาวิทยาลัยวันนี้ เพื่อจะไปแจ้งย้ายโรงเรียน เพราะลูกถูกกดดันและเครียด ถึงขนาดยึดบัตรประชาชนลูกตน แล้วไปถ่ายภาพบ้านตน ถ่ายภาพรถตน เพื่อว่าจะดักลูกตนอย่างเดียว
สาเหตุเกิดมาจากเรื่องการรับน้อง เป็นระบบไม่ธรรมดา เขาเผารักแร้และเผาอวัยวะเพศ คนอื่นยอมหมดแต่ลูกชายของตนไม่ยอม เลยเกิดความไม่พอใจว่าลูกตนแข็งกระด้าง โดยลูกชายของตนเพิ่งมาเข้าเรียนที่นี่ปีแรกปี 1 ส่วนตนได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ แขน นิ้ว และขา ส่วนลูกชายสมองบวม ซึ่งสมองตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไรมากไหม เพราะเขายังไม่รู้สึกตัว แล้วปากแตกเป็นแผลเยอะอยู่
น.ส.วรรณ ผู้เป็นแม่ กล่าวว่า ตนไปขอคุยกับครู เพื่อจะแจ้งย้ายจากที่เรียนจากฝั่งใต้ ย้ายไปอยู่ฝั่งเหนือ เพราะว่ากลัวลูกจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากโดนรุ่นพี่ขู่ จึงคุยตกลงกับอาจารย์จะมาขอร้องรุ่นพี่ว่าปล่อยน้องไปเถอะ ต่างคนต่างมาเรียนหนังสือ แต่พอลงมาจากตึกที่คุยกับอาจารย์เสร็จ กลุ่มรุ่นพี่เดินมาพูดกับลูกชายว่าจะต่อยกันตัวต่อตัวไหม ตนก็เอามือกั้นไม่ให้เขาต่อยลูก สักพักพอตนกั้นคนนี้ คนข้างหลังมารุมลูกทุกคนเลย รุมกระทืบกันประมาณ 10 กว่าคน แล้วพ่อเขาก็โดนด้วย ได้รับบาดเจ็บ
...
ตอนรับน้อง ลูกมาบอกตนว่ารุ่นพี่มีการให้ไปเข้าป่า มีการวิดพื้นเป็นร้อยรอบ หลักสูตรเหมือนทหารเลย ให้ลูกชายตนทำ แล้วก็เบิร์นขนรักแร้และอวัยวะเพศของน้องด้วยสีสเปรย์อะไรสักอย่าง ลูกชายทนไม่ไหว ได้บอกรุ่นพี่ว่าจะออกจากระบบ รุ่นพี่จึงบอกว่าลูกขายสถาบันเหรอ เขาทำเหมือนเอาลูกตนไปซ้อม ทุกคนซ้อมและดึงคิ้วลูกชาย แล้วบอกว่าให้แม่มารับศพที่หน้าโรงเรียนได้เลย
ตนเพิ่งรู้ว่าเกิดเหตุตรงนี้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ก่อนหน้านั้นไม่รู้ เพราะลูกไม่เคยบอกเรื่องการรับน้องรุนแรงจากรุ่นพี่มาก่อน แต่พอลูกชายเริ่มไม่ไหวถึงได้มาปรึกษาตน จึงได้บอกลูกว่าออกจากระบบได้ไหม ลูกก็บอกว่าจะออกจากระบบเพราะไม่ไหวแล้ว โดนจนทนไม่ไหว อยากจะแค่ไปเรียนหนังสือ ไม่ต้องรับน้อง แต่รุ่นพี่ขู่เอาไว้
ตอนที่ลูกชายถูกรุมทำร้าย ตนได้พยายามกันและกอดลูกไว้ แล้วบอกคนก่อเหตุว่าแม่กราบขอร้อง พอเถอะ ขอร้องยกมือไหว้พวกเขาทุกคนให้หยุดสักที แล้วเขาก็ผลัก ตนพยายามจะเข้าไปกอดลูก เขาก็กระทืบลูกและเน้นเฉพาะตรงหัว ตนร้องไห้ได้แต่บอกว่าหยุดเถอะ ตนกราบให้เขาหยุดเพราะรับไม่ได้ ตนกราบขอร้องเขา ขอให้เขาหยุดสักทีเถอะ แต่เขาก็ยังกระทืบไม่หยุด ตนก็กอดลูกแล้วก็กราบเขาอีก
สักพักก็มีอาจารย์เริ่มวิ่งเข้ามา แล้วบอกให้หยุดๆ แล้วปิดประตูรั้ว เพื่อไม่ให้น้องหนีออกไปข้างนอก แต่ไม่รู้น้องเขาหนีไปไหนกันหมด เหลืออยู่ประมาณ 2 คนที่ตำรวจได้สอบถาม เพราะเขาไม่ได้หนี
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะประสานขอภาพจากกล้องวงจรปิดในมหาวิทยาลัย เป็นหลักฐาน เพื่อดำเนินกับกลุ่มผู้ก่อเหตุต่อไป
โดยล่าสุดทางแฟนเพจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ RUS ได้โพสต์ข้อความว่า จากกรณีเหตุการณ์นักศึกษารุ่นพี่ใช้ความรุนแรงกับนักศึกษารุ่นน้องและผู้ปกครองจนได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2567
อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิได้เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้อง และเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งดำเนินการตามมาตรการของมหาวิทยาลัย และกฎหมายอย่างถูกต้อง เป็นธรรม พร้อมให้ความร่วมมือกับทุกฝ่าย และจะรายงานผลความคืบหน้าต่อไป ทั้งนี้ #มหาวิทยาลัยขอแสดงความเสียใจกับนักศึกษาและครอบครัวที่ได้รับบาดเจ็บเป็นอย่างสูง.