ประธานองคมนตรี เชิญหนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 44 ฉบับพระราชทาน มอบแก่ปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อเชิญไปมอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด จำนวน 9,278 เล่ม

วันที่ 13 ส.ค.67 พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นประธานในพิธีเชิญหนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 44 ฉบับพระราชทาน มอบแก่ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย จำนวน 9,278 เล่ม โดยมี นายแพทย์เกษม วัฒนชัย ประธานกรรมการมูลนิธิโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร นายจรัลธาดา กรรณสูต นายอำพน กิตติอำพน รองประธานกรรมการมูลนิธิฯ นายธงทอง จันทรางศุ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิฯ นายชาญวิทย์ อมตะมาทุชาติ กรรมการมูลนิธิโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ และคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยเข้าร่วม

โอกาสนี้ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เปิดกรวยกะทงดอกไม้ ธูปเทียนแพ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วเชิญหนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เล่มที่ 44 ฉบับพระราชทาน วางบนพานเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้น นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เข้ารับหนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 44 ฉบับพระราชทาน เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นอันเสร็จพิธี

...

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้มูลนิธิโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จัดพิธีมอบหนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 44 ฉบับพระราชทาน ในวันนี้ เพื่อเชิญไปมอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด จำนวน 9,278 เล่ม สำหรับมอบให้กับสถานศึกษาเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการศึกษา

นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริให้จัดทำสารานุกรมในรูปแบบ E-Book ด้วย อันจะยิ่งทำให้สามารถทำให้เรื่องราวต่างๆ ในสารานุกรมสามารถแพร่กระจายไปสู่ประชาชนทุกวัยได้โดยง่าย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระราชทานให้กับพวกเราชาวไทย

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า หนังสือชุดสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ถือกำเนิดขึ้นด้วยพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่มีพระราชประสงค์จะให้มีหนังสือที่จะรวบรวมความรู้แขนงต่างๆ สำหรับพสกนิกรได้มีโอกาสอ่านและศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง ซึ่งได้ริเริ่มดำเนินการในปีพุทธศักราช 2511 โดย พลโทพระยาศัลวิธานนิเทศ รับสนองพระราชประสงค์เกี่ยวกับการจัดทำหนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยได้รับพระราชทานเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นทุนในการจัดทำและได้ดำเนินงานมาจนถึงพุทธศักราช 2562

และต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน เปลี่ยนสถานะเป็นมูลนิธิ โดยใช้ชื่อว่า "มูลนิธิโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร" และพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้เงินและทรัพย์สินของโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เป็นทุนเริ่มแรก ในการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ ทั้งยังมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นองค์ที่ปรึกษา และมีนายแพทย์เกษม วัฒนชัย เป็นประธานกรรมการมูลนิธิฯ

"สำหรับหนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 44 ฉบับพระราชทานเล่มนี้ มีสาระที่น่าสนใจรวม 8 เรื่อง ได้แก่ 1. ลิเกป่า (แขกแดง) เป็นการแสดงพื้นบ้านอย่างหนึ่งของชาวไทยมุสลิมในชนบทภาคใต้ ที่เชื่อกันว่าได้รับอิทธิพลมาจากชาวอาหรับหรือ "แขกเจ้าเซ็น" เกิดจากการผสมผสานวัฒนธรรมที่หลากหลาย นิยมแสดงในแถบจังหวัดพัทลุง กระบี่ ตรัง นครศรีธรรมราช สงขลา สตูล 2. กลุ่มชาติพันธุ์ม้ง ม้งเป็นชื่อที่กลุ่มชาติพันธุ์ซึ่งอาศัยอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ภาคเหนือของเมียนมา ลาว เวียดนาม และไทย เป็นกลุ่มคนที่มีอัตลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ร่วมกัน ทำให้มีวัฒนธรรมประเพณี บรรทัดฐาน ภาษา และความเชื่อในแนวเดียวกัน อัตลักษณ์เหล่านี้ถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น

3. วิทยาศาสตร์การกีฬา เป็นวิทยาศาสตร์ประยุกต์ โดยนำหลักวิชาต่างๆ เช่น กายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยา และการออกกำลังกาย การแพทย์ โภชนาการ จิตวิทยา วิทยาศาสตร์การเทคโนโลยีต่างๆ เป็นต้น นำมาประยุกต์ใช้ในการออกกำลังกาย การฝึกซ้อมกีฬา การแข่งขันกีฬา ตลอดจนการดูแลสุขภาพร่างกายอย่างเป็นขั้นตอน การออกกำลังกายจึงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ 4. โลมาสีชมพู อาศัยในทะเลตามแนวชายฝั่ง พบบ่อยที่ชายทะเลภาคใต้ อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี และอำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช โลมาชนิดนี้ตอนอายุน้อยจะมีสีเทาเหมือนโลมาทั่วไป เมื่ออายุมากขึ้นจะเปลี่ยนเป็นสีขาวอมชมพูเกือบตลอดทั้งลำตัว โลมาสีชมพูสามารถเป็นตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของทะเลไทยได้เป็นอย่างดี

5. แมลงทับ เป็นแมลงประเภทด้วงตัวโต มีปีกสีเขียวมรกตเหลือบทองแดงเป็นประกายแวววาว อยู่คู่กับคนไทยมาตั้งแต่โบราณกาล แมลงทับที่พบในประเทศไทยมี 2 ชนิด มีลักษณะที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนคือ สี หนวด และขา คือ แมลงทับขาแดง พบมากในบริเวณป่าเต็งรังทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนแมลงทับขาเขียว พบอยู่ทั่วประเทศและพบมากในภาคกลาง 6. ทราย เป็นสิ่งที่เราพบเห็นได้ทั่วไป เป็นสสารแบบเม็ด เกิดขึ้นตามธรรมชาติจากหินที่ถูกย่อยเป็นเม็ดละเอียด และยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับธรรมเนียมประเพณีที่ปฏิบัติกันมาแต่โบราณ คือ ประเพณีการขนทรายเข้าวัดและการก่อพระเจดีย์ทรายในวันสงกรานต์ ถือเป็นการทำบุญโดยที่วัดจะนำทรายเหล่านี้มาใช้ในการก่อสร้างและซ่อมแซมถาวรวัตถุต่างๆ

7. คณิตศาสตร์ในธรรมชาติ ทุกสิ่งรอบตัวเราและทุกเรื่องราวล้วนเชื่อมโยงกับคณิตศาสตร์ รวมทั้งเรื่องราวต่างๆ ในธรรมชาติ เช่น พืช ต้นไม้ สัตว์ สิ่งของ ปรากฏการณ์ต่างๆ ในธรรมชาติที่อยู่บนฟ้า ในทะเล ในแม่น้ำ เป็นต้น ซึ่งสามารถวิเคราะห์และสร้างแบบจำลองใช้เป็นแนวทางการอธิบายและทำนายปรากฏการณ์ต่างๆ ในธรรมชาติ โดยนำคณิตศาสตร์เข้าไปเชื่อมโยงกับเรื่องของการชั่ง ตวง วัด ได้ด้วย และ 8. โรคมือ เท้า ปาก เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส พบบ่อยในเด็กเล็ก การติดต่อค่อนข้างง่ายผ่านทางการสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย หรืออุจจาระของผู้ป่วย หรือของเล่นที่ปนเปื้อนเชื้อ การระบาดมักเกิดในช่วงฤดูฝน หรือช่วงที่มีอากาศเย็นและชื้นมักเกิดในศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาล เราจึงควรศึกษาทำความรู้จักโรคนี้ ป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดของโรคและดูแลไม่ให้เกิดอาการรุนแรงได้" นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติม.