ผู้ใจบุญเห็นแล้วเอ็นดู นำขนมไปฮีลใจครู นักเรียน ในไวรัลเด็กรวมเงินฝากครูซื้อเค้กมาให้เพื่อน แต่ถนนลื่น ทำทั้งคน ทั้งเค้กเละ
วันที่ 2 สิงหาคม 2567 มีรายงานว่า จากกรณีโลกออนไลน์ได้แชร์เรื่องราวของครูโรงเรียนบ้านผาเวียง ต.ศิลาแลง อ.ปัว จ.น่าน ที่ได้โพสต์เล่าเรื่องราว เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 ที่ได้ระบุข้อความว่า "เมื่อนักเรียนฝากครูซื้อเค้ก และนี่คือ ผลงานของครู #สงสารเด็กๆเลย ครูขอรับผิดชอบด้วยการจ่ายค่าเค้กเองนะลูกก #แฮปแฮปนะอุ๊ด รอบหน้าครูจะทำให้ดีกว่านี้นะ งื้อๆๆๆ" พร้อมภาพประกอบเป็นเค้กวันเกิดที่มีสภาพเละเทะ และภาพประกอบเป็นรถจักรยานยนต์ล้มอยู่กลางทางในสภาพถนนที่เป็นดินเลน ทางไปโรงเรียนบ้านผาเวียง
ต่อมา ในเฟซบุ๊กของครูรายดังกล่าวได้อัปเดตเพิ่มเติมว่า ทางผู้ใจบุญนำโดยกลุ่มเล่าขวัญเมืองน่าน ได้รวบรวมเงินกันซื้อเค้กชิ้นใหม่ เพื่อไปให้เด็กๆ เป็นที่น่าตื่นเต้นดีใจสำหรับเด็กๆ เป็นอย่างมาก รวมทั้งมีผู้ใจบุญจากจังหวัดเชียงใหม่ซื้อยางรถจักรยานยนต์วิบากไปมอบให้คุณครู อีกด้วย
...
ด้านคุณครูรัตนา ขวัญมาลี ครูผู้โพสต์ เล่าให้ฟังว่า โรงเรียนบ้านผาเวียงอยู่ในพื้นที่ห่างไกล บนภูเขา ทางสัญจรหากหน้าฝนก็จะลื่น หน้าแล้งก็จะมีแต่ฝุ่น เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นักเรียนชั้น ป.5 และ ป.6 ได้มาหาและบอกว่า วันอังคารเป็นวันเกิดของนักเรียนหญิงชั้น ป.5 ชื่ออู๊ด อยากมีความทรงจำดีๆ กับเพื่อนๆ เลยรวบรวมเงินกันฝากครูไปซื้อเค้กเพื่อมากินกันในวันเกิด
คุณครูก็ได้ซื้อเค้กขึ้นมาในเช้าวันอังคารโดยใช้รถจักรยานยนต์ แต่ด้วยน้ำหนักของที่บรรทุก ประกอบกับครูเป็นคนตัวเล็กขาสั้น พร้อมทั้งฝนตกถนนลื่น ทำให้รถล้ม แต่ครูก็ปกป้องก้อนเค้กอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่หน้าเค้กก็เละอยู่ดี พอขับเข้ามาในโรงเรียน กลุ่มนักเรียนก็ได้มายืนรอพอเห็นครูก็รีบวิ่งมาเอาเค้ก แต่ปรากฏว่าหน้าเค้กเละไปแล้ว นักเรียนแต่ละคนสีหน้าเจื่อนๆ ครูเลยรู้สึกผิด ก็เลยนำเงินคืนเด็กๆ แต่เด็กๆ ไม่รับเงินคืน บอกกับครูว่า ไม่เป็นไรครู แบบนี้ก็สวยไปอีกแบบ จึงนำเรื่องราวไปโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวด้วยความเอ็นดู
ด้าน นายกิตติศักดิ์ ฟ้าสะท้อน แอดมินกลุ่มเล่าขวัญเมืองน่าน กล่าวว่า หลังได้เห็นโพสต์ของคุณครูก็รู้สึกเอ็นดู เลยรวบรวมเงินกัน เพื่อซื้อเค้กและขนมต่างๆ มาให้เด็กๆ
โดยนักเรียนหลายคนได้รับแจกโดนัทคนละ 2 ชิ้น เค้กคนละ 1 ชิ้น หลายคนกินอย่างอร่อย แต่สังเกตหลายคนกินเพียงอย่างละครึ่ง เหลือไว้อย่างละครึ่งชิ้น เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถาม น้องๆ นักเรียนแจ้งว่า อีกครึ่งหนึ่งจะเอาไปฟากน้อง ฝากพี่ ฝากพ่อ ฝากแม่ที่บ้าน เพราะอร่อย.