พุทธสถานฯ ที่มุกดาหาร ชี้แจง ดราม่าลัทธิประหลาด เชื่อเป็นการเข้าใจผิด ยันไม่มีการบังคับซื้อพาสปอร์ตสวรรค์ มีเพียงสมุดไว้ลงชื่อสำหรับคนเข้ามาใช้สถานที่เท่านั้น
จากการณีนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดมหาสารคาม โพสต์เกี่ยวกับเรื่องราวการออกค่ายแบบไม่ตรงปกซึ่งลักษณะหลอกว่าเป็นค่ายจิตอาสา เมื่อเข้ารวมโครงการแล้วต้องจ่ายเงินค่าเดินทางค่ากินอยู่ประมาณ 350 บาท แต่เมื่อไปแล้วกลับมีคำสอนที่แปลกไปจากพระพุทธศาสนา และยังมีการทำพิธีกรรมแปลกๆ ซึ่งกิจกรรมจัดขึ้นในวันที่ 13-14 ก.ค. 67 และที่แปลกสุดๆ ก็คือ การทำพาสปอร์ตสวรรค์ ซึ่งทางค่ายอ้างว่าเอาไว้ให้ยมบาลดูตอนตาย เป็นการถอดรายชื่อออกจากบัญชีของนรก เพื่อจะได้ไปสวรรค์ โดยในนั้นจะระบุข้อมูลส่วนตัวคล้ายบัตรประชาชน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันที่ 16 ก.ค.67 ความคืบหน้า ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ พุทธสถานไท่หลินฝอเอวี้ยน บ้านต่อเขต หมู่ 5 ต.โชคชัย อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร โดย อาจารย์ชัชวาล อารยะวงค์ชัย อายุ 69 ปี เปิดเผยว่า บริเวณแห่งนี้เป็นที่ดินของตนเอง โดยสถานที่ปฏิบัติมีการสร้างร่วมกับผู้มีจิตกุศล เพื่อสอนตามหลักธรรมคำสอนในแนวของพระพุทธเจ้า ก็คือสอนให้ทุกคนเป็นคนดี ซึ่งวิธีก็จะแตกต่างจากกันออกไป ส่วนใหญ่คนที่มาที่นี่ทุกคน ต้องกินเจเป็นหลัก
ส่วนที่มีการโพสต์เกี่ยวกับการสอนแบบประหลาดนั้น ทางเราไม่รู้เรื่อง เพราะเขามาเช่าสถานที่ในการจัดค่าย ซึ่งการสอนก็จะแตกต่างกันออกไปในแต่ละค่าย ส่วนเรื่องการทำพาสปอร์ตสวรรค์นั้น เราไม่มีการจัดทำแน่นอน มีเพียงแค่สมุดเล่มสีเหลือง เพื่อให้คนที่จะเข้ามาปฏิบัติธรรมได้ลงชื่อไว้เท่านั้น ส่วนใครที่ไปบอกว่าเป็นพาสปอร์ตสวรรค์นั้น น่าจะเป็นการเข้าใจผิด เพราะคนที่จะไปสวรรค์ได้ ตามหลักของศาสนาพุทธนิกายมหายาน คือต้องทำดี ปฏิบัติดี ข่าวที่ออกไปน่าจะเป็นการสื่อสารของคนที่พามาเข้าค่าย ทำให้เข้าใจแบบผิดๆ
...
ด้าน นายจันดี คำนนท์ อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้าน บ้านต่อเขต หมู่ 5 ต.โชคชัย อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร เปิดเผยว่า ตนเป็นตัวแทนฝ่ายปกครอง ได้รับคำสั่งให้เข้ามาดูเกี่ยวกับสถานที่ที่ถูกโพสต์ถึง ก็คือสถานที่แห่งนี้ โดยปกติแล้วก็เข้ามาเป็นประจำ ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีพิธีกรรมที่แปลกประหลาดอะไร ทางพุทธสถานไท่หลินฝอเอวี้ยน ก็มีการนำเยาวชนมาฝึกอบรมตลอด พร้อมกับยังมีการสอนภาษาจีนอีกด้วย และที่สำคัญยังมีการออกช่วยเหลือสังคมและผู้คนตลอด ดูแลผู้ป่วยติดเตียง บำบัดยาเสพติดโดยร่วมมือกับหน่วยงานราชการ.