เปิดใจสาวพลเมืองดี ช่วยรักษา "ฉลาม" แมวจร ป่วยโรค FIP-ลูคีเมีย ตาบอดทั้ง 2 ข้าง พร้อมประกาศหาบ้านให้ เผย อยากให้เขาได้ชีวิตใหม่ และมีครอบครัว

จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Chanicha Boonpanuvijit ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า 08/07/2024 ยังไม่ได้บ้านนะฮะ ทุกคน ช่วยกันหาบ้านให้พี่ฉลามแมวจรนักสู้ รักษาตัวจนตาบอดตัวนี้กัน 

ขั้นตอนนี้น่าจะยากที่สุดแล้ว แต่พี่ฉลามสู้สุดใจ ผ่านขั้นตอนการรักษาทั้งหลายจนรอดมาได้ ฝากด้วยนะทุกคน ถ้าสงสัยว่าทำไมถึงต้องรับเลี้ยงแมวที่มีโรคและจำเป็นต้องใช้เงินและการดูแลที่มากกว่าปกติ ชาตอบได้แค่ มันเป็นการช่วยเหลือหนึ่งชีวิตค่ะ 

วันที่เห็นเขาสุขภาพดี มีความสุข สิ่งที่คุณจะได้รับมันยิ่งกว่าความสุขอีกค่ะ การให้ชีวิตใหม่แก่ใครสักคนมันยิ่งใหญ่มากจริงๆ ฉลามคือแมวจรตัวผอมโซที่เดินมาขอข้าวจากชาเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา 14 วันให้หลัง ฉลามกลับมาพร้อมอาการหายใจไม่ออก ตัวซีดทั้งตัว หายใจหอบ ชารีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ตรวจพบน้ำท่วมปอด จากโรคลูคีเมีย FIP และเลือดจางจากพยาธิเม็ดเลือด

ฉลามเกือบตายจากอาการชักในวันแรก และผลที่ตามมาคือฉลามสูญเสียการมองเห็นแบบถาวร ตาบอดสนิททั้งสองข้างหลังจากนี้ 18 วันที่ฉลามอยู่ในโรงพยาบาลรักษาตัวมาอย่างต่อเนื่อง ฉลามสู้สุดใจมากๆ ที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ แม้เราจะช่วยรักษาดวงตาของฉลามไว้ไม่ได้ แต่ฉลามแสดงออกให้เห็นเสมอว่าเขายังอยากมีชีวิตอยู่ 

แปลกมากตอนที่ดวงตาฉลามยังมองเห็น ช่วงที่เขามาขอข้าวกิน ตอนนั้นฉลามมีขู่ชาอยู่บ้างตามภาษาแมวจร แต่วันที่เขาตาบอดสนิท เขากลับเชื่อใจชา ยอมให้จับตัว และทำเสียง purring ให้ชาได้ยินเป็นครั้งแรกตอนเราสัมผัสตัวเขา กล้าพูดได้เต็มปากว่าแมวจรตัวนี้รู้จักความรักแล้วฮะ

...

ฉลามคงสัมผัสได้ว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ชาไม่เป็นภัยต่อเขา และมาเพื่อช่วยเหลือเขาจริงๆ จากแมวจรผอมโซ ขู่ ดุ ในวันนั้น ตอนนี้มีเพียงฉลามขาวขี้อ้อน และรอคอยให้ชาไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลอย่างใจจดใจจ่อทุกวันในกรง ล่าสุดที่เข้าเยี่ยม ฉลามร้องดังตั้งแต่ยังไม่ได้ก้าวขาเข้าไปในห้อง พอเปิดกรงฉลามก็พุ่งตัวเข้ามาหาอย่างเร็ว 

ที่บ้านชามีแมวอยู่ 1 ตัว จริงๆ ก็เสี่ยงมากที่จับตัวฉลาม เพราะลูคีเมียเป็นโรคติดต่อ แต่การสัมผัสเป็นสิ่งเดียวที่ฉลามจะรับรู้ถึงเราได้ในตอนนี้ที่เขาตาบอดถาวร ชาไม่อยากแค่เอาเขาไปทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลแล้วรักษาตามมีตามเกิด แค่เกิดเป็นแมวจรมีโรครุมขนาดนี้ก็โชคร้ายมากๆ แล้ว ยังต้องมาเสียตาทั้งสองข้างไปอีก 

และวันนี้ที่เขามองไม่เห็นบวกกับการอยู่ในโรงพยาบาลที่ไม่คุ้นเคย ก็คงจะเหงาและสร้างความกังวลใจให้ฉลามไม่น้อยเลย ชาจึงมีความตั้งใจที่จะให้ความรักความอบอุ่นไปพร้อมๆ กับการช่วยรักษาเขาจนหายดี มีชีวิตความเป็นอยู่ที่มีคุณภาพ และได้รู้จักความรักจากการมีครอบครัว 

ถึงแม้ชาจะดูออกเลยจริงๆ ว่าตอนนี้ฉลามเริ่มรักชาแล้ว แต่ชาไม่สามารถอุปการะฉลามไว้ได้ เนื่องด้วยโรคลูคีเมียที่เป็นโรคติดต่อ และชามีน้องแมวที่บ้าน วันนี้จึงอยากขอให้ทุกคนช่วยกันหาบ้านอุปการะพี่ฉลามกันฮะ โรคที่ฉลามเป็นตอนนี้ที่กำลังรับการรักษาอย่างต่อเนื่องคือ

1. ลูคีเมีย ไม่สามารถรักษาได้ และเป็นโรคติดต่อในแมว 

2. FIP รักษาโดยการรับยาต่อเนื่องขั้นต่ำ 84 วัน 

3. พยาธิเม็ดเลือด ตอนนี้มีการตรวจเลือดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อเช็กค่าเม็ดเลือดแดง 

4. ตอนนี้ฉลามตาบอดถาวรทั้งสองข้าง 

ทั้งหมดนี้จึงเป็นสาเหตุที่ฉลามยังต้องรับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาล ชายังดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาทั้งหมดให้อยู่ แต่ทั้งนี้ โรค FIP ไม่ใช่โรคที่หายขาด การรับเลี้ยงฉลามจึงจำเป็นต้องมีปัจจัยเรื่องการเงินพร้อมมากๆ ด้วยค่ะ

คุณสมบัติของบ้านที่สามารถรับเลี้ยงฉลามได้คือ 

1. เลี้ยงแมว/ฉลามตัวเดียว หรือเลี้ยงรวมกับแมวลูคีเมีย และเลี้ยงระบบปิดเท่านั้น

2. มีค่ารักษาพร้อมดูแลเมื่อฉลามป่วย 

3. เข้าใจข้อมูลของโรค FIP/ลูคีเมีย หรือพร้อมศึกษาข้อมูลการดูแลพิเศษสำหรับแมวที่เป็นโรคนี้ 

4. มีคนอยู่บ้านเป็นประจำ เพราะฉลามตาบอดทั้ง 2 ข้าง

5. ยินดีให้เจ้าของเคสเข้าไปส่งและเยี่ยมฉลามในช่วงแรกที่ย้ายเข้า และยินดีส่งข้อมูลอัปเดตให้เรื่อยๆ

6. มีใจรักและเมตตาต่อสัตว์

ทั้งนี้ จนกว่าพี่ฉลามจะหาบ้านได้ ชาจะยังเป็นธุระดูแลและทำการรักษาฉลามอย่างต่อเนื่องในโรงพยาบาล 

ช่วงนี้ชายังพอมีเวลาดูแล แต่มีปัญหาตามมาอีกมากแน่นอน ถ้าพี่ฉลามหาบ้านไม่ได้ เพราะชาคนเดียวก็ไม่สามารถแบกรับทั้งค่าใช้จ่ายและการสละเวลาไปดูแลได้แน่ๆ ค่ะในระยะยาว หากมีบ้านไหนสนใจอุปการะสามารถติดต่อชาได้โดยตรงผ่านทางข้อความในเฟซนี้

ฝากชีวิตของพี่ฉลามด้วยนะทุกคน ชาก็จะพยายามทำในส่วนที่ตัวเองทำได้ให้เต็มที่ พี่ฉลามเขาก็เต็มที่ในส่วนของเขามากๆ เลย ฝากช่วยกันหาบ้านให้แกด้วยนะฮะ 

ซึ่งหลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ทั้งสงสารและเห็นใจ "ฉลาม" ที่เจ็บป่วย และขอแชร์กระจายข่าวให้มีคนมารับเลี้ยงไปดูแลต่อไวๆ 

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดวันที่ 11 ก.ค. 2567 "คุณชา" เจ้าของโพสต์ ได้เปิดใจกับ ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ พร้อมให้ข้อมูลว่า ยังไม่มีใครติดต่อมารับฉลาม สำหรับนิสัยของพี่ฉลาม ขี้อ้อนมาก ชอบให้คนจับตัว ติดคนมากๆ ทานเก่ง (อาจจะด้วยเมื่อก่อนอดอยาก) พูดมาก เรียกเก่ง ไม่ดุ

สุดท้ายนี้ คุณชายังได้บอกอีกว่า ขอบคุณทุกๆ คนที่ช่วยกันเป็นกระบอกเสียงแทนพี่ฉลาม พี่ฉลามอาจจะเป็นเพียงแมวจรตัวเล็กๆ แต่การช่วยให้เขาได้มีชีวิตใหม่ ได้รู้จักความรัก และความอบอุ่นของการมีครอบครัวคอยดูแล เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากๆ สำหรับชีวิตๆ หนึ่งค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Chanicha Boonpanuvijit