เจาะลึก "ทราย สมบูรณ์" ผู้กำกับและผู้ออกแบบท่าเต้นการแสดง "IBM 1401" โปรเจกต์พิเศษที่กำลังจะแสดงในวันที่ 5 ก.ค. 67 พร้อมเล่าเส้นทางชีวิตศิลปินไทยโลดแล่นที่นิวยอร์กทั้งอุปสรรค และความภาคภูมิใจ

เป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์พิเศษที่น่าจับตาในเดือนกรกฎาคม 2567 สำหรับ "IBM 1401" ผลงานการแสดงที่เป็นเหมือนภาพสะท้อนความสัมพันธ์ของมนุษย์ในยุคแรกเริ่มของเทคโนโลยี ผ่านการเต้นร่วมสมัย ที่กำลังจะจัดแสดงขึ้นที่ ศูนย์ศิลปการละครสดใสพันธุมโกมล อาคารมหาจักรีสิรินธร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในวันที่ 5-21 กรกฎาคม 2567 โดยความร่วมมือระหว่าง กลม (GLOM) กลุ่มละครในเชียงใหม่ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

แม้ว่า IBM 1401 จะเคยถูกจัดแสดงขึ้นที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว และได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก แต่ทว่าโปรเจกต์ IBM 1401 ที่กำลังจะแสดงขึ้นที่กรุงเทพฯ ในครั้งนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบทั้งผู้กำกับ นักแสดง และรายละเอียดต่างๆ ที่ถูกพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก 

...

และวันนี้ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ได้มีโอกาสพูดคุยกับ "คุณทราย สมบูรณ์" ศิลปินชาวไทยที่มีประสบการณ์ด้านการแสดงในนิวยอร์กกว่า 20 ปี ซึ่งเป็นผู้กำกับและผู้ออกแบบท่าเต้นของเรื่องนี้ ถึงเส้นทางชีวิตสายศิลปินไทยในต่างประเทศ และแรงบันดาลใจของการแสดง IBM 1401

รู้จัก "ทราย สมบูรณ์" เส้นทางศิลปินไทยในนิวยอร์ก

คุณทราย สมบูรณ์ เล่าว่า ผมเป็นคนไทยแต่เติบโตในสิ่งแวดล้อมที่นานาชาติ เพราะคุณพ่อคุณแม่ไปอยู่ซาอุดีอาระเบียเกือบ 20 ปี ผมจึงเกิดที่นั่น ดังนั้นภาษาแรกจึงไม่ใช่ภาษาไทย ครั้งแรกที่ผมมาเรียนที่ประเทศไทยคือช่วงประมาณอายุ 10-11 ปี มาเรียนเพียงแค่ 1 ปี แต่ผมรู้สึกโชคดีมากที่คุณแม่สอนภาษาไทยจนพูด อ่าน เขียนได้ ที่สำคัญคือคุณพ่อกับคุณแม่บังคับว่าอยู่ที่บ้านต้องพูดภาษาไทย ซึ่งคุณแม่เองก็เป็นอาจารย์สอนภาษาไทย จบการศึกษาจากคณะครุศาสตร์ จุฬาฯ

หลังจากนั้นจึงได้ย้ายกลับมาอยู่ที่ไทย ตอนประมาณเกรด 5-6 มาเรียนที่โรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และมีสตอรี่หนึ่งที่ผมชอบมากคือ ตอนที่คุณแม่พามาดูโรงละครของโรงเรียนนานาชาติ ISB (International School Bangkok) เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าโรงละครสวยจังเลย ใหญ่อลังการมาก ที่นั่งเป็นสีแดง พื้นที่เวทีใหญ่กว้างมาก จนเรามีความรู้สึกว่าอยากจะแสดง มีความอยากที่จะครีเอท ใช้ร่างกาย ใช้เสียง ใช้หน้าตาในการสื่อสาร เป็นแรงบันดาลใจที่สูงมาก ซึ่งคุณแม่เองก็สังเกตว่าลูกอาจจะมาทางด้านการแสดง จากนั้นจึงเปลี่ยนมาเรียนที่ ISB ประกอบกับตอนนั้นคุณแม่ก็ได้งานที่นี่ด้วย ตอนนั้นผมทุ่มเทกับกิจกรรมในการแสดงเต็มที่เลย ไม่ว่าจะเป็นการเต้น ละครเวที วงดุริยางค์ เรียกได้ว่าแทบทุกอย่างเลย เพราะผมรู้สึกตกหลุมรักกับสิ่งเหล่านี้มาก

เมื่อถามว่า ในตอนนั้นทางครอบครัวสนับสนุนไหม คุณทราย เล่าว่า ก่อนเกษียณ คุณพ่อเป็นวิศวกร แต่คุณพ่อเองก็มาทางสายครีเอทีฟ ชอบร้องเพลง คุณแม่เองก็ชอบร้องเพลง ดังนั้น เขาจึงเห็นถึงความสำคัญของศิลปะ คุณตาเองก็เคยเป็นกวี ความเป็นครีเอทีฟจึงถ่ายทอดมาหลายเจเนอเรชัน

จุดหักเหสู่การเป็นศิลปินเต็มตัว

หลังจากจบ ISB แล้ว ผมได้ไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา ในตอนนั้นมีความมุ่งมั่นตั้งใจว่าจะเรียนด้านกฎหมาย คิดว่าต้องจริงจังกับชีวิตแล้ว แต่เมื่อไปถึงมหาวิทยาลัยก็เหมือนมีความพิเศษบางอย่างดึงดูดเราให้กลับไปที่เวที จึงตัดสินใจเรียนด้านการเต้น แต่งานแรกหลังจากจบปริญาตรีแล้ว กลับได้งานทางด้านการศึกษาในมหาวิทยาลัย ซึ่งผมก็ทำงานนี้ได้ 3 ปี แล้วก็มีกระแสพิเศษดึงดูดเรากลับไปที่เวทีอีกครั้ง จึงตัดสินใจทิ้งงานนี้ ไปเรียนปริญญาโทด้านการเต้นโดยเฉพาะ ทุ่มเท 100% กับการเต้น 3 ปี เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่เราได้ก้าวเข้าสู่สังคมศิลปินจริงๆ

จากนั้นจึงย้ายไปนิวยอร์ก พร้อมกับตั้งเป้าหมายชัดเจนว่าจะไปเป็น "ศิลปิน" ที่นี่ แต่ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ค่อนข้างเอเชีย จึงทำให้เกิดข้อจำกัดเพราะโลกของมิวสิคัลเธียเตอร์ที่นิวยอร์กในสมัยนั้น ซึ่งย้อนไปประมาณ 10 ปีที่แล้ว แต่ตอนนี้ก็เปลี่ยนไปเยอะแล้ว โดยบทที่เหมาะกับคนเอเชียนจะมี The King and I แต่บางครั้งก็โดนเรื่อง หน้าตาไม่ไทยพอ แต่คุณแม่ก็บอกว่า อย่าท้อนะ เพราะนั่นก็เป็นมุมมองของเขา ที่ไม่เข้าใจว่า คนไทยนั้นมีหน้าตาหลากหลาย 

ชีวิตศิลปินไทยในนิวยอร์ก...ไม่ง่าย

นอกจากผมแล้ว คนไทยส่วนใหญ่ที่นี่ หากไปถามก็จะเจอเรื่องลักษณะนี้เช่นเดียวกันที่ต้องแคสต์บทในเรื่องที่เป็นเอเชีย มีการตั้งคำถามว่าทำไมเราจึงไม่ได้เล่นบทเป็นคนธรรมดา อย่างเช่น ครู หรืออื่นๆ ทำไมต้องเล่นบทที่เกี่ยวข้องกับเอเชีย สังคมที่นี่เขายังไม่สามารถที่จะผ่านจุดนี้ได้

Sleep No More, NYC 2012
Sleep No More, NYC 2012

แต่ในตอนที่รู้สึกท้อ ผมก็ได้เล่นเรื่อง SLEEP NO MORE เรื่องนี้เรียกว่าเป็น พรอมานาดเธียร์เตอร์ เป็นการแสดง Immersive Theater เรื่องแรกในนิวยอร์ก ที่โดดเด่นและอลังการมาก ซึ่งผมได้แสดงเรื่องนี้ประมาณ 2 ปีกว่าๆ ปัจจุบันเรื่องนี้ก็ยังแสดงอยู่ที่นิวยอร์กและดังมาก ลักษณะการแสดง ผู้ชมที่เข้ามาในตึกจะต้องสวมหน้ากาก แล้วก็เดินไปห้องแต่ห้อง ซึ่งตึกจะมี 6 ชั้น บางชั้นจะเป็นตลาด อีกชั้นก็จะเป็นอาณาจักรของคิง อีกชั้นอาจจะเป็นโรงพยาบาล ที่สำคัญคือเรื่องนี้จะไม่มีการพูดเลย จะใช้การเต้นถ่ายทอดเรื่องราวอย่างเดียว ซึ่งผมได้เล่นไปทั้งหมด 6 บท ซึ่งผมชอบเรื่องนี้มาก เพราะใช้การเต้นโดยเฉพาะ และการเต้นนั้นเป็นจุดเด่นของผม เป็นสิ่งที่มาจากแก่นเลย

คุณทราย สมบูรณ์ เล่าอีกว่า เมื่อปีที่แล้ว ผมได้เขียนเรื่อง Extraordinary Alien แม้เรื่องนี้จะไม่ได้ทำให้เราโดดเด่น แต่ว่าเป็นโปรเจกต์ที่ผมเขียนเองและแสดงเอง ที่สำคัญคือผู้กำกับเป็นคนไทยเหมือนกันอยู่ที่นิวยอร์ก และเป็นเพื่อนสนิทของผม ซึ่งตอนนี้เป็นผู้ช่วยผู้กำกับในบรอดเวย์ 

เรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวชีวิตของผม ในฐานะที่เป็นคนไทยแต่ไปอยู่ต่างประเทศ เป็นการแสดงที่มีทั้งการเต้นและบทพูดด้วย บอกเล่าประสบการณ์และอุปสรรคที่ผมเจอในฐานะที่เป็นนักแสดงทั้งที่ไทยและต่างประเทศ ซึ่งก็มีโมเมนต์หนึ่งเล่าสู่กันฟังเรื่องสีผิวว่า ตลอดชีวิตผมเป็นคนสีผิวแบบนี้ ตลอดชีวิตเป็นคนชอบว่ายน้ำ แต่มันมีค่านิยมที่คนมองว่า ยิ่งขาวยิ่งสวย แตกต่างจากที่เห็นในทีวี ซึ่งกระแสตอบรับดี เพราะว่าผมแสดงจากใจ ถือว่าเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะผมได้สะสมประสบการณ์ชีวิตในฐานะผู้กำกับ แดนเซอร์ แอ็กเตอร์ ทุกๆ อย่าง แล้วเดินทางมาที่ประเทศไทย จนมากับกลุ่มกลม และมาที่จุฬาฯ  

ผมรู้จักกับกลม ตั้งแต่ตอนที่ยังไม่มีการก่อตั้งอย่างเป็นทางการ ตอนนั้นเป็นเหมือนกลุ่มศิลปินที่อยากทำอะไรด้วยกัน แต่ยังไม่มีชื่อ จนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ผมได้มีโอกาสไปดู IBM 1401 ที่เชียงใหม่ แล้วก็รู้สึกชอบมาก เขาก็มีความตั้งใจพาเรื่องนี้มาที่กรุงเทพฯ โดยเป็นการเริ่มใหม่จากศูนย์ ไม่ได้เอามาทำใหม่ แต่เป็นผู้กำกับใหม่ และการที่เราได้สร้างอะไรก็เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นและท้าทายเหมือนกัน


IBM 1401 เวอร์ชันนี้ แตกต่างจากเดิมอย่างไร

คุณทราย สมบูรณ์ ผู้กำกับการแสดงและออกแบบท่าเต้น เปิดเผยว่า ในเวอร์ชันนี้จะมีแดนซ์มากขึ้น ทั้งยังมีนักแสดงที่มากไปด้วยความสามารถ แต่ละคนมีประสบการณ์ที่แตกต่างกัน บางคนมาจากบัลเลต์ บางคนมาจากโขน บางคนก็มาจากโมเดิร์นแดนซ์ ซึ่งจะโชว์ความโดดเด่นของพวกเขาออกมา นอกจากนี้ผู้กำกับดนตรีก็เป็นคนใหม่คือ คุณโจนัส เดปท์ (Jonas Dept) 

สำหรับกระบวนการทำงานของการแสดงนี้จะแตกต่างจากโปรเจกต์อื่นๆ ส่วนหนึ่งเพราะผมอยู่ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ได้กลับมาไทยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งปกติแล้วการออดิชันจะทำจบในทันที แต่สำหรับผมไม่ใช่แบบนั้น ผมอยากเห็นพัฒนาการของนักแสดง จึงจัดเวิร์กช็อปก่อนการออดิชัน จากนั้นจึงซ้อมการแสดงผ่านทางแอปพลิเคชันซูม ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายเหมือนกัน เพราะเวลาที่ไม่ตรงกัน และเป็นเรื่องยากเพราะผมเองก็มีงานประจำอยู่แล้ว แต่โชคดีที่มีผู้ช่วยผู้กำกับดูแลนักแสดงที่ไทย จากนั้นก็มีการคุยกันว่า ผมจะกลับมาไทยในวันที่ 24 มิถุนายน เมื่อผมกลับมาแล้ว พวกเราก็ทุ่มเทอย่างเต็มที่ 100% ในทุกวันเราจะซ้อมกันวันละ 9-10 ชั่วโมง จนถึงวันแสดง

คุณทราย ผู้กำกับการแสดง ได้เผยถึงแรงบันดาลใจของการแสดงนี้ว่า ในยุคปี 60 คอมพิวเตอร์ IBM 1401 เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีพลังที่ทำบางสิ่งบางอย่างที่มหัศจรรย์มาก ถ้าเทียบกับคอมพิวเตอร์ยุคเก่า ผมอยากจะเห็นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับเทคโนโลยี ในสมัยนั้นและในปัจจุบัน เราลองคิดดูว่า ตั้งแต่เราตื่นนอนขึ้นมา เราหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหรือเปล่า เราหยิบโทรศัพท์เข้าห้องน้ำหรือไม่ หรือเวลาขึ้น BTS ก็จะเห็นคนก้มหน้ามองจอ 

ผมจึงอยากจะสำรวจว่า แท้จริงแล้วความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับเทคโนโลยี มีความเชื่อมโยงกันจนเป็นหนึ่งเดียว แล้วมนุษย์เราพึ่งพาเทคโนโลยีเกินไปหรือเปล่า ในเรื่องนี้ตัวผมเองทำงานประจำเป็นผู้แนะแนวในโรงเรียนมัธยมจะสังเกตเห็นว่า บางครั้งโซเชียลมีเดียก็มีส่วนที่ไม่ดีสำหรับเด็ก เหมือนมี 2 มุม ข้อดีคือสามารถแชร์ในสิ่งที่เราสนุกเวลาไปเที่ยว กินข้าว ขณะเดียวกันก็ทำให้เด็กบางคนรู้สึกท้อ คิดว่าตัวเองไม่เก่งพอ ไม่สวย 

IBM 1401 โปรเจกต์นี้เป็นแดนซ์ จึงอยากให้ผู้ชมเข้ามาตีความด้วยตัวของเขาเอง ผมไม่ต้องการอธิบายให้ละเอียดว่า สิ่งนี้คืออันนี้ เพราะนี่คือจุดประสงค์ของโมเดิร์นแดนซ์ อยากให้คนเข้ามาตีความในสิ่งที่เห็น อย่างเช่น คาแรกเตอร์ของตัวละครนี้ อาจทำให้นึกถึงตอนตัวเองทำสิ่งนี้เวลาอยู่ที่บ้านกับแฟน ขึ้นอยู่กับมุมมองและประสบการณ์ชีวิตของแต่ละคน ผมไม่อยากให้คนที่เข้ามาแล้วเห็นทุกอย่างเหมือนกัน เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะนี่คือแดนซ์

"ผมคิดว่าการแสดงนี้เป็นรูปแบบใหม่ในไทย อย่างเช่น 1.ฉากที่ดูสมจริง ปกติแล้วในการแสดงแดนซ์จะเป็นเวทีว่างๆ ไม่ได้มีคอมพิวเตอร์ มีบ้าน มีโซฟา แบบนี้ ซึ่งการแสดงนี้เป็นสิ่งที่เราพยายามที่จะสร้างโลกบนเวที 2.การแสดงนี้ไม่มีบทพูดเลย ผมจึงเรียกว่า เป็น Dance Theatre Performance ไม่ใช่แดนซ์อย่างเดียว ไม่ใช่เธียเตอร์อย่างเดียว แต่เป็นการผสมกันแล้วสื่อสารผ่านทางร่างกาย

จึงอยากให้ทุกคนมาดูการแสดงนี้ เพราะเป็นการแสดงแบบใหม่ที่อาจะยังไม่เคยสัมผัสในประเทศไทย ที่ผสมแดนซ์กับเธียเตอร์เข้าด้วยกัน บวกกับไลฟ์มิวสิก จากนักดนตรีที่เก่งมาก นอกจากนี้บริเวณหน้าโรงละครยังมีนิทรรศการจัดแสดงประวัติของคอมพิวเตอร์อีกด้วย เป็นการแสดงบวกกับความรู้ เพื่อสร้างโลกให้กับผู้ชมได้เข้ามาสัมผัสโลกของเรา"

โดยจะจัดแสดงที่ ศูนย์ศิลปการละครสดใสพันธุมโกมล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุงเทพฯ ในวันที่ 5-7 กรกฎาคม, 12-14 กรกฎาคม, 19-21 กรกฎาคม 2567 รอบแสดงวันศุกร์/เสาร์ เวลา 14.00 น. และ 20.00 น. (เฉพาะวันอาทิตย์ 14.00 น. และ 18.00 น.) ราคาบัตรผู้ใหญ่ 1,200 บาท ส่วนนักเรียน/นักศึกษา 500 บาท

สํารองที่นั่งได้ที่ https://www.ticketmelon.com/glomtheater/ibm1401 
ข้อมูลเพิ่มเติม www.glom.cm/ibm-1401