ดีเจหนุ่ม ถูกชายเมากร่าง เรียกพวกมารุมทำร้ายจนดั้งหัก ปืนตบหน้า ล็อกตัวแฟนสาวเอาไว้ให้ยืนดู พร้อมชักปลั๊กวงจรปิด อ้างตำรวจก็ทำไรไม่ได้
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพตัวเอง ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้าย พร้อมแคปชั่นอ้างว่า เจ้าของร้านแห่งหนึ่ง แถวริมโขงนครพนม เปิดเกินเวลา เมาแล้วจับแฟนตนเองไว้ ก่อนพาเพื่อนมารุม เอาปืนมาตบจมูกตนเอง ซึ่งเป็นดีเจจนหัก เพียงเพราะไปเข้าห้องน้ำ ไม่ถึง 5 นาที เนื่องจากก่อนหน้าเปิดเพลงลากยาวมาก 2 ชั่วโมง และตอนที่ไปเข้าห้องน้ำ ก็เปิด Mixset เอาไว้ตามที่ร้านบอก ซึ่งเจ้าของร้านคิดว่าตนไม่เล่นต่อ
นอกจากนี้ ยังบอกด้วยว่า ตัวเองเพิ่งจะผ่าตัดใส่เหล็กได้ไม่กี่วัน อีกอย่างผมก็มีครอบครัวต้องดูแล มีพ่อมีแม่ ซึ่งร้านผิดเต็มๆ ที่เปิดเกินเวลา ตอนนี้แจ้งความแล้ว หลังจากนี้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมอัปเดตล่าสุดด้วยว่า ตอนนี้แฟนตนเองที่แท้ง กำลังมีภาวะเลือดออกช่องคลอดอยู่
ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณตีสอง ของวันที่ 29 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุ แฟนสาวของดีเจหนุ่ม พยายามช่วยกันหนีออกมาได้ และขับรถยนต์หนีกลับบ้านที่ จ.สกลนคร
เช่นเดียวกับเพจ อีซ้อขยี้ข่าว 3 ที่ได้โพสต์เกี่ยวกับเคสนี้เอาไว้ว่า "ดีเจหนุ่มร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกเจ้าของและหุ้นส่วนรุมทำร้ายร่างกายจนเจ็บสาหัส ดั้งหัก มือฉีก ซ้ำร้ายยังฉุดแฟนสาวที่กำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ มานั่งดูตอนที่กำลังถูกกระทืบ ก่อนจะผลักล้มจนแท้งลูก...นครพนม" ซึ่งต่อมามีการเปิดวาร์ปร้านที่คาดว่าเป็นจุดเกิดเหตุ ซึ่งจากการตรวจสอบ ก็พบว่าทางร้านมีการปิดคอมเมนต์ ไม่ให้คนแสดงความคิดเห็นกับเพจแล้ว
...
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดีเจกาฟิวส์ อายุ 27 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพทำงานเป็นดีเจเปิดเพลงร้านเหล้า ยอมรับว่าวันเกิดเหตุ มีชายอ้างว่าเป็นหุ้นส่วนเจ้าของร้านเหล้าชื่อดังแห่งหนึ่ง มาเปิดเพลงที่ร้าน จ.นครพนม ตนก็มาทำงานปกติ ถึงเวลาเลิกงานประมาณตี 2 จึงเปิดเพลงไว้ และเดินไปเข้าห้องน้ำ ต่อมาชายอ้างเป็นหุ้นส่วนเจ้าของร้านมาสอบถาม ไม่พอใจ หาว่าตนไม่ทำตามคำสั่ง ทั้งที่เลยเวลาปิดร้านแล้ว และดุด่า พูดจาหยาบคาย และมีการถอดปลั๊กกล้องวงจรปิด ก่อนชกต่อยทำร้าย เอาปืนตบหน้า พร้อมเรียกเพื่อนอีก 2-3 คนมาช่วยรุมทำร้ายตน ส่วนแฟนสาวที่อยู่ด้วยกัน ถูกล็อกตัวไม่ให้เข้ามาห้าม ถือว่าทำเกินไป และตนขอเอาผิดให้ถึงที่สุด
ด้านแฟนสาว เผยว่า โชคดีที่ตนไม่ถูกทำร้าย แต่ไม่สามารถช่วยแฟนได้ เพราะถูกล็อกตัว ยอมรับได้รับค่าจ้าง แต่มาทำร้ายร่างกาย แค่ไม่พอใจเกี่ยวกับการเปิดเพลง และยังโชว์กร่าง อ้างไม่มีใครเอาผิดได้ แม้แต่ตำรวจ เคลียร์แล้วตนจึงต้องออกมาร้องทุกข์ ให้ตำรวจดำเนินคดีถึงที่สุด แม้เราจะเป็นลูกจ้าง รับเงินจากเขา แต่ไม่ใช่ว่าจะทำแบบไหนก็ได้
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจพอจะทราบตัวผู้กระทำผิดแล้ว ซึ่งจะได้เรียกมาสอบสวนต่อไป ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย