สลดใจ พบ "พะยูน" ตัวเต็มวัย ลอยตายใกล้เขตอุทยานฯ ที่โคนหางมีเชือก "อวนดักปู" รัดแน่น เจ้าหน้าที่เร่งตามหาคนผิดมาดำเนินคดี

มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2567 ที่ผ่านมา นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หน.อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบซากพะยูนตัวโตเต็มวัยลอยตายอยู่กลางทะเลด้านหน้าหาดอ่าวนาง หมู่ 2 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ห่างจากฝั่ง 600 เมตร และห่างจากที่ทำการอุทยานฯ เพียง 2 กม.

หลังรับแจ้งจึงนำเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เข้าตรวจสอบทันที กลางทะเลพบซากพะยูนลอยตายอยู่ เป็นพะยูนเพศเมีย ขนาดโตเต็มวัย วัดความยาวได้ 2.1 เมตร ขนาดรอบตัว 1.3 ม. ขนาดโคนหาง 46 ซม. น้ำหนักประมาณ 200 กก. สภาพเพิ่งตายได้ไม่เกิน 6 ชม. ตามตัวไม่พบบาดแผลใดๆ

แต่ที่น่าสลดใจคือ ที่โคนหางของพะยูนพบอวนดักปู ลักษณะเชือกไนล่อน และตาข่ายเอ็นของชาวประมงพื้นบ้าน พันติดแน่นอยู่จำนวนมาก คาดว่าเป็นสาเหตุทำให้พะยูนตัวนี้ไม่สามารถโผล่ขึ้นมาหายใจเหนือผิวน้ำได้ จึงจมน้ำตายในที่สุด เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันนำซากพะยูนกลับเข้าฝั่ง และส่งไปผ่าพิสูจน์ซากที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง จ.ตรัง

...

นายยุทธพงค์ เผยว่า พะยูนตัวที่ตายล่าสุดนี้ถือเป็นความสูญเสียที่น่ากังวล เพราะก่อนหน้านี้ไม่ถึง 1 เดือน เพิ่งมีพะยูนถูกใบพัดเรือฟันตายใกล้ๆ จุดนี้มาแล้ว จนทางกรมอุทยานฯ สั่งให้ทำเครื่องหมายแสดงแนวเขตอนุรักษ์พะยูน และแหล่งหญ้าทะเลในพื้นที่ดังกล่าวไว้ ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านรับทราบว่าเป็นแนวเขตหากินของพะยูน ซึ่งเราเพิ่งบินสำรวจพบพะยูนแม่ลูกเข้ามาว่ายหากินใกล้แนวชายฝั่งแถบนี้

รวมทั้งมีประกาศชัดเจนห้ามไม่ให้มีการทำประมงในพื้นที่เกิดเหตุ มีเจ้าหน้าที่คอยออกตรวจตราพื้นที่ตลอด แต่ยังมีชาวบ้านลักลอบไปวางอวนดักปู ซึ่งถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย จนเป็นเหตุให้พะยูน สัตว์ใกล้สูญพันธุ์มาตายลงอีก

เบื้องต้นตนให้นิติกรของอุทยานฯ เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.อ่าวนาง เพื่อหาตัวคนกระทำความผิดมาลงโทษ โดยผู้ที่ลักลอบทำประมงในพื้นที่ห้าม จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 และความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562.