โรงพยาบาลนครปฐม ชี้แจงกรณีเด็กหญิงวัย 7 ปี ป่วยหนัก นอนหมดสติกว่า 11 วัน ยันแพทย์รักษา ดูแลเต็มที่ พร้อมอำนวยความสะดวกหากครอบครัวต้องการย้ายโรงพยาบาล

จากกรณีที่โซเชียลแห่ให้กำลังใจ เด็กหญิงวัย 7 ปี หลังแม่ได้โพสต์ขอความช่วยเหลือในเพจดัง เนื่องจากลูกสาวป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ชนิดขึ้นสมองเฉียบพลัน หมดสติมาแล้ว 11 วัน ดังที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น (แห่ให้กำลังใจ เด็ก 7 ขวบ ป่วยไข้หวัดสายพันธุ์ A นอนหมดสติมา 11 วันแล้ว)

ล่าสุด วันที่ 18 มิถุนายน 2567 คณะทีมแพทย์พยาบาลผู้บริหารโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม ได้มีการประชุมเร่งด่วน และได้ประสานไปยังนายสมชาย ป้อกลาง และนางสาวสุนิสา ขำแจ่ม พ่อแม่ของน้องมินนี่ เด็กหญิงวัย 7 ปี คนดังกล่าว พร้อมหารือสรุปผลการรักษา และพูดคุยกันในเรื่องความเข้าใจผิดในการสื่อสารกัน โดยมีพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้เข้ามาเป็นคนกลางที่ช่วยทำความเข้าใจในประเด็นดังกล่าว

นายแพทย์วีระเดช เฉลิมพลประภา รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลนครปฐม เปิดเผยว่า หลังพูดคุยกับพ่อแม่เด็ก ทราบว่ามีความประสงค์จะย้ายน้องมินนี่อายุ 7 ปี ไปรักษายังโรงพยาบาลอื่น ซึ่งทางโรงพยาบาลพร้อมที่จะประสานและทำเรื่องส่งตัวให้อำนวยความสะดวกทุกขั้นตอน แต่พ่อแม่น้องมินนี่ยังให้ความมั่นใจในการรักษาของโรงพยาบาลนครปฐม ซึ่งตอนนี้ก็ยังอยู่ในห้อง ICU มีแพทย์พยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด และได้มีการทำความเข้าใจตรงกันแล้ว 

...

ด้านหลวงพี่น้ำฝน เผยว่า ที่ได้ทราบเรื่องก็มาจากเพจดัง โดยมีลูกศิษย์แจ้งมาว่า มีโยมเดือดร้อน ถามทางอาตมาพอจะมีทางช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายโรงพยาบาลได้ไหม จึงไปประสานสอบถามข้อมูลจากนายแพทย์สุรชัย โชคครรชิตไชย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม ซึ่งได้อธิบายการทำงานของคณะแพทย์ จึงได้เข้ามาช่วยหารือกัน

ในกรณีนี้พบว่าน่าจะเป็นการสื่อสารกันที่คลาดเคลื่อน โดยจากประสบการณ์ที่เคยเจอมา อาจจะเกิดจากการไม่ได้แจ้งความคืบหน้าให้กับทางญาติทราบ ก็ทำให้เกิดความรู้สึกว่าไม่ได้รับการช่วยเหลือดูแล ซึ่งตรงนี้ก็อาจจะฝากทางทีมงานช่วยกันให้ข้อมูลกับญาติมากขึ้น และยืนยันว่าทีมแพทย์พยาบาลนั้น ได้ทำงานช่วยประชาชนเต็มที่แน่นอน โดยเป็นโรงพยาบาลที่มีเครื่องมือที่มีความพร้อมอยู่แล้ว

ส่วนที่อาตมาจะมาช่วยคือ มากำชับและติดตามการรักษาให้เต็มที่ ช่วยประสานงานให้ ส่วนการจะย้ายโรงพยาบาลก็เป็นเรื่องของทางพ่อแม่เด็ก ซึ่งทางโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม ก็พร้อมจะประสานงานต่อให้ หากจะย้ายโรงพยาบาล แต่หากจะย้ายไปโรงพยาบาลอื่นนอกระบบหรือเอกชน เกรงว่าค่าใช้จ่ายจะสูงแน่ๆ และทีมแพทย์ที่นี่ทำงานเต็มที่อยู่แล้ว ซึ่งวัดไผ่ล้อมได้มีโรงพยาบาลนครปฐมสาขาย่อยไปตั้งอยู่ จึงเข้าใจการทำงานของทีมบุคลากรทางการแพทย์ และความต้องการของชาวบ้านดี

ขณะที่นายสมชาย ป้อกลาง และนางสาวสุนิสา ขำแจ่ม พ่อแม่ของน้องมินนี่ วัย 7 ปี บอกว่า เบื้องต้นอาการลูกสาวที่เข้าเยี่ยมล่าสุด ช่วงบ่าย 2 โมงที่ผ่านมา มีการพูดให้กำลังใจ ซึ่งน้องมินนี่สามารถรับรู้และตอบสนองด้วยการบีบมือแม่ ขยับตัวเล็กน้อย ยกขา และหาว อาการดีขึ้นจากวันแรกที่เข้ารักษาตัว เป็นวันที่ 12 ของการเข้ารักษาตัว

ซึ่งไม่ได้ต่อว่าการทำงานของทีมแพทย์พยาบาลของโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม และยืนยันว่ามีการดูแลเป็นอย่างดีทุกเรื่อง ไม่ติดใจอะไร แต่การที่จะขอย้ายไปยังโรงพยาบาลศิริราช ก็ยังคงอยากจะไป เพราะอยากให้ลูกสาวได้รับยาที่ดี รับการรักษา เพิ่มโอกาสที่จะช่วยน้องมินนี่

โดยทางโรงพยาบาลนครปฐม บอกว่า พร้อมจะประสานหาโรงพยาบาลรัฐที่มีเตียงว่างและส่งตัวให้ แม้ทั้งคู่จะเป็นพนักงานรายได้ไม่มาก จะมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย แต่ก็อยากจะสู้กับลูกสาวให้เขาฟื้นกลับมาให้ได้ และขอเตือนว่า ช่วงนี้ไข้หวัดระบาดหนัก พ่อแม่ ผู้ปกครอง ควรหมั่นตรวจสอบสุขภาพบุตรหลาน หากพบมีไข้ ซึม ไอ จาม ก็ควรรีบนำไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจอาการให้ละเอียดในช่วงนี้.