"กรรชัย" หนุ่มหมวกขาว ผู้ประสบภัย สน.ทองหล่อ โผล่ "เปิดปากกับภาคภูมิ" เล่าเหตุการณ์ปะทะเชื่อมจิต เผยสาเหตุตะโกนเรียก "ทนายธรรมราช" คนจริง จะเก่งแต่ในโซเชียลทำไม

วันที่ 4 มิ.ย.67 ในรายการเปิดปากกับภาคภูมิ ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 วันนี้เป็นการพูดคุยในประเด็น "เชื่อมจิต" บุกพบ พม. - ปอท. พ่อแม่เด็ก 8 ขวบ อ้างถูกคุกคาม โดยมีแขกรับเชิญอย่าง กรรชัย กำเนิดพลอย หนุ่มหมวกขาว ที่กลายเป็นผู้ประสบภัยที่ สน.ทองหล่อ เมื่อวานนี้, คุณต้นอ้อ เป็นหนึ่ง, ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช, ดร.ประยุทธ ประเทศเสนา หรือ "มหาหมี", อี้ แทนคุณ

หนุ่ม กรรชัย เผยว่า ตนมีการแจ้งความเขาใน 2 คดี และเขาก็ฟ้องตนมา 1 คดี และแจ้งความเพิ่มเมื่อวานอีก 1 คดี 

ด้าน ทนายอนันต์ชัย เผยว่า ส่วนที่ตนไปแจ้งที่ ปอท. ตอนนี้รับเป็นคดีแล้ว อยู่ในชั้นสืบสวนสอบสวน และผม ต้นอ้อ และ อี้ แทนคุณ โดนคนละคดีที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ ในส่วนของผมนั้นมีเพิ่มอีก 2 คดี เป็น 3 คดี ซึ่งเกี่ยวกับหมิ่นประมาททั้งหมด ตอนนี้มีคนเดียวที่ยังไม่โดน คือ มหาหมี 

กรรชัย เผยต่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาหาตนวันนี้ เป็น ผู้การนครบาล 5 มากับรอง ผกก. ที่เป็นข้อพิพาทกันอยู่ ส่วนเมื่อวานเราได้แจ้งความดำเนินคดีเขา 2 ส่วน คือ ส่วนตัว กรณีที่พ่อ แม่ ลูก ไลฟ์สด และได้มีการใช้คำพูดหมิ่นประมาทตน อีกส่วนเป็นของบริษัท ของรายการ ที่แจ้งความ พ่อ แม่ และที่ปรึกษาทางกฎหมายของเขา (ทนาย) ทีนี้ทนายเองเคยมารับทราบข้อกล่าวหาไปแล้ว โดยมาก่อนกำหนดที่นัดกับตำรวจไว้ หลังจากนั้น พ่อ แม่ และน้อง ก็ต้องมา ซึ่งเขาตกลงว่าจะมาวันที่ 5 มิ.ย. ตำรวจก็ทำหนังสือส่งไปที่ พม. เพราะมีเรื่องของเด็กเข้ามาเกี่ยวด้วย เพื่อแยกสอบเด็ก แต่อยู่ดีๆ เขามาเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นวันหยุด พม. ก็มาไม่ได้ พนักงานที่ต้องพิมพ์ลายนิ้วมือด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ก็มาไม่ได้ ต้องหยุด ทุกอย่างก็พังหมด ซึ่งในข้อเท็จจริง ตามมารยาท ไม่ควรจะทำแบบนี้ ต้องแจ้งพนักงานสอบสวนที่เป็นเจ้าของสำนวนก่อน 

...

ส่วนตัวในฐานะที่เป็นเจ้าทุกข์แจ้งความไว้ ก็ตกใจ จึงรีบโทรหาทนายอนันต์ชัย ว่าต้องทำอย่างไร ก็ได้รับคำแนะนำว่า ต้องไป เพื่อไปตามความคืบหน้าในคดีของตัวเองด้วย ตนก็เลยไป 

ด้าน ทนายอนันต์ไชย เผยว่า เนื่องจากคดีของ หนุ่ม กรรชัย มีพนักงานสอบสวนอยู่แล้ว การที่จะมารับทราบข้อกล่าวหา ก็ต้องเป็นพนักงานสอบสวนคนนั้น แต่วันนั้นพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีอยู่ต่างจังหวัด และเขาก็นัดกับ พม. ไว้แล้ว อีกทั้งเป็นวันหยุดราชการ โดยหลักการและเหตุผลก็ไม่ควรมาวันนี้ มาแบบนี้ก็มีเจตนาที่จะหลบหลีก ไม่ให้ใครรู้ 

เมื่อถามว่า แล้วเกิดอะไรขึ้น หนุ่ม กรรชัย เผยว่า เหตุการณ์ ณ ตอนนั้น คือไม่มีตำรวจคนไหนบอกเราเลย ซึ่งที่ สน.ทองหล่อ ชั้น 2 จะเอาไว้พิมพ์ลายนิ้วมือ และเจ้าหน้าที่เขาไม่มา สุดท้ายแล้วเขาก็นั่งอยู่ที่ห้องสอบสวนชั้นล่าง และตำรวจก็บอกทางครอบครัวว่าต้องขึ้นไปพิมพ์ลายนิ้วมือแบบใช้หมึก ที่ชั้น 2 แต่ที่ทราบจากทาง ผกก. คือ ทางคุณแม่เองไม่ยอม ถ้าจะขึ้นต้องเอาน้องขึ้นไปด้วย และถ้าขึ้นไปและมีนักข่าวถ่ายรูป ก็จะฟ้อง ม.157 หมดทั้งโรงพัก รวมถึงสื่อที่ถ่ายรูปด้วย ตำรวจก็กังวลใจ เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร แยกลูกก็จะฟ้องอีก เจรจาอย่างไรก็ไม่ยอม สุดท้ายตำรวจจึงต้องเอาลายนิ้วมือมาพิมพ์ข้างล่าง 

ซึ่งห้องข้างล่างเป็นห้องทึบ ปิดล็อกประตูหมด ซึ่งผมจะเดินไปเข้าห้องน้ำบริเวณนั้นก็ถูกห้ามไม่ให้ไป เขาบอกอย่างเดียวว่า ไม่ให้ผ่าน ซึ่งวันนี้เขาก็มาขอโทษแล้ว เขาก็บอกว่า เหตุการณ์ตอนนั้นมันตึงเครียดมาก ซึ่งตนก็เข้าใจในบริบทที่ตำรวจทำงานอยู่ ตนเข้าใจทั้งหมด แต่ตนแค่เป็นห่วงว่าคนอื่นจะทำตาม ว่าคุณต้องปั๊มลายนิ้วมือที่นี่เท่านั้น ไม่งั้นไม่ยอม และต้องกั้นพื้นที่ตรงนี้ ห้ามคนเข้าออก ถ้าไม่ทำตามจะฟ้อง ม.157 นะ

ด้าน อี้ แทนคุณ เผยว่า ซึ่งตอนที่เราถามไป เขาก็ไม่ได้ตอบว่ามีใช้ข้อกฎหมายอะไร อย่างพี่หนุ่มไม่ได้จะเข้าไปคุกคาม และเราเห็นตรงกันหลายเรื่อง ว่าควรอะลุ้มอล่วย ไปห้องน้ำก็แค่มีตำรวจประกบ ไม่ใช่ไล่ไปที่อื่น 

ส่วนวันนี้ที่แม่ของน้องไป พม. และ ปอท. โดยอ้างว่า เมื่อวานนี้ถูกคุกคามนั้น ต้นอ้อ ถามว่า คุกคามตรงไหน คุณอยู่ในห้อง เราไปคุกคามอะไรคุณ ตอนแรกมีปากเสียงเพราะทนายตุ๋ยไปเข้าห้องน้ำ และถูกแอดมินเขามองหน้า เหมือนหาเรื่อง ทนายตุ๋ยก็พยายามเลี่ยงที่จะปะทะ รวมถึงคนอื่นๆ ด้วย อยู่ในที่ของตัวเอง แต่จังหวะนั้น ทนายตุ๋ย คงไม่ไหว จึงไปถามเขา และทีมงานเขาพยายามที่จะปัดตัวทนายตุ๋ย ทีมงานเราเลยเข้าไปบอกว่าอย่ามาประชิดตัว หลังจากนั้นก็เริ่มมีปากเสียง และได้ยินเสียงแม่ลอดออกมาว่าให้ทนายเขาออกมาดู แต่เขาเห็นว่าสื่อเยอะ ท่าทีไม่ดี ก็ปิดประตูล็อก และก็ยังมีเสียงด่าลอดออกมาตลอด ว่าปากดีนักนะ แต่เขาไปให้สัมภาษณ์ที่กองปราบว่า เราไลฟ์ด่าลูกเขา ซึ่งเมื่อไรคุณจะหยุดเอาลูกมาเป็นกำแพงให้คุณสักที 

ดร.แทนคุณ บอกด้วยว่า เรื่องการเอาลูกมาเป็นโล่ เป็นกำแพง น่ากลัวมาก มีช่วงหนึ่งที่เขาจะออกจากโรงพัก ผมก็ไปบอกตำรวจให้หาเสื้อคลุมมาปิดให้น้อง ซึ่งตำรวจก็ไปเจรจา ซึ่งจริงๆ ควรทำได้เลย เพราะมีอำนาจ แต่เขาไม่ยอม และว่าลูกเขาไม่ผิด ซึ่งตนมองว่าเขาต้องการเอาลูกเป็นโล่ เกราะป้องกันตัว

หนุ่ม กรรชัย อธิบายต่อว่า เบื้องต้นทางครอบครัวเขาจะทำหนังสือชี้แจงตำรวจเอง ว่าเขาไม่ได้มีการหมิ่นฯ ซึ่งเขาก็ได้แจ้งความตน กับต้นอ้อ ในข้อหา คุกคาม ข่มขู่ และทารุณกรรมเด็ก ซึ่งก็งงว่า ทารุณตรงไหน เพราะตนจำได้ว่า ที่พูดคือ บอกตำรวจว่า สื่อกำลังทำหน้าที่ของเขาอยู่ และเขารับผิดชอบตัวเองได้ ถ้ามีการเผยหน้าเด็ก เขาต้องรู้อยู่แล้ว

อีกส่วนหนึ่งคือ การตะโกนเรียก ทนายธรรมราช เพราะตนไม่ชอบถูกรังแก แต่ก็โดนรังแกบ่อยในโซเชียล เขาก็จะคอยแซะ ตนก็โต้กลับ แต่แค่รู้สึกว่า คนจริง หรือคู่พิพาทกัน ไม่จำเป็นต้องด่ากันในโซเชียล ถ้าเจอก็เดินมาคุยกันเลย เราก็ตะโกนให้มาคุยกัน จะเก่งแต่ในโซเชียลทำไม 

ด้าน ทนายอนันต์ไชย บอกด้วยว่า ไม่เกินสิ้นเดือนนี้ คุณจะรู้ว่านรกมีจริง โดนหลายข้อหา พ.ร.บ.คอมฯ, พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก, ฉ้อโกงประชาชน และอาจจะมีฟอกเงินด้วย คุณเตรียมไว้แล้วกัน และอยากจะบอกว่า สำนักพุทธส่งเอกสารมาที่ ปอท. แล้ว และจะนัดมาสอบคำให้การในวันพฤหัสบดีนี้ ก็อยากจะบอกกับประชาชนว่า อย่าไปว่าสำนักพุทธ เพราะตอนนี้เขาทำงานอยู่

และขอพูดถึงตำรวจหน่อย เมื่อวานตนก็คุยกับ หนุ่ม กรรชัย ตลอด คุณหนุ่มเขาไปห้องน้ำ แทนที่จะอธิบายถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ทราบ แต่บอกแค่ว่า ผมมีอำนาจ และไม่อธิบายอะไรเลย ซึ่งเป็นการใช้อำนาจข่มขู่ และช่วงที่จะพาเด็กออกจากโรงพัก กลับมีการประกาศว่า ห้ามเข้ามานะ เหมือนเป็นการดูถูกสื่อมวลชน ซึ่งเขาต้องรับผิดชอบตามหน้าที่ของเขาอยู่แล้ว รวมถึงเรื่องมาตรฐานของการพิมพ์ลายนิ้วมือด้วย ตำรวจกลายเป็นอำนวยความสะดวกไปทั้งหมด

ขณะที่ มหาหมี ระบุว่า กระบวนการมันจะจบแล้ว แต่ประเด็นวันนี้เราเกิดความไม่สบายใจ เมื่อผู้ใหญ่ใน พม. ให้สัมภาษณ์ในลักษณะนี้ ทำให้เขาเอาไปอ้างได้ว่า สิ่งที่เขาทำมันถูกต้อง แต่อยากจะบอกว่า พม. ต้องดูกฎหมายให้ดี

นอกจากนี้ กรรชัย ยังฝากบอก พ่อแม่ของน้องเชื่อมจิตด้วยว่า อยากให้หาที่ปรึกษาทางกฎหมายดีๆ สักคน เพราะสำคัญมาก การที่มีที่ปรึกษาทางกฎหมาย แล้วเขามีการส่งเสริม ยุยง ไปในทางที่ไม่ถูกต้อง สุดท้ายแล้วตัวความจะติดคุกเอง แต่ที่ปรึกษาทางกฎหมายไม่ได้ติดคุก ที่สำคัญ ตนก็ไม่ได้ก้าวล่วง แต่เมื่อไปถึงขั้นนั้นแล้ว เด็กจะอยู่อย่างไร และสังคมจะมองเด็กอย่างไร ฉะนั้นที่ปรึกษาทางกฎหมายสำคัญที่สุด อะไรที่ไม่ดี ก็ต้องบอกว่าไม่ได้ ดันกันไป ก็พังหมด จึงอยากให้คิดถึงลูกเยอะๆ.

ที่มาจาก รายการเปิดปากกับภาคภูมิ