"กรมการแพทย์" เผย 4 โรคหน้าร้อน พบบ่อยใน "เด็ก" แนะผู้ปกครองควรใส่ใจระมัดระวัง พร้อมหลีกเลี่ยงอากาศร้อนจัด

วันที่ 17 เม.ย. 2567 นายแพทย์สกานต์ บุนนาค รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ในช่วงต้นเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด อุณหภูมิสูง เชื้อโรคต่างๆ สามารถเจริญเติบโตได้ดีและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ซึ่งเชื้อโรคเหล่านี้จะปะปนมากับอาหารและน้ำดื่ม พ่อแม่ผู้ปกครองระมัดระวังเรื่องสุขอนามัย ความสะอาด โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็กให้มากที่สุด เนื่องจากเด็กเล็กมีภูมิต้านทานร่างกายที่น้อยกว่าผู้ใหญ่ ส่งผลให้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย

นายแพทย์อัครฐาน จิตนุยานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวต่อว่า โรคหน้าร้อนที่พบบ่อยในเด็กมีมากมาย ดังนี้

  • โรคท้องร่วง 

สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัส แบคทีเรีย โปรโตรซัว พยาธิ ติดต่อโดยการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีเชื้อโรคเข้าไป โดยจะพบอาการถ่ายเหลวมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน ถ่ายเป็นน้ำหรือมีมูกเลือดปนและเมื่อเชื้อเข้าสู่กระแสเลือดทำให้ติดเชื้อในเลือดเสี่ยงต่อการคุกคามถึงชีวิตได้  

  • โรคอาหารเป็นพิษ 

เกิดจากเชื้อต่างๆ ที่มาจากพิษแบคทีเรีย เชื้อรา หรือสารเคมีที่ปนเปื้อน มักพบได้จากอาหารที่ไม่สุกสะอาด อาการมีไข้ ปวดท้อง อาเจียน คลื่นไส้ ถ่ายอุจจาระบ่อยครั้ง 

  • โรคภูมิแพ้ผิวหนังในเด็ก 

เป็นโรคผิวหนังที่พบบ่อยในหน้าร้อน อาการของโรคคือ ผิวหนังจะแห้ง คัน และไวต่อสารภายนอกที่มาสัมผัส ทำให้มีผื่นขึ้นในลักษณะเป็นๆ หายๆ การป้องกันทำได้โดย เลือกสวมใส่เสื้อผ้าเนื้อนุ่ม ใช้สบู่อ่อน และใช้ครีมบำรุงผิวเพื่อให้ผิวเกิดความชุ่มชื้น 

...

  • โรคลมแดดหรือฮีตสโตรก 

เกิดจากอากาศที่ร้อนเกินไปจนทำให้ร่างกายปรับสมดุลอุณหภูมิไม่ได้ จนอาจเกิดอาการฮีตสโตรก อาการที่พบได้แก่ ปวดศีรษะ หน้ามืด เพ้อ ชัก ไม่รู้สึกตัวหายใจเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรืออาจจะช็อกจนเสียชีวิตได้ 

อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองควรระมัดระวังในเรื่องสุขภาพ และความสะอาดให้แก่เด็กๆ โดยมีหลักสำคัญคือ รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ รักษาความสะอาดของร่างกาย หลีกเลี่ยงอากาศร้อน หากร้อนมากควรพยายามลดความร้อน โดยอาบน้ำ เปิดแอร์ เปิดพัดลมให้บุตรหลานให้อยู่ในที่อากาศถ่ายเทได้ดี ให้ดื่มน้ำมากขึ้นในวันที่มีอากาศร้อนจัดเพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำ และดูแลสุขอนามัยเพื่อให้ปลอดภัยจากโรคในหน้าร้อน.