หนุ่มแชร์อุทาหรณ์ พาครอบครัวเที่ยวไต้หวัน คุณพ่ออายุ 81 ปี เกิดอาการตาเหลือกลอย นอนนิ่งไป 30 นาที พร้อมเตือนคนที่จะพาผู้สูงอายุไปเที่ยว
วันที่ 11 เมษายน 2567 โลกออนไลน์ได้มีการแชร์เรื่องราวอุทาหรณ์ จากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่โพสต์ลงในกลุ่ม ท่องเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง 2024 ระบุว่า ขออนุญาตแชร์ข้อมูลเพื่อให้เพื่อนๆ ได้เตือนใจกัน ก่อนพาคุณพ่อ คุณแม่ ที่เป็นผู้สูงอายุเที่ยวนะครับ และอยากจะขอบคุณร้านที่ตั้นสุ่ยด้วยครับ
ด้วยคุณแม่ (อายุ 71) แกอยากไปไหว้พระที่วัดหลงซาน จึงรีบจัดแจงจองตั๋ว จองโรงแรม เพื่อพาแกไปเที่ยว คุณพ่อ (81) ก็คงต้องไปด้วย ไม่งั้นน้อยใจกันแย่ ช่วงก่อนไปมีข่าวแผ่นดินไหว แต่พ่อกับแม่บอกไปได้ ไม่กลัว ก็ไปกัน
ถึงไต้หวันก็เที่ยวกัน จนถึงวันที่ก่อนจะกลับ ได้ไปเดินที่ตั้นสุ่ย ประกอบกับวันนั้นมีแดด อากาศค่อนข้างร้อน พ่อที่อายุมาก+เดินไม่ค่อยไหว คงใช้ร่างกายมากไป และอากาศร้อนจริงๆ มีสัญญาณมาก่อนหน้าแล้ว เพราะเดินไปพักไป แกบ่นปวดขา เหนื่อย ขอพักตลอดเวลา ซึ่งเราก็ไม่ได้เอะใจ เพราะวันก่อนๆ ก็เป็น แต่ไม่ได้บ่อยเหมือนวันนี้
จนเจอร้านน้ำแข็งใสร้านนึง โต๊ะว่าง จึงพาแกมานั่งพักที่ร้านนี้ แต่แล้วเหตุการณ์ก็เกิดขึ้น คือระหว่างกินน้ำแข็งใส อยู่ดีๆ พ่อก็พูดขึ้นมาว่า "ขอสวดมนต์หน่อย" แล้วก็ตาเหลือก คอพับ แล้วอาเจียนออกมา น้ำตา น้ำมูกไหลออกมาหมด เราไม่มีความรู้ทางการแพทย์ ก็ได้บอกพนักงานร้านว่า ให้ช่วยเรียกรถพยาบาลให้หน่อย
พ่อมีอาการตาเหลือก ตาลอย ร่างกายไม่ขยับ นิ่ง อยู่นานประมาณ 30 นาที ระหว่างรอรถพยาบาล ในใจเราคิดว่าท่านน่าจะไม่รอดแล้ว หมดอายุขัย จึงเตรียมคิดเรื่องอื่นๆ ที่ไม่อยากให้เกิดล่วงหน้าไปแล้ว แต่อยู่ดีๆ พ่อก็ขยับปาก เราก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาทันที ประกอบกับทางร้านก็น่ารักที่สุด ช่วยติดต่อรถพยาบาล และปิดร้านเลย เพื่อให้พ่อเราได้นอนราบไปในร้านเลย
...
หลังจากนั้นรถพยาบาลก็มา ก็พาไปหาหมอ หลังจากนั้นประมาณ 3-4 ชม. พ่อก็อาการดีขึ้น หมอบอกว่าน่าจะเป็นลมแดด เพราะอายุมาก ร้อนและใช้ร่างกายมาก เหตุการณ์ทั้งหมดจึงอยากให้เพื่อนๆ ที่จะพาผู้สูงอายุมากๆ ไป ดังนี้
1. อย่าคิดว่าท่าน ที่ไม่มีสัญญาณอะไรจะแข็งแรง เพราะอายุเยอะอะไรก็เกิดขึ้นได้ ดีที่สุดเตรียมรถเข็นไปด้วยทุกครั้ง ให้ท่านได้เที่ยวแต่ใช้ร่างกายน้อยที่สุด รวมถึงยาโรคประจำตัวถ้ามี ท่องไว้เลยครับสำคัญพอๆ กับ Passport
2. ประกันทำไว้ เอาแบบสูงสุดยิ่งดี หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน ยังช่วยค่าใช้จ่ายเราได้ (เคสนี้โชคดี รพ.ในไต้หวันน่าจะมีสวัสดิการเกี่ยวกับนักท่องเที่ยว เพราะตอนแรกจ่ายเงินค่ารถพยาบาลไปแล้ว แต่พอไม่เป็นไรมาก ทาง รพ.ก็คืนเงินให้เต็มจำนวน)
3. ติดป้ายชื่อ ที่พัก โรคประจำตัว ทั้งภาษาอังกฤษ จีน ไทย ห้อยไว้เลย เพราะเวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือพลัดหลง ไม่ต้องอธิบายมาก ทางคนไต้หวัน หรือผู้มาพบเห็นจะได้ช่วยเหลือได้
4. พาไปพบแพทย์ เพื่อตรวจร่างกายก่อนเดินทางไปเที่ยว อย่างน้อยความเห็นแพทย์จะให้เราได้ระมัดระวังก่อนไปได้
5. สุดท้ายอยากขอบคุณเจ้าของร้าน หรือพนักงานร้านน้ำแข็งใสที่ตั้นสุ่ย ที่ช่วยเหลือ โทรหารถพยาบาล ปิดร้านยอมเสียรายได้ เพื่อให้พ่อได้นอนในร้านสบายๆ แถมยังอยู่ข้างๆ คอยสอบถามอาการตลอดเวลา ประทับใจที่สุด และจะบอกว่าน้ำแข็งใสอร่อยมากด้วย ไม่ได้อวยนะครับ อร่อยจริง ใครได้ไปทานร้านนี้ (หน้าร้านตามภาพครับ) ฝากบอกให้ทีครับว่าคุณพ่อปลอดภัยดี และจะไปอุดหนุนร้านนี้ตลอดไป เท่าที่มีโอกาสได้ไปไต้หวันครับ
ยาวหน่อย แต่อยากฝากเพื่อนๆ ไว้ครับ
ขอให้ทุกคนเที่ยวให้สนุกครับ ประทับใจไต้หวันทุกครั้งที่ไป
ซึ่งหลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นโดยขอให้คุณพ่อท่านดังกล่าวหายไวๆ และขอแชร์เรื่องราวที่เกิดขึ้นเก็บไว้เป็นอุทาหรณ์
ล่าสุด หนุ่มเจ้าของโพสต์ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับ "ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" เมื่อถามถึงอาการของคุณพ่อว่า อาการปกติดีแล้วครับ ใช้ชีวิตปกติครับ ตั้งแต่เที่ยวกันมา เพิ่งเจอเหตุการณ์ครั้งนี้ครั้งแรกครับ ท่านมีโรคประจำตัว คือ ความดันครับ ซึ่งก่อนบินก็ได้ไปตรวจร่างกายกับแพทย์ก่อนแล้วครับ
เมื่อถามถึงคำแนะนำที่อยากฝากถึงครอบครัวอื่นๆ ทางเจ้าของโพสต์เผยว่า ตามที่โพสต์เลยครับ วีลแชร์สำคัญมาก ให้ผู้สูงอายุได้เที่ยวแต่ใช้ร่างหายน้อยที่สุด อย่าไปเชื่อว่าเดินไหว คนแก่ชอบโชว์ว่าทำอะไรได้อยู่ ดื้อ ไม่บอกความจริง การเอาวีลแชร์ไปด้วยดีที่สุด
ตรวจร่างกายกับแพทย์ก่อนบิน เพื่อความมั่นใจ ขนาดผมพาไปตรวจก่อน ยังเจอเหตุการณ์แบบนี้ ประกันการเดินทางสำคัญ หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน ประกันช่วยเราได้ในด้านค่าใช้จ่าย ไปต่างประเทศ การสื่อสารสำคัญ ทำป้ายชื่อ (หลายภาษา ไทย จีน อังกฤษ) ระบุ ชื่อ ที่พัก โรคประจำตัว เบอร์ติดต่อ ห้อยคอ หรือติดตัวคนแก่ไว้ เผื่อฉุกเฉิน หรือพลัดหลง คนมาพบเจอจะได้ช่วยเหลือได้ทันที.
ขอบคุณข้อมูลจาก กลุ่ม ท่องเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง 2024