วันที่ 5 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประเด็นที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์ สำหรับดราม่า "ไข่พะโล้" เมื่อลูกค้ารายหนึ่งได้โพสต์ระบายความในใจลงในกลุ่ม บุรีรัมย์ร้านอร่อยบอกต่อ ระบุว่า ขอระบายหน่อยค่ะ เห็นแต่ในเพจตลอด ไม่เคยคิดจะเจอกะตัวเองเจอจนได้ เมื่อเช้าคุณพ่อไปซื้อร้านประจำอะเนาะ เพราะสะอาด อร่อย ถูกปาก เจ้าของร้านน่ารักใจดี จึงมาร้านแกมาตั้งแต่แกยังหนุ่มจนนี่วัยเกษียณละ
แล้วมาเจอแบบนี้ เมื่อเทียบกะเจ้าอื่น หรือที่ตลาดสด ปริมาณแม้กระทั่งน้ำแกง ใส่มาเยอะๆ ได้ราคาไม่เคยเกี่ยง ให้มาน่ารักจัง ซื้อมากินนะคะ ไม่ใช่ซื้อมาไหว้เจ้า โคตรเสียความรู้สึก อะไรวะคะ!?!!
ซึ่งหลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างก็มีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็น พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์ถึงปริมาณไข่พะโล้ที่ลูกค้าได้เป็นจำนวนมาก แต่แล้วก็เกิดกระแสตีกลับ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Bug Boss ได้โพสต์ชี้แจงลงในกลุ่มเช่นเดียวกัน
...
ระบุว่า "ผมเจ้าของ "ร้านอุดมโอชา" ถนนหลักเมืง ขออนุญาตแอดมินชี้แจงเกี่ยวกับโพสต์ "ขอระบาย" ครับ คือ...ผมจะมาพูดเรื่องจริงให้รับทราบกัน เรื่องจริงในที่นี้ คือเป็นคนที่ขายและอยู่ในเหตุการรับเงินทอนเงิน..ก่อนอื่นต้องขอบคุณ คุณพ่อของลูกค้าเช่นกันนะครับ ที่น่ารักและเป็นลูกค้าประจำร้านอาหารของแม่ผม มาแต่หนุ่มจนเกษียณ
ร้านของแม่ก็ไม่ต่างกันคับเปิดขายมาไม่ต่ำกว่า 50 ปี ตั้งแต่คุณลูกค้ายังไม่เกิดมั๊งคับ..แต่มาวันนี้ในรุ่นลูกของลูกค้า"คุณไม่น่ารักเลย"บอกตรงๆจากใจ ถามหน่อยครับ คุณถามคุณพ่อแล้วคุณพ่อบอกยังไง..วันนี้ที่ร้านพะโล้หมด เหลือไข่ไม่กี่ใบ เรากำลังทำออกมาใหม่ แต่มันต้องใช้เวลา
คุณพ่อคุณก็ตกลงเอาไข่ 2 ใบ และแกงขี้เหล็ก 1 ถุง (ที่ร้านผมขายไข่พะโล้ใบละ 10 บาท ขนาดเล็กใหญ่ก็ 10 บาท แล้วแต่ไข่ที่เขาส่งมา ส่วนแกงจะตักทุกอย่าง 40 บาท เว้นแพนงเนื้อตัก 60 ถุงจะเล็กว่าอย่างอื่น เพราะเนื้อแพงมาก แต่ต้องทำทุกวัน เพราะลูกค้าแม่ขาดไม่ได้แพนงเนื้อ เพราะความเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนที่อื่น
และพะโล้ตัวปัญหาจะตัก 50 บาท มีไข่ 2 ใบพร้อมหมูครับ ดังนั้นอาหารที่คุณพ่อลูกค้าได้ไปคือไข่ 2 ใบ กับแกง 1 ถุง รวมแล้ว 60 บาท คุณพ่อให้แบงค์ 100 และทางร้านทอนไป 40 บาท ผมก็ไม่ทราบว่าคุณมาโพสต์ระบาย เพราะมันแพง หรือเพราะคุณคิดอะไร
ผมขออนุญาตถามคุณสักนิดนะครับว่า..การที่คุณเป็นคนกล้าทำอะไรแบบนี้ ต่อสถานที่สาธารณะได้โดยไม่คิดไม่ถามอะไร ทั้งๆที่บอกผมว่าเป็นลูกค้ากันมา ตั้งพ่อคุณยังหนุ่มจนแก่ คุณก็ไม่น่ากลัวที่จะกลับมาถามผมที่ร้าน ว่าทำไมร้านผมทำอะไรแย่ๆ ให้คุณไป ไม่ใช่เอาเรื่องมาโพสต์แบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ให้คนอื่นที่เค้าไม่รู้อะไร
มาว่าร้านผมแบบนี้ ผมไม่ซีเรียสเรื่องร้านผมโดนอะไรแบบนี้ แต่ผมซีเรียส จิตใจลูกค้าแม่ผมคนอื่นๆ ที่เค้ากินกันมา ตั้งแต่รุ่นอากงอาม่า จนลูกหลานเป็นอธิบดี เป็นหมอ เป็นนายพลนายพัน รวมถึงพี่ป้าน้าอาที่รักอาหารฝีมือแม่ผม เขาเสียความรู้สึก เนี่ยลูกค้าหลายๆ คนมาที่ร้านบอกเห็นยังๆ โพสต์นี้ เพื่อนๆ ก็ไลน์มาถามกันเต็มเลย ถามจริงๆครับผมขายไข่พะโล้ใบละ 10 บาท กะแกงถุงละ 40 ให้คุณพ่อคุณไป ผมผิดจนคุณต้องระะบายขนาดนี้เลยเหรอ"
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าของร้านดังกล่าว ได้เปิดใจกับทีมข่าว "ไทยรัฐออนไลน์" หลังจากเกิดเรื่องขึ้นว่า ทางลูกค้าไม่มีติดต่อมาเลย ขอโทษสักคำยังไม่มีเลย คนที่มาให้กำลังใจก็พูดกันเยอะ ว่าฟ้องเลย ก็เลยเข้าไปแซวใต้คอมเมนต์เขาว่าทำไงดีมีแต่คนบอกให้ผมไปคุยกันที่ศาล เขาตอบมาว่าได้ค่ะยังไงก็ได้ค่ะ อึ้งเลยครับ
เมื่อถามว่าเคยเจอลูกค้าบ่นว่าได้น้อยไหม ทางเจ้าของโพสต์บอกว่า ไม่เคยเจอว่าน้อย มีแต่ลูกค้าบอกว่าไม่ต้องเยอะนะ กรณีนี้ทางร้านถึงรู้สึกเสียใจ เพราะเราอยู่กับลูกค้ามาแบบนี้ตลอดไม่ต้องขอก็ให้เยอะจนลูกค้าบอกพอแล้ว อยากบอกลูกค้าว่าการที่ทำอะไรแบบเหตุการณ์นี้ โดยบอกว่าเป็นลูกค้านานมันก็ไม่ต่างจากลูกค้าทำร้ายญาติตัวเอง
เพราะร้านที่คุณสามารถติดตามซื้อกันนานขนาดนี่ คุณต้องรู้สึกดีและชอบไม่ต่างกันหรอก คนที่ทำอะไรขายแล้วมีลูกค้ายาวนานขนาดนี้เค้าก็คงทำออกมาด้วยใจจริงๆ ร้านของผมแม่ผมท่านไม่เคยอยากปิดร้านเลยถ้าไม่จำเป็น
เพราะเหตุว่ากลัวลูกค้าประจำมาทานแล้วเสียเที่ยว ถึงรุ่นลูกไม่อยากทำ ท่านพูดมาคำหนึ่งว่าแล้วลูกค้าจะไปกินที่ไหน ที่มีพะแนงเนื้อแบบที่เราทำ ทำไงลูกค้าจะมีพะโล้ที่รสชาติโบราณแบบนี้ทาน..บางทีนะครับ ลูกค้านึกว่าจ่ายตังค์แล้วก็จบ แต่ร้านค้าทำไม่ได้หรอก ที่จะทำไปมันรู้สึกทำร้ายคนที่เขารักเรา
ส่วนสังคมเหตุการณ์อื่น ผมไม่รู้แต่เหตุการณ์นี้มันต้องมีสติและรับฟังครับ ดังนั้นไม่ว่ากรณีใดสังคมคือส่วนสำคัญที่สุดที่ไม่ต่างจากศาลต้องมีสติและไม่ลำเอียงต้องยึดความเป็นจริง ร้านผมเป็นร้านธรรมดาๆ แต่ความยาวนานไม่ว่าจะ สส. ผู้ว่า อธิบดี ข้าราชการ แม่ค้า เด็กๆ เข้ามาทานไม่เคยซีเรียสมาจนถึงทุกวันนี้เพราะรักในความใจดีของพ่อแม่และน้าผม ดังนั้นพอมีใครมาทำร้ายคนก็เข้ามาช่วยกันดีใจตรงนี้ ทดแทนความเสียใจได้ครับ.
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก บุรีรัมย์ร้านอร่อยบอกต่อ, Bug Boss