"อ.เจษฎา" ฝากให้ครูใจเย็น หลังมีดราม่านักเรียน ลายมืออ่านไม่ออก ชี้เด็กอาจกำลังป่วยโรค LD หรือโรคการเรียนรู้บกพร่อง ซึ่งพบว่ามีคนเป็นเยอะมาก
จากกรณีโลกโซเชียล มีการแชร์โพสต์เกี่ยวกับนักเรียนที่เขียนกระดาษข้อสอบ ด้วยลายมือที่อ่านไม่ออก จนเกิดเป็นดราม่าอยู่หลายครั้ง ซึ่งก็มีทั้งครูที่เข้าใจ เรียกเด็กมาสอบถามคำตอบเพิ่มเติม รวมถึงครูที่ได้รับคำตอบจากนักเรียนว่า เขียนไปก่อน ดีกว่าไม่ได้เขียนอะไรเลย จนลามไปประเด็นที่เรียกร้องให้มีการซ้ำชั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Jessada Denduangboripant" ระบุว่า ถ้าคุณครูเจอเด็กเขียนหนังสือไม่ได้ ใจเย็นๆ ครับ เด็กอาจจะเป็นโรค LD
พร้อมอธิบายว่า ช่วงนี้มีการแชร์ภาพลายมือของนักเรียนที่เขียนการบ้านส่งคุณครู ซึ่งลายมือเขียนไม่สวยเอามากๆ ระดับที่อ่านแทบไม่ออกเลย และสร้างความลำบากใจ ท้อใจให้คุณครูที่สอนเป็นอย่างมาก เป็นปัญหาให้น่ากังวลกันถึงเรื่องคุณภาพการศึกษาของเด็กไทย และมีการยกประเด็นเรื่อง "การไม่ให้ตกซ้ำชั้น" มาถกเถียงกันด้วย ว่าเป็นสาเหตุหนึ่งหรือไม่
อย่างไรก็ตาม เวลาที่คุณครู หรือคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครอง รวมไปถึงเพื่อนๆ นักเรียนร่วมชั้น เจอเด็กคนไหนที่เขียนหนังสือหรืออ่านหนังสือไม่ได้ เช่น เขียนผิดๆ ถูกๆ ลายมือแย่ อ่านหนังสือตะกุกตะกัก หรืออ่านข้ามคำข้ามประโยคยากๆ ไป ทั้งที่พูดคุยกันก็รู้เรื่อง เข้าใจได้ทุกอย่าง ตอบโต้ได้ดี เด็กคนนั้น อาจจะกำลังป่วยเป็นโรค LD หรือ Learning Disorder (โรคการเรียนรู้บกพร่อง) ก็ได้
ซึ่งเมื่อหลายปีก่อน มีโอกาสไปสัมภาษณ์ครอบครัวและคุณครู ของเด็กๆ ที่ประสบกับปัญหานี้อยู่ ก็ได้เรียนรู้ครับ ว่าโรคนี้มีอยู่จริง (และมีคนเป็นเยอะด้วย) แต่สามารถรักษาให้ดีขึ้นได้ เพียงแต่ต้องใช้ความอดทนสูงมากจากทุกฝ่าย
โรค LD (Learning Disabilities) คือ ความบกพร่องในการเรียนรู้ ในเด็กที่มีสติปัญญาฉลาดในเกณฑ์ปกติหรือฉลาดเหนือกว่าเด็กอื่น แต่การเรียนรู้ในด้านใดด้านหนึ่ง หรือหลายๆ ด้าน ช้ากว่าเพื่อนที่มีอายุเท่ากัน ทั้งๆ ที่เพื่อนอาจมีสติปัญญาเท่ากันหรือต่ำกว่า
การบกพร่องในการเรียนรู้ มิได้เกิดจากความเกียจคร้าน, การขาดเรียน, มีความพิการ หรือปัญหาทางอารมณ์ ซึ่งโรคนี้พบในเด็กวัยเรียนได้ถึง 7%
อาการที่แสดงถึงการเป็นโรค LD อาจมีข้อใดข้อหนึ่ง หรือหลายข้อร่วมกัน ดังนี้
- ปัญหาในการอ่าน เช่น อ่านผิด ตกหล่น อ่านข้ามคำ เพิ่มคำ สลับพยัญชนะ ผสมคำ แยกคำอ่านไม่ได้ อ่านไม่ได้ใจความจนถึงขั้นอ่านไม่ออกเลย
...
- ปัญหาในการเขียน เช่น เขียนตัวหนังสือกลับหลัง เขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ไม่ถูกที่ หรือเขียนคำสลับตำแหน่งกัน ทำให้เขียนช้าและไม่ชอบเขียน
- ปัญหาในการคำนวณ เช่น เขียนตัวเลขผิด ไม่เข้าใจค่าของตัวเลขหลักต่างๆ ไม่เข้าใจเครื่องหมายทางคณิตศาสตร์ ตีโจทย์ปัญหาไม่ได้ ไม่เข้าใจวิธีการคำนวณตัวเลข
- ปัญหาในการคิด เช่น ไม่สามารถลำดับเหตุการณ์ สับสนในการทำตามคำสั่ง การให้เหตุผลไม่ดีพอ เรียนแล้วก็ลืม
เด็กที่เป็น LD อาจจะส่งผลทำให้คิดว่าตนเองเรียนไม่เก่ง มีปมด้อย มีอารมณ์เศร้า บางครั้งเมื่อถูกบังคับให้ทำงานซ้ำๆ หรือเรียนพิเศษ ก็จะต่อต้านการเรียน ไม่อยากไปโรงเรียน เด็กมักพูดจาฉลาดโต้ตอบได้ดี แต่พอให้อ่าน เขียน คำนวณ กลับทำได้ไม่ดี ทำให้ผู้ใหญ่ไม่เข้าใจ ดุว่าเป็นเด็กขี้เกียจ ดื้อ เกเร
ถ้าพบเด็กที่อาจจะเป็นโรค LD สามารถพาไปพบคุณหมอ ให้ซักประวัติอย่างละเอียดจากผู้ปกครอง มีแบบสอบถามให้คุณครูตอบ มีการวัดระดับเชาวน์ปัญญา วัดความสามารถทางการเรียนด้านต่างๆ ตรวจร่างกายและทดสอบทางจิตวิทยา และผลสัมฤทธิ์ในการเรียน ให้ความรู้ความเข้าใจ ช่วยเหลือเด็กและครอบครัวทางด้านจิตใจ ช่วยทางด้านการเรียนโดยครูการศึกษาพิเศษ
ถ้าเด็กมีภาวะอื่นร่วมด้วย เช่น สมาธิสั้น ซึมเศร้า คงต้องให้กินยา การบำบัดทางเลือกอื่นๆ เช่น ศิลปะบำบัด การกระตุ้นระบบประสาทและความรู้สึก
ในด้านการศึกษา เด็กที่เป็นโรค LD ควรจะต้องได้รับความช่วยเหลือ ได้รับการวางแผนการเรียนเป็นรายบุคคล (Individualized Educational Program, IEP) เพื่อปรับหลักสูตรการเรียนและวิธีการประเมินให้เหมาะสม เช่น เน้นการฟัง การเห็น การลงมือทำ หรือใช้เครื่องมือช่วยในการเรียนรู้ เช่น วิดีโอ คอมพิวเตอร์ ซึ่งจะช่วยให้สามารถเรียนได้ในโรงเรียนปกติ
อย่างไรก็ตาม ศ.ดร.เจษฎา ยังบอกด้วยว่า ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ได้หมายความว่า เคสลายมือของเด็กที่กำลังแชร์กันอยู่ขณะนี้ เด็กจะเป็นโรค LD ดังนั้น ต้องพาเด็กไปพบแพทย์ด้านพัฒนาการเด็ก โดยเฉพาะ เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง