สาวแชร์ประสบการณ์ เปิดร้านทำเค้กซ่อนเงินที่สุราษฎร์ธานี แต่จู่ๆ กลายเป็นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ ตำรวจอธิบายถึงกับเข้าใจวิธีการทำงานของโจร

วันที่ 29 ก.พ.67 เชื่อว่าหลายคนคงรู้จัก "บัญชีม้า" เป็นอย่างดี ซึ่งที่ผ่านมา เราจะเห็นจากข่าวว่า มีคนรับจ้างเปิดบัญชีม้า เพื่อเป็นเส้นทางโอนเงินให้กลุ่มมิจฉาชีพ ซึ่งมีความผิดตามกฎหมาย แต่เรื่องนี้ผู้เสียหายรายหนึ่ง ต้องไปแจ้งความ เพราะจู่ๆ เธอก็มากลายเป็นมิจฉาชชีพเปิดบัญชีม้า

โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Manlika Srimuk" เล่าว่า "เรามีประสบการณ์ที่ถูกหลอกแบบซับซ้อน สองระดับ จะมาเล่าให้ฟัง (ยาวหน่อยนะคะ) เรามีร้านเค้ก เปิดร้านเค้กชื่อร้านมัลลิชีสเค้ก อยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีค่ะ Malli Cheesecake สุราษฎร์ธานี

วันหนึ่งมีลูกค้ามาสั่งเค้กแบบซ่อนเงิน จะเอาไว้เซอร์ไพรส์สามี ลูกค้ารีบมาก อยากได้เค้กช่วงเย็นวันนั้นเลย ร้านเราเป็นร้านที่ให้บริการเค้กด่วนอยู่แล้วค่ะ หมายถึงสั่งรับได้ภายในวันได้เลย เค้กที่ลูกค้ามาสั่งเป็นเค้กเซอร์ไพรส์แบบซ่อนเงิน

ยอดเค้กและเงินรวมกันประมาณ 30,000 กว่าบาท สักพักลูกค้าก็โอนเงินมา ทางร้านก็รีบไปกดเงินและทำเค้กให้ลูกค้า

ลูกค้าระบุว่าอยากให้ทางร้านเรียก Grab ไปส่งให้ยังจุดที่ลูกค้าต้องการ เนื่องจากเขากับสามีอยู่คนละที่กัน ทางร้านมีบริการเรียก Grab ให้ลูกค้าอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว จึงได้จัดการดูแลให้ลูกค้าเสร็จสรรพ

วันต่อมาลูกค้าทักมาชื่นชมเค้กบอกเค้กอร่อยมาก สามีถูกใจมาก วันนี้อยากสั่งเค้กให้คุณแม่ สั่งแบบเดิมอีกครั้งเป็นเค้กซ่อนเงินเหมือนเดิม ยอดเค้กและเงินที่จะซ่อนในเค้กรวมกัน 30,000 กว่าบาท

สักพักลูกค้าก็โอนเงินส่งสลิปมา ซึ่งยอดเงินที่โอนมาเกินจากราคาเค้กและเงินซ่อนเค้กที่ทางร้านรวมยอดให้ลูกค้า ทางร้านก็แปลกใจ ทำไมโอนยอดนี้

ทางร้านตั้งใจจะโอนคืนให้ลูกค้า แต่ลูกค้าแจ้งมาว่าเงินที่โอนเกินนั้นให้เปลี่ยนเป็นเพิ่มเค้กแทน มีการให้ทิปพนักงาน มีการโอนเงินค่าส่งมาเกิน ทางร้านรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็คิดว่าลูกค้าเป็นคนใจถึง และก็บริการให้เหมือนเดิม เรียก Grab ไปส่งให้ลูกค้าเรียบร้อย

ครั้งนี้ลูกค้าแจ้งว่า สามีที่เป็นชาวต่างชาติเป็นคนเรื่องเยอะ ขอรูปถ่ายสำเนาบัตรประชาชน เพื่อยืนยันว่า ทางร้านจะจัดส่งเค้กและเงินซ่อนเค้กจริงๆ ทางร้านจึงถ่ายรูปส่งให้โดยขีดฆ่าเลขประจำตัวบัตรประชาชน และวันเดือนปีเกิดออก เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ

โดยหลายๆ ครั้งที่มีลูกค้าสั่งเค้กซ่อนเงินหรือดึงเงินเป็นยอดเงินเยอะๆ ทางร้านก็มีการปฏิบัติแบบนี้

ผ่านมาสองสามวันอยู่ดีๆ บัญชีของทางร้านโดนอายัด เราก็ไปติดตามเรื่องอยู่ประมาณเกือบๆ สองวัน เจอหมายแจ้งอายัดจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งร้านเราอยู่จังหวัดสุราษฎร์ธานี จู่ๆ มีหมายมาอายัดบัญชีจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็งงสิ

สุดท้ายคนที่แจ้งอายัดบัญชี คือ คนที่มีชื่ออยู่ในสลิปโอนเงินที่โอนเงินมาให้กับทางร้านเพื่อทำเค้กซ่อนเงิน และอีกกรณีคือ มีคนโทรไปอายัดบัญชีกับคอลเซ็นเตอร์ของธนาคาร เป็นบุคคลอีกคนหนึ่ง ซึ่งเมื่อทางร้านไปดูสลิปแล้วเป็นบุคคลที่โอนเงินมาให้ทางร้านเช่นเดียวกันเป็นค่าเค้ก และเงินที่ซ่อนในเค้ก

ทีนี้พอจะนึกอะไรออกหรือยังคะ??

ทางร้านได้พูดคุยกับผู้กองเจ้าของคดีนี้ ที่แจ้งหมายมาอายัดบัญชี ทราบว่าบัญชีของทางร้านหลอกขายตู้แช่ ให้กับบุคคลที่โอนเงินมา

งงอีก เราขายเค้ก ไม่ได้ขายตู้แช่จ้า

สักพัก เอะใจ รีบไปตรวจสอบลูกค้าที่สั่งเค้กซ่อนเงิน เข้าไปดูโปรไฟล์ใน Facebook ลูกค้าขายตู้แช่

สรุปก็คือนางคนที่มาสั่งเค้กเป็นมิจฉาชีพ ไปหลอกขายตู้แช่ให้กับคนที่โอนเงินมา โดยให้โอนเงินให้กับทางร้านโดยตรง

แล้วทำทีมาสั่งเค้กกับทางร้านเพื่อให้ทางร้านเอาเงินสดออกมาให้ โดยทางร้านกลายเป็นมิจฉาชีพเปิดบัญชีม้าโดยไม่รู้ตัว และลูกค้าที่โดนหลอกให้ซื้อตู้แช่ก็แจ้งความว่าทางร้านเป็นมิจฉาชีพและเปิดบัญชีม้าเพื่อหลอกโอนเงินเขา

เป็นไงบ้างคะกลายเป็นมิจฉาชีพเปิดบัญชีม้าโดยไม่ได้ตั้งใจ…..

ป.ล.1 เฟซบุ๊กนี้ อาจจะเป็นเฟซปลอมก็ได้นะคะ แต่เผื่อไปสั่งเค้กร้านใคร ให้เตรียมตัวไว้เลย
ป.ล.2 นางขายของไปทั่วเลย ในกลุ่มมือ 2 ด้วย ระวังนะคะ
ป.ล.3 ถ้าใครโดนนางเอารูปไปใช้ รีบไปแจ้งความค่ะ"

...

จากการสอบถาม คุณมัลลิกา เจ้าของร้าน "มัลลิชีสเค้ก" สาขาสุราษฎร์ธานี ทราบว่า ก่อนหน้านี้ทางร้านก็เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้อยู่บ้าง เมื่อมีลูกค้าสั่งเค้กดึงเงิน หรือเค้กซ่อนเงิน บางครั้งสั่งด่วน และถ้าลูกค้ามีกำลัง ก็จะให้ทิปพนักงาน ทำให้ไม่ได้เอะใจอะไร

ซึ่งหลังแจ้งความ ก็รอหมายเรียกเพื่อไปให้ปากคำ แต่ก็ต้องพยายามหาหลักฐาน เพื่อเอาไว้ยืนยันตัวเองว่าเราไม่ใช่มิจฉาชีพ ซึ่งหลังจากที่โพสต์แชร์ประสบการณ์ไป ก็มีหลายคนทักมาว่าเจอเหตุการณ์แบบเดียวกัน 

ส่วนตัวอยากออกมาเตือนว่า ถ้าร้านเบเกอรี่เจอแบบนี้ อาจจะต้องหามาตรการใหม่ๆ ในการโอนเงิน เพื่อมาทำเค้กซ่อนเงิน เช่นขอบัตรประชาชนลูกค้า หรือให้มารับเองเท่านั้น 

เบื้องต้น ทางร้านวางมาตรการ กรณีถ้ามีเคสโอนเงินอีก จะให้ลูกค้ามารับที่ร้านด้วยตัวเองเท่านั้นและขอสำเนาบัตรประชาชนลูกค้าก่อนที่จะโอนเงิน หรือให้ลูกค้านำเงินที่จะใส่ในเค้กมาให้ที่ร้านเท่านั้น แต่จะให้ปิดรับทำเค้กดึงเงิน หรือเค้กซ่อนเงินไปเลย คงต้องคิดดูก่อน เพราะลูกค้าที่สั่งเค้กแบบนี้เยอะ ไม่อยากตัดรายได้ตรงนี้ไป ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร

ที่มาจาก เฟซบุ๊ก Manlika Srimuk