คนในโซเชียลถกสนั่น จนแฮชแท็ก #ครอบครองปรปักษ์ ติดเทรนด์ จากปมบุกรุกบ้านอากู๋ ก่อน 1 ในผู้ต้องหาเลือกจบชีวิต
วันที่ 27 ก.พ. 67 เรียกว่าเป็นประเด็นร้อนแรงมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ สำหรับ #ครอบครองปรปักษ์ จากกรณีเพื่อนบ้านบุกยึดบ้านของอากู๋เป็นครั้งที่ 2 โดยอ้างสิทธิครอบครองปรปักษ์ ก่อนที่ 1 ในผู้ต้องหาจะขอจบชีวิต เนื่องจากความเครียด ก่อนที่ทนายความจะออกมาอ้างว่า ที่ลูกความเครียด ก็เพราะทางฝั่งอากู๋และหลาน ใช้สื่อเป็นเครื่องมือกดดัน
ซึ่งเมื่อวานนี้ ทางทนายเดชา และหลานของอากู๋ ก็ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว เสียใจกับการเสียชีวิตของหนึ่งในผู้ต้องหา พร้อมยืนยันว่า ไม่เคยใช้สื่อกดดันแต่อย่างใด แต่สื่อก็ทำหน้าที่ของเขา
ก่อนที่ทนายเดชา จะทำการโพสต์เฟซบุ๊ก ทนายคลายทุกข์ ตั้งข้อสังเกต โดยระบุว่า “#ทนายความของผู้ตายคือตัวปัญหาคือผู้บงการทุกอย่างจริงหรือไม่ คดีบ้านอากู๋ผู้ตายขอร้องทนายความของตัวเองให้ถอนคำร้องครอบครองปรปักษ์ เพราะไม่ได้ต้องการบ้านของบุคคลอื่น แต่ทนายความไม่ยอม กราบเท้ายังไม่ยอม ทนายความคือตัวบงการทุกอย่าง แต่ไม่ได้รับผิดชอบต่อความตายของลูกความ”
พร้อมทั้งยังบอกด้วยว่า ก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิตได้อ้างว่า ไปพบทนายให้ขอถอนคดีครอบครองปรปักษ์ จนยอมกราบเท้า แต่ทนายยังไม่ยอมเลย กระทั่งเกิดเหตุสลดขึ้น
ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คนในโซเชียลให้ความสนใจเป็นอย่างมาก จน #ครอบครองปรปักษ์ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ (X) จนบางคนถึงกับหาความรู้เรื่องข้อกฎหมายครอบครองปรปักษ์มาถกกัน
...
ที่มาจาก ทวิตเตอร์ (X)