"หมอยง" เผย มีวัคซีนหลายตัวที่ "เด็กไทย" ควรได้รับ ย้ำการลงทุนให้เด็กไทยที่เกิดน้อยลงมีคุณภาพที่ดีขึ้น เป็นสิ่งที่ควรกระทำอย่างยิ่ง

 

วันที่ 6 ก.พ. 2567 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความเรื่อง "ผลของการหยอดวัคซีนป้องกันอุจจาระร่วงโรต้า เป็นวัคซีนพื้นฐาน" โดยระบุว่า

"ประเทศไทยบรรจุวัคซีนโรต้าป้องกันโรคอุจจาระร่วงในเด็ก เป็นวัคซีนพื้นฐานให้ฟรีกับเด็กทุกคนในช่วงอายุ 2, 4 และ 6 เดือน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นมา ซึ่งนับว่าช้ากว่าประเทศอื่นๆ การให้วัคซีนพื้นฐานดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ผลลัพธ์ที่ได้ขณะนี้จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า เด็กต่ำกว่า 5 ปีที่เกิดโรคอุจจาระร่วง ตรวจพบเชื้อไวรัสโรต้าน้อยมาก ส่วนใหญ่เชื้อที่พบขณะนี้เป็นหลัก คือ โนโรไวรัส 

จากข้อมูลของศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก จุฬาฯ ที่ผมทำอยู่เห็นได้ชัดเจน หลังให้วัคซีนไวรัสโรต้ากับเด็กตามแผนการให้วัคซีนแห่งชาติ ช่วงเกิดการระบาดของโควิด-19 โรคติดเชื้อเกือบทุกโรคลดลงอยู่แล้ว หลังจากกลับคืนเข้าสู่ภาวะปกติ พบว่าสาเหตุของโรคอุจจาระร่วงในเด็กเล็กต่ำกว่า 5 ปี พบเป็นเชื้อโรต้าไวรัสน้อยมากๆ ส่วนใหญ่จะเป็นโนโรไวรัส แสดงให้เห็นถึงประสิทธิผลของการหยอดวัคซีนป้องกันโรคอุจจาระร่วงไวรัสโรต้า ส่วนโนโรขณะนี้ยังไม่มีวัคซีน 

สำหรับการหยอดวัคซีนโรต้า ได้ผลคุ้มค่าจริงๆ และควรทำมานานแล้ว ขณะนี้ปัญหาของเราที่จะต้องคำนึงคือมีวัคซีนอีกหลายตัวที่เด็กไทยควรจะได้รับ แม้กระทั่งโปลิโอชนิดฉีด (เชื้อตายที่ไม่ก่อโรค) เด็กไทยก็ควรจะได้รับอย่างน้อย 2 เข็มขึ้นไป แทนที่จะใช้โปลิโอวัคซีนแบบกิน ซึ่งเป็นเชื้อเป็น ตัววัคซีนเองสามารถก่อโรคได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นหนึ่งในล้านก็ไม่คุ้ม กับความพิการที่เกิดขึ้นในเด็ก

...

นอกจากนี้ ยังมีวัคซีนอีกหลายตัวที่ควรได้รับ การลงทุนให้เด็กไทยที่เกิดน้อยลง มีคุณภาพที่ดีขึ้น เป็นสิ่งที่ควรกระทำอย่างยิ่ง".

ขอบคุณเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan