หนุ่มสุดงง เรียกรถผ่านแอป ขอคนขับ "ปรับแอร์" กลับถูกขู่แจ้งความ หากทำของในรถเสียหาย ล่าสุดบริษัทรับทราบเรื่อง พร้อมเรียกตักเตือนแล้ว
วันที่ 16 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก พี่ฟร้องซ์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า สวัสดีครับผมมีเรื่องจะมาเล่าให้ฟัง ใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้าง ผมได้เรียกรถจากแอปได้คันนี้ เรียกจากร้านสุกี้ติวานนท์ ไปโรงแรมแห่งหนึ่ง
ผมพอขึ้นรถ แอร์รถมันเย็นมาก ผมเลยมีการนำมือข้างซ้ายไปปรับองศาของแอร์ไปทางกระจก (แอร์แรงลม ปรับเกือบสุดขาด 1 จุด ไม่รู้ว่าเรียกอะไร รวมถึงความเย็นด้วยปรับเช่นกัน) พอปรับปุ๊บ คนขับรถพูดขึ้นว่า ถ้าอะไรเสียหายผมแจ้งความนะครับ คือมันแค่ปรับแอร์ อะไรจะขาดนั้น ผมก็งง ผมเลยบอกไปว่า งั้นพี่เบาแอร์หน่อย
แต่เขาก็ไม่ปรับ ผมเลยบอกขอปรับแอร์นะครับ เลยมีการยื่นมือไปปรับความเย็น และแรงลม บวกกับปรับขวามือให้ออกไปทางคนขับ คนขับเหยียบเบรกแล้วพูดขึ้นว่า ผมไปโรงพักนะครับ ไปแจ้งความ เพราะถ้ามีอะไรเสียหาย ผมต้องแจ้งความตามจริง และผมก็ทำงานทนายความ หรือจะลงจากรถผมไปแล้วเรียกคันอื่น
ระหว่างที่พูดคือสีหน้าแบบ แย่มากๆ แต่ด้วยความมันดึกมากๆ ผมแบตเหลือ 7% เลยบอกว่าพี่ ไปเถอะผมไม่อยากเรียกคันใหม่ แล้วก็ขับไป จนถึงที่ แต่อึดอัดและกลัวมาก ใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้างครับ ผมไม่เคยเจอแบบนี้เลย
หลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างก็มีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยมีทั้งคนที่เห็นใจเจ้าของโพสต์ ที่ต้องมาเจอคนขับขู่แบบนี้ ทั้งที่มีเจตนาแค่ต้องการปรับแอร์ ในขณะที่อีกฝ่ายก็เข้าใจทางคนขับที่อาจมีเหตุผลส่วนตัว หรือไม่สะดวกให้ปรับแอร์ โดยคาดว่าอาจทำให้กระจกเป็นฝ้า จนคนขับมองกระจกข้างไม่เห็นก็ได้
...
ต่อมาทางเจ้าของโพสต์ได้อัปเดตความคืบหน้า หลังจากส่งเรื่องร้องเรียนที่แอปพลิเคชันเรียกรถ โดยระบุว่า สำหรับปัญหาการใช้บริการรอบ วันที่ 11 Jan 2024 23:00 ตามที่ท่านติดต่อเข้ามาแจ้งพฤติกรรม การให้บริการที่ไม่สุภาพหรือไม่เหมาะสม โดยถูกพาร์ทเนอร์คนขับข่มขู่ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ทางบริษัทได้ติดต่อหาพาร์ทเนอร์คนขับเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นทางพาร์ทเนอร์คนขับแจ้งว่า ไม่มีการข่มขู่หรือดำเนินการแจ้งความแต่อย่างใด ซึ่งระหว่างการสนทนากับทางผู้ใช้บริการอาจจะมีความเข้าใจผิดเกิดขึ้น
อย่างไรแล้วในฐานะแพลตฟอร์มการให้บริการ ต้องขออภัยสำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น ทางเราไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้ตักเตือนพนักงานขับรถ เพื่อให้ตระหนักถึงผลที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังได้มีการแนะนำให้ปรับปรุง และพัฒนาการบริการให้ตรงตามมาตรฐานที่บริษัทตั้งไว้
ทางเราจะยังคงติดตาม และเฝ้าดูพฤติกรรมของพนักงานขับรถท่านนี้อย่างใกล้ชิด หากทางเรายังได้รับการร้องเรียนพนักงานขับรถท่านนี้ในเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง ทางเราจะมีบทลงโทษตามกฎ ระเบียบการให้บริการของทางบริษัทในขั้นต่อไป
ทั้งนี้ ทางบริษัทได้ดำเนินการส่งเรื่อง เพื่อให้การเรียกใช้งานของท่านครั้งถัดไปจะไม่ถูกจับคู่กับพนักงานขับรถท่านนี้ เป็นเวลา 12 เดือน เมื่อครบกำหนด การจับคู่จะกลับมาเป็นปกติ และสามารถแจ้งเรื่องกลับมาให้ทางบริษัทดำเนินการอีกครั้งได้เช่นกัน.
อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทางคนขับคู่กรณียังไม่ได้ออกมาชี้แจงแต่อย่างใด หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมจะรายงานให้อีกครั้ง.
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก พี่ฟร้องซ์