ดราม่าโพสต์ซื้อปลาทูนึ่งที่ตลาดน้ำอัมพวา 8 ตัว 100 ได้ 4 ตัว 100 ล่าสุดเจ้าของร้านออกมาโต้โพสต์บิดเบือน พร้อมแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาท จ่อแจ้ง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ขณะที่เจ้าของโพสต์ลบโพสต์ไปแล้ว 


วันที่ 5 พฤศจิกายน 2566 มีรายงานว่า จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ในกลุ่ม "พวกเราคือผู้บริโภค" พร้อมรูปภาพปลาทูนึ่ง 4 ตัวในกล่องโฟม และระบุข้อความว่า "อัมพวา...เตือนทุกคนจร้า...ตอนซื้อติดป้าย 8 ตัว 100 เราอ่านป้ายชัดเจนและถามย้ำก่อนตัดสินใจซื้อแล้ว แล้วพอมาเปิดได้ 4 ตัว น่าเกลียดมากๆ ไม่แปลกใจเลยทำไมคนถึงไปเที่ยวน้อยลง ไม่ติดใจว่าของถูกหรือแพง แต่แม่ค้าต้องซื่อสัตย์ จะขายไซส์ไหนกี่ตัว ราคากี่บาท ต้องบอกให้ชัดเจน ใครใช้วิธีนี้ขายอยู่ขอให้เลิกซะ" จนกลายเป็นประเด็นดราม่า

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน นายกฤษฎี กลิ่นจงกล นายกเทศมนตรีตำบลอัมพวา และผู้ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบร้านขายปลาทูนึ่งดังกล่าวอยู่ริมคลองอัมพวา เจ้าของร้านชื่อ น.ส.วิไลลักษณ์ ศิริธรรม อายุ 32 ปี ซึ่งได้นำปลาทูและป้ายราคามาให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมเปรียบเทียบกับโพสต์ในโลกโซเชียล ว่าเป็นขนาดปกติที่ตนขาย 4 ตัว 80 บาท มานาน 6 ปีแล้ว 

...

น.ส.วิไลลักษณ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่าที่จำความได้เป็นวันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม 2566 ประมาณช่วงบ่าย ผู้โพสต์ซื้อขนมต้มเสร็จก็มาซื้อปลาทู และพูดคุยกันเล็กน้อย โดยไม่ได้ถามว่า 8 ตัว 100 บาท แต่อย่างใด เพราะร้านเราก็ติดป้ายอยู่แล้วว่าราคาเท่าไร ผู้โพสต์ก็ให้แฟนมาจ่ายเงินแล้วก็เดินไปเลย 

ส่วนกรณีดราม่าที่เกิดขึ้นถือข้อเท็จจริงไม่มีขนาด 8 ตัว 100 บาท แต่ร้านตนขายปลาทูนึ่งขนาด 8-10 ตัวต่อกิโลกรัม หรือ 4 ตัว 80 บาท ขนาดเดียวเท่านั้น และติดป้ายราคา 80 บาทชัดเจนมา 6 ปีแล้ว

ตนคิดว่าน่าจะเป็นปลาทูที่มาจากร้านของตน เนื่องจากตนขายปลาทูอยู่ในตลาดน้ำอัมพวา และจะใช้ถาดโฟมวางรองไว้ และนำใบตองมาวางอีกชั้นหนึ่งเพื่อวางปลาทู ตนเห็นว่าการกระทำของผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวนั้น มีเจตนาที่จะใส่ความผู้ประกอบการขายปลาทูในจังหวัดสมุทรสงคราม ว่าขายไม่ถูกต้องและไม่เป็นไปตามความเหมาะสมของราคา ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการขายปลาทูทั้งจังหวัดสมุทรสงคราม โดยเฉพาะตลาดน้ำอัมพวา ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง และอาจทำให้กระทบต่อการประกอบอาชีพ เพื่อหารายได้มาเลี้ยงชีพ 

ตนจึงได้แชตไปพูดคุยกับผู้โพสต์เพื่อขอหลักฐาน แต่เจ้าของโพสต์บ่ายเบี่ยงไม่มีหลักฐาน และลบโพสต์ไปแล้ว โดยไม่มีการขอโทษใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับร้านค้าของตน ปลาทูนึ่งแม่กลอง, ตลาดน้ำอัมพวา และ จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งตนจะไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้โพสต์ที่ สภ.อัมพวา และขอฝากคนที่โพสต์และผู้ที่คอมเมนต์ ขอให้ศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน เพราะโพสต์ข้อมูลอันเป็นเท็จ จะผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และทำให้ผู้อื่นเสียหายด้วย

ต่อมาในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 18.00 น. นางสาววิไลลักษณ์ ศิริธรรม ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.อาชวินทร์ อ่องวงศ์ พนักงานสอบสวน สภ.อัมพวา เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว ในข้อกล่าวหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และจะรวบรวมหลักฐาน แจ้งความฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ต่อไป 

นายกฤษฎี กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดราม่าที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดความเสียหายกับภาพลักษณ์ตลาดน้ำอัมพวา ซึ่งเทศบาลตำบลอัมพวาไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ทำความเข้าใจไปกับผู้ที่โพสต์แล้ว.