เปิดชีวิต "หม้อขาง" พิตบูลถูกทิ้ง เมื่อคู่รักเลิกกัน นับถอยหลัง 3 เดือน หลังคลินิกประกาศ ตามหาบ้าน ที่พร้อมดูแล และให้ความรักกับน้อง หลังจากที่ฝากเลี้ยงมาเกือบ 3 ปี
วันที่ 6 ต.ค.66 กลายเป็นเรื่องราวที่ถูกแชร์กันในโลกโซเชียลหลายต่อหลายครั้ง สำหรับเรื่องของ "หม้อ" สุนัขพันธุ์พิตบูล วัย 3 ปี จากเพจ "หม้อขางสตอรี่" ซึ่งตอนนี้น้องกำลังหาบ้านใหม่อยู่
ซึ่งทางเพจ ได้ลงเรื่องราวของ "หม้อขาง" ว่า ..ย้อนไปในวัยเด็ก หม้อ...เป็นสิ่งมีชีวิตที่มนุษย์ให้แทนใจกันตอนรักกัน แต่เมื่อความรักของมนุษย์สิ้นสุดต่อกัน หม้อขางจึงหมดความสำคัญลงเช่นกันค่ะ
หม้อขางเลยต้องอยู่ในการดูแลของพ่อแม่ของคู่วัยรุ่นที่แยกทางไป ก็รักและดูหม้ออย่างดี เจ้าของเดิมได้ทำหมันให้หม้อ แต่ความผิดพลาดเกิดขึ้นคือ หมอตัดรังไข่ไม่หมด ทำให้หม้อมีตัวผู้มาผสมเรื่อยๆ เนื่องจากยังมีประจำเดือน แต่ไม่ท้องเท่านั้น เรื่องนี้ส่งผลให้ หม้อกลายเป็นมะเร็งที่อวัยวะเพศโดยเจ้าของไม่รู้
และช่วงนั้นด้วยความที่มีข่าวในหมาพันธุ์พิตบูลกัดเจ้าของ คนในบ้านเริ่มวิตก เพราะบ้านไม่ได้มีรั้วรอบ จึงตัดสินใจยกหม้อให้คนอื่นๆ ในวัยเพียง 1 ปีค่ะ
หลังจากเรารับมาเจออาการป่วย ได้ทำการรักษาจนหายดี และมีการหาบ้าน มากมายหลายอุปสรรคที่เราและหม้อร่วมกันผ่านมาจนวันนี้ ถึงแม้วันนี้จะสุขไม่สุด แต่เราก็จะไม่ละความพยายามเพื่อความสุขของหมาตัวนึงที่ควรได้รับ...2 ปีกว่าแล้วนะ ที่หาบ้าน ท้อบ้าง ทุกข์บ้าง แล้วเมื่อไหร่จะสุขใจบ้าง..? นาฬิกาทราย เริ่มทำงาน 3 เดือนหม้อจะต้องได้บ้าน"
จากการสอบถาม ไปยังคลินิกรักษาสัตว์หมอแพรช์ (หน้ามอราชภัฏ) จ.เชียงราย ซึ่งรับดูแลหม้อขางอยู่ตอนนี้ รวมถึงประกาศหาบ้านให้หม้อขาง โดย คุณอังคณา สิทธิโสด ผู้ที่ดูหม้อขาง เล่าให้ฟังว่า หม้อขางเป็นหมา ที่วัยรุ่นคู่นึงซื้อให้กันเป็นของขวัญ แต่หลังจากเลิกรา หม้อขางก็ตกอยู่ในความดูแลของน้องผู้ชาย และครอบครัว ที่อำเภอเชียงแสน ครอบครัวรักน้องนะคะ ได้มีการทำวัคซีน ทำหมันให้ แต่ด้วยบ้านที่ไม่มีรั้ว เป็นบ้านที่ปลูกติดๆ กัน ทั่วไปก็จะมีเด็กวิ่งเล่นเยอะ คนแก่ที่เดินไปมา แรกๆ ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่หลังจากมีข่าวว่า สุนัขพันธุ์พิตบูลกัดคนได้รับบาดเจ็บ และบางเคสก็เสียชีวิต ทำให้เจ้าของตัดสินใจเลิกเลี้ยง พร้อมกับหาบ้านใหม่ให้น้อง
...
ซึ่งก่อนหน้านี้น้องมีอาการป่วยแต่ได้รับการรักษาจนหายเป็นปกติแล้ว และทางเจ้าของก็ฝากไว้ที่คลินิกจนถึงตอนนี้ ซึ่งที่จริงคุณหมอจะคิดค่าฝากเลี้ยงตามน้ำหนักของสุนัข แต่สุดท้ายก็ลดให้ หม้อขาง เหลือวันละ 100 บาท ไม่รวมอาหาร ซึ่งก็ถือว่าถูกมากๆ
โดยสาเหตุที่จะต้องรีบหาบ้านให้หม้อขาง เนื่องจาก ทางคุณหมอเจ้าของคลินิกมีลูกน้อย ซึ่งต้องดูแล และอาจต้องปิดคลินิกเพื่อย้ายกลับไปอยู่บ้านที่ภาคใต้เร็วๆ นี้ อีกทั้งหม้อขางไม่ค่อยได้รับความรักเท่าที่ควร อาจจะใช่ที่เขามีหมอ มีพี่เลี้ยง แต่หม้อไม่ได้มีถูกกอด ถูกรัก ถูกให้เวลา มากเท่าไร เนื่องจากพี่เลี้ยงและหมอก็ต่างจะมีหน้าที่อื่นและสัตว์หลายตัวที่ต้องกระจายดูแล
รวมถึง พื้นที่ของหม้อขางตอนนี้ ไม่กว้างพอที่จะปล่อยให้หม้อขางคลายเครียดได้ ไม่สามารถวิ่งเล่น หรือออกกำลังกายได้ เพราะออกไปได้ไม่นาน ก็ต้องกลับเข้ามาที่คลินิก ซึ่งแม้หม้อขางจะเคยชินกับพื้นที่นี้มากไป แต่ความจริงของคนคือ มันคือจุดชั่วคราวเท่านั้น พอเวลาที่มีสัตว์ตัวอื่นเข้ามา หม้อขางจะรู้สึกเครียด น้อยใจ หวง โกรธ เช่น ไม่พอใจที่มีหมาตัวอื่นเข้ามาในคลินิก, งอแงที่มีเจ้าของหมาตัวอื่นมาเยี่ยม, เศร้าที่มีคนรับหมากรงข้างๆ ออกไปโดยที่หม้อไม่ได้ออก ฯลฯ
ก่อนหน้านี้ หม้อขาง เคยมีคนใจดี มารับไปเลี้ยงแล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องส่งคืน เนื่องจากว่า บ้านหลังแรกรับไปแล้ว ขังน้องทั้งวัน ไม่เลี้ยงน้องตามที่คุยกับเราไว้ ทำให้เราต้องไปขอรับน้องกลับมา
บ้านหลังที่สองโอเคมากๆ รับหม้อขางไปอยู่ด้วย และน้องก็ดูแฮปปี้ เนื่องจากมีเพื่อนเป็นเฟรนช์บูลด็อก 2 ตัว และชิสุอีก 1 ตัว แต่อยู่มาได้ประมาณ 2-3 เดือนเจ้าของแจ้งเราว่า หม้อขาง ไปกัดน้องหมาของเขาได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเราตกใจมาก เพราะที่ผ่านมา หม้อขางไม่มีนิสัยก้าวร้าว หรือกัดใครเลย เราจึงมาย้อนเรื่องราวและการเลี้ยงของเขา เขาเลี้ยงหม้อขางให้เป็นหมาที่เฝ้าบ้าน ปรบมือให้เห่าคนแปลกหน้า กัดไก่ ไล่แมว และน่าจะแย่งกันไล่ไก่ และแมว จนไปกัดชิสุเข้า เราจึงรับน้องกลับมาเพื่อปรับพฤติกรรม
ช่วงแรกที่รับกลับมาหม้อขาง ค่อนข้างดุตามที่เขาเล่า น้องไม่สามารถกลับมาอยู่กับแมวได้ เจอคนแปลกหน้าก็กระโจน เห่า เจอหมาตัวอื่น ก็พุ่งเข้าใส่ แต่เราก็มาปรับนิสัยจนเขาดีขึ้นมาก แต่อาจจะยังไม่ 100% ซึ่งข้อเสียของหม้อขางคือ เขาจะสู้ และเห่าสุนัขที่เห่าเขาก่อน
คุณอังคณา เล่าให้ฟังต่อว่า คนที่มาขอรับหม้อขางไปเลี้ยง เรามีการสกรีนก่อนทุกครั้ง คนที่สนใจต้องมาเจอ มาเรียนรู้ มาสัมผัสหม้อขางก่อน มากกว่า 3 ครั้ง เพราะการส่งไปในพื้นที่ที่หม้อขางไม่คุ้น คนก็ไม่สามารถจับตัวหม้อขางได้ เขาจะกลัวจนอาจป้องกันตัวเองด้วยความก้าวร้าวได้ โดยจะมีการฝึกให้ใช้คำสั่ง พาจูง พาเดิน หม้อขางเป็นสุนัขที่รักคนง่าย ถ้าไม่เคยเจอ แค่มาให้ขนมเขาครั้งแรก เขาก็รักแล้ว
ตอนนี้ก็จะติดตรงที่ว่า เราไม่กล้าเปิดใจที่จะให้บ้านใหม่ รับหม้อขางไปเลี้ยงรวมกับตัวอื่น เพราะเราไม่รู้ว่า เขาจะกลับมามีโหมดก้าวร้าวอีกไหม เพราะถ้าเกิดอีก เราคงเสียใจถ้าหม้อทำร้ายตัวอื่น เลยจำเป็นที่จะหาบ้านที่มีหม้อตัวเดียว หรือเลี้ยงแยกโซนได้ เพราะหม้อขางอยู่ที่ไหนก็ได้ แค่มีที่ให้นอน ให้วิ่งเล่น ได้นอนใกล้ๆ บ้าง และไม่หลุดออกจากบ้าน
คุณอังคณา ฝากด้วยว่า ทุกคนคงมีกำแพงสูง ที่จะปิดกั้นและไม่กล้ารับเลี้ยงหมาพันธุ์นี้ แต่หม้อขาง ไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้น เขาเชื่อฟัง เขารับฟังในสิ่งที่เราพูด ห้าม และมองตาเวลาคุย เขาต้องการความรักจริงๆ จากมนุษย์ ขอแค่อยากถูกรัก อยากหลับแล้วมีเราสัมผัส เขาไม่ต้องการที่จะมีเพื่อนหมาตัวอื่น เขาต้องการความรักแค่นั้นจริงๆ
ส่วนที่หลายคนถามว่า ทำไมแอดมินที่ช่วยมา ไม่รับเลี้ยงเลี้ยง เพราะที่เราช่วย และรับเลี้ยง มี 8 ตัวแล้วค่ะ ถ้ารับหม้อขางมา เราอาจให้ความรักไม่ทั่วถึง เราทบทวนถึงหมา 8 ตัว บางตัวน้อยใจ บางตัวมีอิจฉา เราไม่อยากให้หม้อขางรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ส่วนน้องๆ ที่คลินิก เป็นนักศึกษาจบใหม่ ส่วนใหญ่เช่าหอ เช่าบ้านกันอยู่ และไม่มีกำลังทรัพย์มากพอที่จะรับเลี้ยงหม้อขางด้วย
คุณอังคณา บอกทิ้งท้ายว่า หากไม่ได้บ้าน และอยู่คลินิกต่อไม่ได้ ก็คงต้องหาศูนย์พักพิงให้กับหม้อขาง ซึ่งมันค่อนข้างบีบหัวใจ เพราะเท่ากับว่า หม้อขางจะมีที่อยู่ ที่กิน ที่นอน แต่หม้อขางจะไม่ได้รับความรักจากคนเลย.
ที่มาจาก เฟซบุ๊ก หม้อขางสตอรี่