หนุ่มเล่าเหตุโกลาหลบนเครื่องบิน เมื่อแก๊งชาวต่างชาติทำ "หนู" หลุดวิ่งบนเครื่องบิน พอเจ้าหน้าที่ตรวจเข้ม ค้นกระเป๋าพบกับ "สัตว์" อีกหลายชนิดถูกซุกซ่อนไว้ด้วย

วันที่ 5 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลายเป็นประเด็นที่ถูกแชร์ในโลกออนไลน์ เมื่อเพจเฟซบุ๊ก เที่ยวทุกที่ Boarding Pass ได้โพสต์ข้อความโดยระบุว่า หนูวิ่งบนเครื่องบินไฟลท์ไต้หวัน เรื่องวุ่นบนเครื่องบินเมื่อหนูเลี้ยงวิ่งในห้องผู้โดยสารไฟลท์ไปไต้หวัน หนูเลี้ยง ย้ำไม่ใช่หนูตลาดสด

ผู้โดยสารชาวต่างชาติแอบลักลอบนำขึ้นเครื่อง จุดพีกคือพอโดนจับได้ มีการแอบเอาหนูออกจากกล่องโฟมไปซ่อนอีกรอบ พนักงานบนเครื่องบินเก่งมาก เทรนด์มาดี ลำดับการจัดการถูกต้อง และเข้มงวด เหตุเกิดวันนี้ สดๆ ไฟลท์สุวรรณภูมิ-ไทเป

  • 15:15 น. ไฟลท์บินขึ้น น่าจะตรงตามตาราง
  • 15:35 น. กัปตันสั่งปลดเข็มขัด ผู้เขียน (แอดมิน) เดินไปเข้าห้องน้ำ พอเดินกลับมา เพื่อนกระซิบเบาๆ ว่า "มีหนูบนเครื่องอะ!" เค้าก็ย้ำ หนูเลี้ยง หนูเลี้ยง ตัวขาวๆ ไซส์ไม่เล็ก ไม่ใหญ่ ผู้เขียน เดินไปบอกทีม flight attendants ก็ตกใจ และถามย้ำกันว่า หนูเนี่ยนะๆ

...

ทีมออกเดินตรวจ พื้นห้องโดยสาร ไม่ถึงนาที เริ่มเห็นละ ไซส์กลางๆ ตัวขาวๆ ไม่สกปรก ไม่กี่นาที ก็มีหน่วยกล้าตาย เป็นพนักงานผู้ชาย จับตัวหนูได้ อุ้มสองมือ กลับไปที่ครัวท้ายเครื่อง ตอนเอาลงกล่องโฟม หนูกัดมือพนักงานบนเครื่องไป 1 แผล แผลไม่ใหญ่

หัวหนัาพนักงานต้อนรับ purser ตัดสินใจออกประกาศหาตัวเจ้าของสัตว์เลี้ยง ทั้ง 3 ภาษา ไทย อังกฤษ จีน โดยไม่ลืมที่จะระบุถึงความจำเป็นที่ต้องระบุตัวเจ้าของสัตว์แปลกปลอมตัวนี้ตามกฎการบิน 

ช่วงโมเมนต์แรกไม่มีใครแสดงตัว อยู่ๆ ไม่มั่นใจว่าตอนไหน ผู้โดยสารหญิงชาวต่างชาติ 1 ท่าน เดินมาพูดคุยกับทีมพนักงานต้อนรับท้ายเครื่อง มีฟีลร้องไห้ คุยขอคืน (เดาเอาๆ ฟังภาษาจีนไม่ออก) พนักงานพูดภาษาจีนได้คล่อง ก็เจรจากันไป

หมายเหตุ : สถานการณ์ ณ ตอนนี้ ถ้าจบแบบนี้ ตามความรู้เรื่องกฎการบิน เท่าที่ผู้เขียนรู้ คือ หัวหน้าพนักงานต้อนรับ รายงานต่อกัปตัน (ซึ่งทำแล้ว) / ประเมินภัยต่อการบิน (ซึ่งไม่น่าจะมี) / เมื่อเครื่องถึงสนามบินปลายทาง / ผู้โดยสารต้นเรื่องน่าจะต้องถูกให้รอบนเครื่องบิน เพื่อให้หน่วยงานกักกันสัตว์ของสนามบินปลายทาง ขึ้นมาดำเนินคดี-ปรับ-ตัดสินใจว่าจะเอาไงต่อกับ หนูเลี้ยงตัวนี้แต่ตัวใหญ่

ผู้โดยสารต้นเรื่องมีความแสบ เพราะพอสถานการณ์นิ่งได้ไม่นาน ผู้โดยสารต้นเรื่องเดินไปทางห้องครัว ทำเหมือนเดินไปเข้าห้องน้ำปกติ จากนั้นไม่นานเกิดเหตุการณ์หนูหายบนเครื่องบิน หนูหายบนเครื่องบิน ถึงจุดนี้ สถานการณ์ชัดละ ไม่ได้เผชิญกับคนรักสัตว์แบบใสๆ / ภาพแฟลชแบ็คของหลายคนบนเครื่องเริ่มทำงาน

เธอ คือคนที่เดินทางมาที่ gate คนสุดท้ายของไฟลท์ หมายถึง ไฟลท์นี้การขึ้นเครื่องเป็น bus gate คนบนรถบัสทั้งหมด ยังต้องรอผู้โดยสารคนสุดท้ายของไฟลท์มาแสดงตนขึ้นเครื่องบิน รถบัสถึงจะเคลื่อนออกตัว ขับไปที่เครื่องบิน

เธอ มีโมเมนท์รักสัตว์ เดินไปขอพนักงานบนเครื่องขอดูหน้าหนูเลี้ยง ขณะที่หนูเลี้ยง ยังอยู่ในกล่องโฟม เธอ ตั้งใจขนสัตว์ตัวนี้ขึ้นมาแน่ๆ และน่าจะมีอะไรมากกว่านั้นอีก พนักงานเริ่มตรวจห้องน้ำ กระเป๋าติดตัว ของผู้โดยสารต้นเรื่อง แต่ไม่พบหนูเลี้ยงเลย

ถึงตอนนี้ สถานการณ์ทีมพนักงานต้อนรับเริ่มเครียด เพราะอย่างที่รู้กัน ว่าถ้ามีเคสแบบนี้ความปลอดภัยทางการบิน สำคัญสุด หนูหายบนเครื่อง สามารถถูกประเมินความเสี่ยงเป็นอันตรายต่อเครื่องบินได้ แม้เดินทางถึงสถานีปลายทางแล้ว

ยังไงๆ ทุกคนก็ไม่ได้ออกจากตัวเครื่องบิน จนกว่าเจ้าหน้าที่สนามบิน จะขึ้นมาบนเครื่องตรวจร่างกายผู้โดยสาร และของติดตัว ผู้โดยสารทุกคนครบ จึงอาจค่อยปล่อยให้เข้าไต้หวันได้ หัวหนัาพนักงานต้อนรับ โทรประชุมกับกัปตัน และออกประกาศสำคัญ! ทั้ง 3 ภาษา

"มีผู้โดยสารนำสัตว์เลี้ยง ขึ้นมาบนเครื่องบิน โดยไม่ผ่านการคัดกรอง และผิดกฎหมายการบิน ขณะนี้สัตว์ดังกล่าว ได้ถูกนำออกจากที่เก็บแยก และถูกนำไปซ่อนอีกครั้งนึง ผู้ใดพบเห็น หรือรู้ที่ซ่อน กรุณาแจ้ง"

โดยย้ำว่า "หากไม่พบสัตว์เลี้ยงดังกล่าว เมื่อเดินทางไปถึงสนามบินปลายทาง ทุกท่านจะยังไม่สามารถลงจากเครื่องได้ เพราะต้องเข้าสู่ขั้นตอน….(ตามที่เขียนข้างบน)"

ผ่านไปพักใหญ่ หนึ่งในผู้โดยสาร เข้าไปในห้องน้ำ และได้ยินเสียง จึงประสานกับพนักงานต้อนรับ ตรวจจุดอับต่างๆ ในห้องน้ำบนเครื่อง จนพบตัวหนูเลี้ยง 

  • 19:27 น. เวลาไทย มีสัตว์หลุด ออกมา อีก 2 ตัว โอ้ยยย! รออัพเดทต่อ!!!!! ณ นาทีนี้ คือทุกคนยังอยู่บนเครื่อง
  • 20:00 น. เวลาไทย พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินแจ้ง จำเป็นต้องตรวจผู้โดยสาร รายบุคคล ทั้งลำ (กระเป๋า และตัวผู้โดยสาร) คำสั่งตำรวจสนามบิน (น่าจะ)
  • 20:30 เวลาไทย เหตุการ์ณถึงบทสรุป ผู้โดยสารชาวต่างชาติทำกันเป็นทีม มีผู้ชายด้วย

เมื่อทางสนามบินไทเป กำกับให้ทุกคนต้องโดนตรวจเรียงที่นั่ง กลุ่มนี้ลุกขึ้น และทิ้งกระเป๋าดำไว้ใต้เก้าอี้แถวหน้าของตัวเอง กะเนียนคลีน เมื่อเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นกระเป๋า ก็สอบถามว่าของคุณใช่มะ

คำตอบคือ ไม่ แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ และกำกับให้เค้ายืนประกบการเปิด เหตุการณ์ก็ตามคลิป ในถุงมีสัตว์หลายชนิด และเหมือนจะมีงูด้วย Case Closed สรุปคือ ลักลอบสัตว์

ข้อมูลเพิ่มเติม : สำหรับหนูเลี้ยงตัวแรกนั้น ข้อมูลภายหลังทราบว่า ยังหาหนูตัวแรก ไม่เจอ แม้จะมีเบาะแส ว่าอาจอยู่ในห้องน้ำบนเครื่อง

มีคนให้ความเห็น มีจังหวะที่ทั้งหญิง และชายคนที่มารู้กันที หลังว่าเป็นผู้ร่วมกระบวนการ เดินเข้าไปบริเวณครัวด้านหลัง และเหมือนเข้าไปห้องน้ำพร้อมกัน จึงอาจเป็นไปได้ว่าให้งูในกระเป๋า เขมือบหนูตัวแรก เพื่อทำลายหลักฐาน หลายคนให้ความเห็น ตัวในคลิปนี้ (สัตว์บนเครื่องตัวที่ 3) น่าจะเป็น นาก

ซึ่งมีลูกเพจแจ้งว่า เป็นสัตว์สงวนของประเทศไทยด้วย (เหตุเกิดบนเครื่องสัญชาติไทย) ถือมีความผิดรุนแรง ได้ เคสไปถึง คดีลักลอบสัตว์คุ้มครอง ออกนอกราชอาณาจักร แล้วมั้งครับ สรุปหลุดมา 3 ตัว 3 สัตว์ แต่ในถุงที่จับได้ มีอีกหลายอย่างเลย

อย่างไรก็ตาม นายสุรสิทธิ์ ลีลาประชากุล หรือ คุณหยวย แอดมินเพจ เที่ยวทุกที่ Boarding Pass ได้ให้ข้อมูลกับ "ไทยรัฐออนไลน์" ว่า หลังจากเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นตามที่ตนเองได้เขียนไปนั้น พบว่ามีผู้ร่วมกระบวนการ 3-4 คน ซึ่งในจังหวะที่ตนเองเดินออกไปนั้น

พบว่าเจ้าหน้าที่ของทางสายการบินได้นำตาข่ายและกรงต่างๆ มาเพื่อจับ ซึ่งในรายละเอียดตรงนี้ตนไม่ทราบ แต่ก็ต้องไปคุยกับทางสนามบินว่ามีการจับและดำเนินคดีหรือเปล่า และอยากรู้คือทางการท่าฯ มีการปล่อยออกมาได้อย่างไร เพราะถุงดำ และถุงน้ำตาลที่ใส่มานั้นมีน้ำหนักเยอะ เนื่องจากสัตว์หลายตัว ซึ่งเรื่องไฟลต์ขากลับจากไต้หวัน คือประมาณ 3 ทุ่ม แต่ที่ตนเช็กเรดาร์คือออกไปประมาณ 5 ทุ่มครึ่ง

ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ทางสนานบินก็ไม่ได้มีการจัดการอะไรเป็นพิเศษ และก็ไม่มีใครเรียกร้องอะไร เพราะไม่ได้กระทบมาก ทุกคนไม่ได้เผชิญกับภาวะหลังเที่ยงคืน ซึ่งความรู้สึกของคนบนเครื่องในตอนนั้นที่เจอหนูตัวแรกก็สนุกๆ กัน แต่พอเจอตัวต่อๆ มาก็เริ่มวิกฤติแล้ว 

ทั้งนี้ คุณหยวย ยังฝากขอบคุณไปยังเจ้าหน้าที่ทุกๆ คนที่ช่วยเหลือและจัดการทุกอย่างได้รวดเร็ว และอยากฝากถึงประเด็นเรื่องผู้กระทำผิดด้วยว่ามีการจัดการตามบทลงโทษอย่างถูกต้องหรือไม่ เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่จะผ่านด่านตรวจจนขึ้นมาบนเครื่องได้

อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทางสนานบิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้ออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าว หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมจะรายงานให้ทราบอีกครั้ง.

ขอบคุณข้อมูลจาก เพจเฟซบุ๊ก เที่ยวทุกที่ Boarding Pass