โซเชียลแห่ให้กำลังใจ "สาวใจสลาย" จับได้สามีนอกใจ แอบคบชู้ตั้งแต่ช่วงถ่ายพรีเวดดิ้งจนหลังแต่งงาน แถมยืมเงินพาผู้หญิงไปกินไปเที่ยว ทำใจไม่ได้ สุดท้ายขอถอยออกมาเอง 

กลายเป็นเรื่องราวที่ถูกพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวสุดช้ำ โดยระบุว่า "จะเห็นว่าเราลบรูป pre wedding รูปงานแต่งงานออกจากหน้าฟีดหมดเลย เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตหลังเพิ่งเข้าพิธีแต่งงานของเรา ก่อนอื่นอยากจะบอกว่าเราไม่อยากเอาเรื่องอะไรต่อไปนี้มาโพสต์ให้คนอื่นรับรู้ แต่ด้วยช่วง pre wedding และงานแต่งของเรา เราได้อัปรูปความรักหวานชื่นมีความสุขให้ทุกคนรับรู้ เมื่อมันจบลงสิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว เกินจะคาดหมายและทำใจได้

เราเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง มีหัวใจ มีความหวัง มีความรัก อยากสร้างครอบครัวเหมือนกับใครหลายๆ คน ผู้ชายคนนึงเข้ามาจีบเรา ได้คบหาดูใจเป็นแฟน ดูแลกันมาเป็นระยะเวลาหลายปี ก็มีปัญหากันบ้างตามประสาคู่รัก แต่รวมๆ รักกันดี ผ่านอะไรด้วยกันมากมาย จนมั่นใจที่จะสร้างครอบครัวด้วยกัน วางแผนแต่งงาน เราย้ายกลับเชียงรายมาก่อน และหลังแต่งงานเขาจะย้ายตามมาสร้างครอบครัวด้วยกัน ชีวิตก็คงเหมือนคู่รักคู่อื่นทั่วไป เรามีความสุขมาก อยากสร้างครอบครัวด้วยกัน 

งานแต่งถูกวางแผนขึ้น ญาติผู้ใหญ่เตรียมงานกันทั้งสองบ้าน pre wedding ถูกถ่ายขึ้นช่วงปลายเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา หากใครเห็นรูปก็คงจะรับรู้ได้ถึงความสุขของคนในภาพสองคน และก็เป็นแบบนั้น เรามีความสุขจริงๆ แต่ก็มีความรู้สึกบางอย่าง ทำไมเขาไม่ค่อยโทรหา โทรไปไม่ค่อยรับ รูปพรีเวดดิ้งก็ไม่อัป ไม่รับแท็กที่เราโพสต์ ลบรูปคู่ทั้งหมดในเฟซบุ๊ก พอถามว่ามีอะไร ทำไมดูเปลี่ยนไป เขาบอกเหมือนเดิม จะแต่งกันแล้วอย่าคิดมาก เขาทำงานยุ่ง ด้วยความรักและเชื่อใจในตัวเขามากๆ และใกล้วันงานอีกไม่ถึงสองเดือนแล้ว ก็เลยเชื่อเขา 

...

กระทั่งงานแต่งงานถูกจัดขึ้นปลายเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ก่อนวันงานเป็นอาทิตย์เขาก็ลามาช่วยเราเตรียมงาน ทุกคนเหนื่อยแต่มีความสุขมากๆ 30 ก.ค. 2566 งานถูกจัดขึ้นแขกมาร่วมยินดีมากมาย เราดีใจและมีความสุขที่ทุกคนมาร่วมงานเรา ปลื้มใจและซาบซึ้งมากๆ ถือเป็นวันเริ่มต้นดีๆ พ่อแม่เรา พ่อแม่เขาก็มีความสุข ทุกอย่างเป็นไปตามที่เราคาดหวัง หลังแต่งงาน เขาก็กลับมาทำงานกรุงเทพฯ โดยปลายเดือน ก.ย. จะย้ายกลับมาอยู่กับเรา อีกแค่ 2 เดือน เราก็จะสร้างครอบครัวด้วยกันจริงๆ หากเป็นในละครก็คง happy ending  

แต่วันที่ 6 ก.ย. 2566 เราขับรถกลับจากทำงาน มีเบอร์แปลกโทรมา ปลายสายเป็นเสียงผู้หญิงโทรมา บอกว่าเขาอยู่กันกับสามีที่เราเพิ่งแต่งงานด้วย ตอนแรกคิดว่า call center มารูปแบบใหม่ เกือบตัดสายเพราะเรื่องเขามีคนอื่น ไม่มีในความคิดเราเลย แต่ผู้หญิงคนนั้นเขาก็บอกข้อมูลผู้ชายได้หมด พวกเขาเจอกันก่อนเราถ่าย pre wedding โดยผู้ชายไปร้านเหล้าที่ผู้หญิงทำงานอยู่ เจอกันแลกเบอร์ ฝ่ายชายตามจีบตามไปเฝ้าหน้าร้านเหล้าใต้หอพักทุกวัน จนสาวคนนั้นใจอ่อนยอมพาขึ้นห้อง 

ฝ่ายชายบอกว่าตัวเองโสด ส่วนรูป pre wedding ถ่ายมานานมากแล้ว กำลังจะเลิกกับเรา งานแต่งจะไม่เกิดขึ้น พวกเขาสองคนใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ฝ่ายชายมาอยู่ห้องฝ่ายหญิง ไปรับส่งกันร้านเหล้าทุกวัน แม้แต่วันที่มาจัดงานแต่ง ก็บอกผู้หญิงคนนั้นว่ามางานศพญาติเสีย แต่ผู้หญิงก็ตามดูจนรู้ว่ามาแต่งงาน เพราะเพื่อนๆ อัปเฟซบุ๊กกัน แต่ถึงผู้หญิงจะรู้เรื่อง ก็ยังไม่หยุดพฤติกรรมแบบนี้ และยังคงสานต่อความสัมพันธ์กันไปต่อ 

ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าพยายามติดต่อเรา แล้วทักเฟซมาก่อนงานแต่งแต่เราบล็อกไป ความจริงคือเราไม่รู้เรื่อง ผู้ชายคือคนที่เอาไอแพดเราบล็อกเฟซ ไลน์ ของผู้หญิง หลังจากคุยกับผู้หญิงคนนั้น เราก็ยังมีความหวังว่าคงไม่จริงหรอก เราโทรหาสามีทันทีแต่เขาไม่รับสาย พยายามโทรก็ไม่รับ เราช็อกมากๆ เหมือนคนเอาอะไรมาทุบหัว มึนตื้อไปหมด ร้องไห้ไม่ออก จุกในใจไปหมด 

จนเราโทรหาเพื่อนช่วยกันหาข้อมูล จึงรู้ว่าเขาสองคนอยู่ด้วยกันจริงๆ ทุกครั้งที่เราโทรไปช่วงค่ำที่บอกว่าปิดไฟนอน คืออยู่ห้องผู้หญิงคนนั้น ยิ่งหาข้อมูลยิ่งรู้ว่าหลังแต่งงานกับเราแค่ไม่กี่วัน สามีเราพาผู้หญิงคนนี้กลับไปบ้านเขาที่ลำปาง 2 ครั้ง พาไปนอนค้างที่บ้านด้วย และสามีเราก็กลับไปบ้าน ไปเยี่ยมแม่และลูกชาย 2 คนของผู้หญิงด้วยที่ จ.พะเยา โดยผู้ชายบอกกับแม่ฝ่ายนั้นว่า แต่งกับเราเพราะพ่อแม่ และจะเลิกกับเราทันที สัญญาว่าจะเลือกผู้หญิงคนนั้น กับเราสำหรับเขาคือจบแล้ว เราใจสลายมากๆ ที่ได้รับรู้การคบหาดูแลกันมาหลายปี จนตกลงแต่งงานสร้างครอบครัวด้วยกัน และเพิ่งผ่านงานแต่งงานมาแค่ 1 เดือน 6 วัน มันเกิดอะไรกับชีวิตเรา 

ในที่สุด 7 ก.ย. เราก็ทำใจดีสู้ พยายามโทรหาสามี อยากให้ทุกอย่างไม่เป็นความจริง เขาส่งรูปบอกเราว่าเลิกงานแล้วนอนอยู่หอ เราตัดสินใจโทรหาเจ้าของหอพัก เขาบอกว่าสามีเราขนของออกไป 2-3 เดือนแล้ว แต่ยังไม่ย้ายออก วันนี้เพิ่งเข้ามาแต่ว่าออกไปเมื่อกี้ คำตอบของเจ้าของหอพาหัวใจสลายมาก คืนวันนั้นตัดสินใจวิดีโอคอลไปหาสามี แต่คนที่รับสายไม่ใช่สามี เป็นผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงข้างๆ สามี หัวใจเราสลายมากๆ สับสนไปหมด เรายอมแพ้แล้ว คนที่รักไว้ใจที่สุดอยู่บนเตียงกับผู้หญิงอีกคน ตั้งแต่ก่อนแต่งและหลังแต่งงาน สามีเราก็กลับมานอนกับผู้หญิงอื่น โลกของเรามันพังมากๆ 

สิ่งที่เราตัดสินใจ คือยอมถอยออกมา ไม่ใช่ว่าไม่รักไม่อาลัย แต่เหนือสิ่งอื่นใดเราเสียความไว้วางใจ ไม่สามารถมองหน้าผู้ชายคนนั้นได้อีก ไม่สามารถกอดเขา ไว้ใจเขา วาดฝันอนาคต มีลูก สร้างครอบครัวร่วมกับเขาได้อีก เราเจ็บ เราเสียใจ แต่พ่อแม่เราทุกข์ใจยิ่งกว่า จัดงานใหญ่โตให้ลูกสาวกับคนที่ลูกรัก ไว้วางใจฝากชีวิตลูกไว้กับผู้ชายคนนี้ มันเจ็บปวดมากๆ เลยทุกคน เกินจะจินตนาการได้ และไม่คาดคิดว่าเขาจะทำกับเราได้ ตั้งแต่วันที่ความจริงปรากฏ จนถึงวันนี้ไม่มีวันไหนเลยที่จะนอนหลับสนิท ที่เราจะกินข้าวอร่อย นึกถึงขึ้นมาใจเราก็สั่น เหตุการณ์มันรุนแรงมากทางความรู้สึก 

ทุกคนโปรดรู้ไว้ว่าผู้ชายคนนั้น สิ้นสถานะความเป็นสามีของเราไปแล้ว ไม่ว่าเขาจะทำอะไรอย่างไร จะไม่มีอะไรเกี่ยวกับเราอีก หากจะมีเกี่ยวคือเรื่องเงินที่ยังค้างคืนเรา บอกเราว่าหมุนเงินไม่ค่อยทัน แต่ความจริงแล้วเอาเงินพาผู้หญิงไปกินไปเที่ยวมีความสุข เราทำใจไม่ได้ที่จะมีคนคนนี้ในชีวิต มรสุมลูกนี้มันหนักหนาสาหัสมาก เกินจะรับไหว ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมา จะพยายามกอบกู้ตัวเองกลับมา อาจใช้เวลาแต่เราจะพยายาม"

ทั้งนี้ หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีคนเข้ามากดไลค์กว่าแสนครั้ง พร้อมคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก ขณะที่เจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว ก็ได้เผยสั้นๆ กับ "ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" โดยระบุว่า "ขอบคุณมากค่ะ ขอบคุณที่เข้าใจและเป็นกำลังใจให้นิดหน่อยค่ะ".