อัปเดตคดี "กำนันนก" หลังถูกย้ายมาอยู่การดูแลของกองปราบฯ ต้องขุดรากถอนโคน ขยายผลไปถึงเรื่องผู้มีอิทธิพล การฮั้วประมูลก่อสร้าง เพื่อสร้างบรรทัดฐานที่ดี และกอบกู้ศักดิ์ศรีตำรวจ
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 19 กันยายน 2566 ในรายการ "เปิดปากกับภาคภูมิ" ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ดำเนินรายการโดย นายภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ ได้พูดคุยกับแขกรับเชิญ อาจารย์ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด และ รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล ผู้ช่วยอธิการบดีและประธานกรรมการ คณะอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม ม.รังสิต กับประเด็นที่สังคมต้องการรู้ธุรกิจ "กำนันนก" สร้างอิทธิพล ฮั้วประมูลก่อสร้างจริงหรือไม่
อาจารย์ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม กล่าวถึงกรณีที่มีการโอนย้ายคดีว่า ถูกต้องแล้ว เพราะพยานอยู่ในพื้นที่ หากใช้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ก็อาจจะถูกแทรกแซงได้ง่าย เพราะฉะนั้นง่ายที่สุด ก็ตัดตอนเลย ให้กองปราบเรียกสอบ แล้วคดีนี้เป็นคดีสำคัญ นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ถูกยิงต่อหน้าลูกน้อง และสุดท้ายคดีก็จะอยู่ที่ศาลปราบปรามทุจริตกลาง ซึ่งดีกว่า เพราะมีวิธีพิจารณาไตร่สวน ค่อนข้างเร็วกว่าศาลปกติ ฉะนั้นสำนวนคดีต้องละเอียดชัด และมีความยุติธรรมมากกว่า
...
ขณะที่ รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล เผยว่า เป็นอำนาจทางกฎหมายอยู่แล้ว ที่กองปราบปรามมีอำนาจการสอบสวนทั่วราชอาณาจักร ซึ่งคดีลักษณะนี้ ก็ต้องโอนให้ส่วนกลางรับผิดชอบ เพราะมีคนเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และเทคโนโลยีต่างๆ พร้อม รวมถึงผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ก็จะข่มขู่พยาน และแทรกแซงการสืบสวนได้ยาก เป็นเรื่องหลักจิตวิทยาด้วย
สำหรับการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ 157 สอบสวนกลาง จะมีตำรวจทางหลวงส่วนหนึ่งอยู่ในอำนาจด้วย ซึ่งในส่วนนี้ ก็จะมีจเรตำรวจ ทำหน้าที่สอบสวนเรื่องของวินัยตำรวจ ถ้าถามว่าช่วยกันไหม จเรก็จะดูอยู่ และผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ก็ออกมาการันตี ตนเชื่อว่าท่านทำจริง เพราะเคยทำงานมาด้วยกัน ต่อมาคือสื่อมวลชน สังคม และประชาชนมาติดตาม พูดง่ายๆ คือเบี้ยวยาก
อาจารย์ปรเมศวร์ กล่าวถึงกรณี ผกก.เบิ้ม ว่า เท่าที่เห็นบอกว่ามีการช่วยคนเจ็บ ตนก็คิดว่าคงเป็นสัญชาตญาณของคน คือช่วยคนเจ็บแล้วก็กลับไปดูอีกแป๊บนึง
ด้าน รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ เผยว่า เขาจะดูพยานหลักฐานทุกๆ ฝ่าย เป็นรายคน โดยใช้คำให้การ หลักฐานประกอบกัน ทุกอย่างอยู่ในสำนวนทั้งหมด ตนเช่ือว่าตำรวจมีข้อมูลทั้งหมดแล้ว ส่วนในกรณีของผู้กำกับเบิ้ม ที่ทุกคนเห็นตรงกัน คือ ภาพลานจอดรถที่พาสารวัตรแบงค์ไปโรงพยาบาล พร้อมลูกน้องส่วนหนึ่งพาไป
แต่ข้างในบ้านเรายังไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น และกล้องอีกส่วนหนึ่ง ที่เห็นตอนพาไปโรงพยาบาล จากที่ถามเพื่อน พี่น้องตำรวจทุกคน บอกว่าในสถานการณ์ตอนนั้น คนที่ไปร่วมงานเลี้ยงไม่รู้ว่าจะไปจับคนร้าย เพราะฉะนั้นอาจจะไม่ได้เตรียมตัว เมื่อได้ยินเสียงปืน ก็อาจจะไม่เหมือนสายตรวจที่ไประงับเหตุ รวมถึงดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปด้วย อาจจะทำให้ขาดสติสัมปชัญญะ และปฏิเสธไม่ได้ว่าตำรวจ ต้องปฏิบัติหน้าที่ จะละเว้นไม่ได้
อย่างไรก็ตาม สามารถติดตามรายการ "เปิดปากกับภาคภูมิ" พร้อมกันได้ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 15.30 น. เป็นต้นไป ได้ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32.