เปิดใจครูหนุ่มบรรจุใหม่ เผยเหตุที่ถวาย "หมูกระทะ" แก้บน หลังบนหัวหมู 2 ครั้งแล้วไม่สำเร็จ พร้อมฝากข้อคิด จะพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างเดียวคงประสบความสำเร็จไม่ได้ เพราะต้องอาศัยความพยายามของตนเองด้วย

วันที่ 4 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลายเป็นไวรัลที่ถูกแชร์ในโลกออนไลน์ เมื่อผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก Nu Ni ได้โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า ฉีกทุกกฎของการแก้บน แบบใหม่แบบสับกับ "หมูกระทะ" พร้อมเครื่องสังเวย พร้อมบริการปิ้งย่างให้ฟรี ตลอดระยะเวลาจนธูปหมด

ข้าแต่องค์ท่านเจ้าหมื่นขุนวรจักร บัดนี้ข้าพเจ้า นายอานนท์ ยลธรรธรรม ได้สำเร็จลุล่วง สมดั่งความมุ่งมาดปรารถนา ได้บรรจุเป็นข้าราชการครู โรงเรียนสาธิตฯ สพป.กำแพงเพชร เขต 1 จังหวัดกำแพงเพชร ขอท่านจงรับเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ลูก และขอให้ชีวิตข้าราชการของลูกจงมีแต่ความเจริญก้าวหน้า รุ่งเรืองในชีวิตความเป็นครูด้วยเทอญ ฝากตัวเป็นลูกหลานชาวกำแพงเพชร กำแพงเพชรเขารักฉัน 

...

หลังจากเรื่องราวดังกล่าว ถูกเผยแพร่ออกไป ต่างมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก มีทั้งกล่าวชื่นชมความครีเอต ที่ถวายของแก้บนเป็นหมูกระทะ และแสดงความยินดีกับหนุ่มคนดังกล่าว ที่บรรจุเป็นข้าราชการครูได้สำเร็จบนไว้

อย่างไรก็ตาม นายอานนท์ ยลธรรธรรม อายุ 28 ปี เจ้าของโพสต์ ซึ่งมีอาชีพเป็นคุณครูภาษาอังกฤษ โรงเรียนสาธิตฯ จ.กำแพงเพชร ได้เปิดเผยกับ "ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" ว่า ไปบนไว้ทั้งหมด 3 รอบ รอบแรกก็บนหัวหมูปกติ แต่สอบไม่ติด ขาดอีก 4 คะแนน ในขณะที่เพื่อนที่มาขอด้วยกันติด ซึ่งบนด้วยแซลมอนและอาหารทะเล

พอมารอบ 2 บนหัวหมูไว้ 9 หัว เพื่อต้องการให้สอบติด แต่ก็ยังไม่ได้ ขาด 2 คะแนน ส่วนเพื่อนอีกคนที่มาบนด้วยซูชิ 199 ชิ้น กลับติด จึงคิดว่าท่านเอียนหัวหมูแน่ๆ ในรอบที่ 3 จึงบนเป็นเซตชาบู หมูกระทะ ผลปรากฏว่าสอบติด คิดว่าเป็นความแปลกใหม่ ที่ท่านอยากได้

ซึ่งตนนั้นสอบติด 2 รอบ เป็นรอบทั่วไปที่ลงใน จ.พิจิตร ติดอันดับที่ 36 ตอนนี้เรียกไป 20 อันดับแล้ว ส่วนรอบที่ 2 เป็นกรณีพิเศษ สำหรับคนที่ทำงานในโรงเรียน หรือกระทรวงศึกษาของรัฐ ครบ 3 ปีขึ้นไป ถึงจะมีสิทธิสอบ ตนเองทำงานเป็นครูอัตราจ้างในโรงเรียนแห่งหนึ่งในกำแพงเพชรพอดี จึงได้ลองสอบและติด ได้อันดับที่ 2 ของจังหวัดเองภาษาอังกฤษ สุดท้ายก็ตกลงไปรายงานตัวที่โรงเรียนใน จ.กำแพงเพชร เมื่อวันศุกร์ผ่านมา

สำหรับคำถามที่ว่า เป็นคนแรกที่คิดค้นการบนด้วยหมูกระทะไหม คิดว่าตนเองไม่น่าจะเคลมได้ แต่คิดว่าน่าจะเป็นคนแรกของกำแพงเพชรที่ทำแบบนี้ เพราะปกติก็จะไหว้ ด้วยหัวหมู ไก่ หรือผลไม้ หลังจากเรื่องเป็นไวรัลไปแล้ว กระแสส่วนใหญ่ 90 เปอร์เซ็นต์มีคนทักมาชื่นชม และขำขันด้วย แต่เรื่องของการตำหนิยังไม่ค่อยเห็น มีคนบอกว่าไอเดียแปลกดี เจ๋งดีซะส่วนใหญ่

สุดท้ายนี้ ครูอานนท์ ยังบอกอีกว่า อยากจะฝากสังคม ถึงความพยายามของตนเอง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วย เพราะในที่สุด หากเราพึ่งแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ไม่ยอมพัฒนาฝึกฝนตนเอง วันจริง ยังไงก็ไม่ได้ ยกเว้นดวงดีจริงๆ เพราะที่ผ่านมาตนเองก็ฝึกทำข้อสอบ และอ่านหนังสือ ติวต่างๆ หาวิชาความรู้เพิ่มเติม ในการสอบบรรจุเป็นข้าราชการพอสมควร เพราะอยากปิดจ๊อบให้ได้ในวัย 28 ปี.

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Nu Ni