อ.เจษฎา เฉลยแล้ว หลังหนุ่มโคราชเจอวัตถุประหลาดระหว่างไปจับอึ่ง เชื่อเป็นอุกกาบาต แท้จริงแล้วเป็น อุลกมณี หรือหินสะเก็ดดาว

วันที่ 26 สิงหาคม 2566 มีรายงานว่า จากกรณีหนุ่มชาวโคราชเล่าว่า ได้ออกส่องไฟจับอึ่งเมื่อหลายเดือนก่อน เห็นแสงไฟพุ่งลงน้ำคล้ายดาวตก ไปดูเจอวัตถุแวววาว ก้อนเกือบเท่าไข่ไก่ เชื่อเป็นอุกกาบาต เคยลองเอาหนุนหัวร้อนจนนอนไม่ได้ ค้อนทุบก็ไม่ระคายผิว อยากให้ผู้รู้ช่วยมาดู ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว หนุ่มโคราชเชื่อครอบครองอุกกาบาต เห็นกับตาแสงประหลาดพุ่งตกจากฟ้า

เกี่ยวกับเรื่องนี้ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพจ อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ ระบุว่า 

"วัตถุที่พบนั้น คือ อุลกมณี หรือหินสะเก็ดดาว ครับ ไม่ใช่อุกกาบาตหรือซากดาวตก" ทาง กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็ได้ชี้แจงว่าหินสีดำเหล่านี้เรียกว่า อุลกมณี หรือไม่ใช่ชิ้นส่วนของอุกกาบาตแต่อย่างใด 

อุลกมณี (หรืออีกหลายชื่อที่เรียกกัน เช่น อุกกามณี แก้วข้าว สะเก็ดดาว เหล็กไหลต่างดาว คดปลวก พลอยจันทรคราส หยดน้ำฟ้า) นั้น มีชื่อภาษาอังกฤษว่า "tektite" โดยมีรากศัพท์มาจากคำว่า tektos ในภาษากรีก แปลว่า หลอมละลาย 

อุลกมณีที่พบจะมีเนื้อแก้ว ส่วนใหญ่สีดำทึบคล้ายนิล บางชิ้นมีเนื้อในสีน้ำตาลใส บางชิ้นก็มีเนื้อโปร่งแสงสีเขียว ผิวของอุลกมณีจะเป็นหลุมเล็กๆ โดยรอบ ผิวขรุขระ มีขนาดและรูปร่างต่างๆ กัน รูปลักษณ์สัณฐานไม่แน่นอน อาจเป็นก้อนกลม ยาวแบน แท่งกลมยาว 

...

มนุษย์รู้จักอุลกมณีมานานแล้ว โดยเชื่อกันว่าเป็นสะเก็ดดาวจากนอกโลก ที่ตกเข้ามายังพื้นผิวโลก แต่ปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษาและทราบว่าแท้จริงแล้ว เป็น "หิน ดิน ทราย" บนโลก ที่เกิดการหลอมละลายจากความร้อน ที่ได้รับจากการพุ่งชนของอุกกาบาต 

ขณะที่ดินทรายหลอมละลายนั้น จะกระเซ็นขึ้นไปบนท้องฟ้าตามแรงดันสูงที่อุกกาบาตกระทบพื้น แล้วเกิดการเย็นตัวและแข็งตัวอย่างรวดเร็วกลางอากาศ ก่อนจะตกกลับคืนสู่พื้นดิน จึงทำให้เกิดรูปร่างหลากหลายแบบ 

สีของอุลกมณีจะมีความแตกต่างกันจากการเกิด ว่าเมื่อตอนที่เกิดนั้น มีแร่ธาตุอะไรเข้าไปผสมอยู่ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่อุลกมณีจะประกอบด้วยแร่ซิลิกา จึงมีลักษณะเป็นเนื้อแก้วโปร่งแสง เมื่อเวลาถูกแสงไฟ แสงบางส่วนจะทะลุผ่านได้

ข้อมูลจาก เฟซบุ๊กเพจ อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์