หนุ่มโพสต์เรื่องราวอุทาหรณ์ แฟนสาวตกเป็นเหยื่อของคดีล่วงละเมิดทางเพศ สุดท้ายศาลสั่งจำคุกคนก่อเหตุ 3 ปี ฝากเป็นบทเรียน ความสุขชั่วคราวของบางคน อาจเป็นฝันร้ายของใครอีกคนไปชั่วชีวิต

วันที่ 26 พฤษภาคม 2566 มีรายงานว่า กลายเป็นเรื่องราวสะเทือนใจ ที่ถูกแชร์ในโลกออนไลน์ เมื่อผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพ พร้อมระบุข้อความว่า อยากจะแชร์เรื่องเกี่ยวกับภัยสังคม คดีล่วงละเมิดทางเพศ โดยคนที่ผมรักเป็นผู้ประสบเหตุในเรื่องนี้ ได้ทราบจากศาลฯ ว่าตัดสินโทษจำคุกเป็นเวลา 3 ปี อ่านสั้นจบแค่นี้ อ่านยาวเชิญต่อด้านล่างและขอให้อ่านทุกตัวอักษรครับ

Refer from Samutprakan Provincial Court "Criminal punishment for Rapist Imprison for 3 years Because of Confession and First time action" โพสต์อาจจะค่อนข้างยาว แต่ผมนั้นตั้งใจกลั่นกรองออกมาเพื่อเป็นอุทาหรณ์ จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ ขอถือว่ามันเกิดจากตัวของผมเอง ที่ไม่เป็นคนรักษาคำพูด และให้ความไว้ใจ ความเชื่อใจกับระบบเกินไป

เหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นช่วงปลายปี 65 ของเช้ามืดคืนหนึ่ง คนที่ผมรัก ได้นัดเจอกันระหว่างเพื่อนของเขา และผมเองได้บอกไว้ว่าจะเป็นคนไปรับกลับ แต่เมื่อถึงเวลาที่สมควรจะไปรับ ผมก็ผิดคำพูดของตนเอง ไม่ได้ไปรับเขาตามที่บอกไว้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้ดื่มแอลกอฮอล์กับเพื่อนอยู่อีกสถานที่ เกรงว่าถ้าขับรถไป อาจจะเจอด่านตรวจ และเป็นภัยบนท้องถนนกับผู้อื่น

ผมได้คุยกันกับเขาว่า จะให้เรียกรถผ่านแอปพลิเคชันเรียกรถ แล้วมาเจอกันที่พักแบบนี้จะดีกว่า และแล้วเรื่องน่าเศร้าใจ ก็ได้เกิดขึ้นต่อจากนี้ คนขับรถนั้นได้รับ และขับรถไปจอดในสถานที่มุมมืด ที่ติดถนนใหญ่ ได้ทำการกักขังหน่วงเหนี่ยว ข่มขืนกระทำชำเรา ปฏิบัติราวกับพฤติกรรมของสัตว์ ที่ไม่สามารถควบคุมความกำหนัดของตนเองได้

...

และวันนี้ (11 พ.ค. 66) เราได้ไปศาลฯ เพื่อติดตามความคืบหน้า และได้ทราบว่าคดีได้ถูกตัดสินไปแล้ว ตั้งแต่ 14 มี.ค. 66 และสิ้นสุดการอุทธรณ์ 14 เม.ย. 66 โดยผู้ต้องหาได้รับสารภาพ และ "ต้องโทษจำคุกเป็นเวลา 3 ปี" เป็นความโง่เขลา และความรู้น้อยทางกฎหมายของผมเอง ที่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยไป จนหมดอายุการอุทธรณ์

ทั้งนี้ มีจดหมายในการให้เรียกสินไหมทดแทน เรียกมารายงาน ณ วันที่ 13 มี.ค. 66 แต่เราไม่ต้องการเงินเยียวยาจากผู้ต้องหา เพราะกลัวเป็นเหตุให้บรรเทาโทษ เราอยากให้ผู้ต้องหาได้รับโทษสูงสุดไป เพราะเข้าใจว่าเรากำลังรอวันเรียกสืบพยาน จึงอดทนเฝ้ารอจดหมายจากศาลฯ อีกครั้ง จนคิดว่า.. ผู้ต้องหา น่าจะครบฝากขังเจ็ดฝากไปแล้ว ถึงได้มาตามเรื่อง และได้ทราบตามที่กล่าวไปข้างต้น

ผมขอลงรายละเอียดของเรื่องราวเพียงเท่านี้ สิ่งที่อยากจะพูดถึงเมื่อเหตุเกิดขึ้นแล้ว เราควรทำอะไรก่อน ต้องติดต่อใคร เพราะเรื่องนี้ไม่เคยถูกสอนในโรงเรียน หรือคิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเรา ครั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ ขอให้ตั้งสติให้ดี รวบรวมหลักฐานที่ใช้ติดตามคนร้ายได้ พาตัวเองไปโรงพยาบาลเพื่อการเก็บหลักฐาน พาตัวเองไปแจ้งความกับสน.ที่เกิดเหตุ

ยิ่งเราเดินเรื่องพวกนี้ได้ไวที่สุดเท่าไร ก็จะยิ่งง่ายต่อรูปคดี สำคัญคือต้องรวบสติ และกำลังใจให้มาก เพื่อที่จะผ่านไปในแต่ละวัน หลังเกิดเหตุการณ์ได้ ดูจากการลงมือของคนร้าย ไม่แน่ใจว่าอาจจะเคยก่อเหตุลักษณะนี้หรือไม่ การรู้จักเลือกสถานที่ใช้ลงมือ เป็นมุมมืดที่ติดถนนใหญ่ (ถนนศรีนครินทร์ จ.สมุทรปราการ) การที่ไม่สามารถระบุตัวคนขับได้ จากข้อมูลทะเบียนรถ เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ หากได้รับการยินยอมจากเจ้าของรถ เพื่อการวิ่งงานผ่าน app

หากโพสต์นี้สามารถผ่านตาไปถึง ผู้ประสบเหตุท่านใดเคยเจอการล่วงละเมิด คล้ายกันในลักษณะนี้ (1มค 8199, แท็กซี่ สีเขียว-เหลือง) อยากขอให้ช่วยส่งเสียงออกมา และเดินไปด้วยกันครับ ระยะเวลาจำคุก 3 ปี ยังไม่รวมกระบวนการลดหย่อนโทษต่างๆ จะเพียงพอไหม? ที่ให้คนร้ายนั้นได้สำนึกถึงบาปบุญคุณโทษ ที่ให้คนร้ายนั้นได้ขัดเกลาจิตใจ ก่อนกลับคืนสู่สังคม มาอยู่ร่วมกันอีกในภายภาคหน้า ในส่วนรายละเอียดของตัวคนร้าย

ผมขอไม่ลงชื่อ-นามสกุลในโพสต์นี้ เพราะก็คงไม่เป็นการยุติธรรม สำหรับวงศ์ตระกูลทางฝั่งนั้น ที่ต้องมารู้ว่า บรรพบุรุษของตนเอง บุคคลร่วมสายเลือด มีพฤติกรรมปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์เยี่ยงนี้ ถ้าข้อความนี้ส่งไปถึงครอบครัวฝั่งนั้นได้ ผมก็ขอแสดงความเสียใจ ที่ต้องสูญเสียเสาหลักหล่อเลี้ยงครอบครัวไป

แต่ก็ขอให้นำเรื่องนี้ เป็นบทเรียนสอนใจเราทุกฝ่าย เป็นบทเรียนสอนลูกหลาน และเดินหน้าใช้ชีวิตกันต่อไป กามอารมณ์ เป็นเรื่องธรรมดาที่ฝังอยู่ในรากลึกของจิตใจ แต่ปัญหาของมันคือการควบคุม/การแสดงออก ให้ถูกต้องและเหมาะกับกาลเทศะ ถ้าไม่สามารถยับยั้งชั่งใจได้ ก็ไม่ต่างจากพฤติกรรมของสัตว์เดรัจฉาน

บาดแผลทางจิตใจ เราไม่สามารถมองเห็น ได้ว่ามีร่องรอยลึกแค่ไหน การที่ต้องคอยเดินทางรับการรักษา การที่กินยาหลายขนาน การต้องเจาะเลือดที่แขนจนเป็นรอยซ้ำๆ การที่กินไม่ได้ การที่นอนไม่หลับ สะดุ้งตื่นหวาดผวา และมีกำลังใจที่จะผ่านไปในแต่ละวัน มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

เรื่องนี้ที่เกิดขึ้นผมถือว่า ผมคือต้นเหตุที่ทำให้เรื่องมันเกิดขึ้นได้ แน่นอนว่าในสังคมเรามีคนทั้งดีและไม่ดีปะปนกันไป Driver ส่วนใหญ่ ที่เคยเจอก็นิสัยดี บริการดี เรื่องร้ายนี้ก็มาจากคนส่วนน้อย ที่แทรกซึมอยู่ทุกวงการ ภัยสังคมนี้ ผมขอถือว่าเป็นสิ่งร้ายแรงสำหรับสังคมเรา ในประเทศที่ระบบขนส่งสาธารณะ ที่ยังไม่เข้าถึงทุกจุดทุกซอย การเรียกรถจาก app ย่อมเป็นทางเลือกในการเดินทาง เพราะมีทั้งข้อมูลรถ และคนขับ แต่ก็ยังเกิดเหตุที่ไม่น่าให้อภัยนี้ได้

มองไปในภาพใหญ่ระดับประเทศ ประเทศไทยเป็นประเทศ เด่นเรื่องส่งออกและท่องเที่ยว ชาวต่างชาติที่เข้ามาย่อมมีการเรียกใช้รถจาก app เป็นส่วนหนึ่งในการเดินทางของพวกเขาแน่นอน แล้วแบบนี้ความปลอดภัยพวกเขาเหล่านั้นจะเป็นอย่างไร?

ขอย้ำเตือนใจให้ผู้อ่านทุกท่าน จงเป็นเกราะคุ้มกันภัย เป็น Barrier ที่ดี ปกป้องคนที่เรารักจากภัยรอบตัว ใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท สุดท้ายนี้เรื่องนี้อาจจะดังเพียงข้ามคืน หรืออาจจะไม่มีใครสนใจเลยก็ได้ แต่สุดท้ายก็คงถูกกลืนหายไปตามกาลเวลา เพราะโลกเราใบนี้ช่างหมุนไปไวเหลือเกิน

ในยุคที่มีเรื่องราวที่เต็มไปด้วยข่าวสารต่างๆ ขอเพียงเรื่องนี้ เป็นเหมือนแสงไฟเล็กๆจากไม้ขีดไฟ ที่สามารถส่งต่อให้ผู้อ่านที่เปรียบเสมือนเทียนไข ได้ส่งต่อไฟในการใช้ชีวิตไม่ประมาท ไฟในการรักและดูแลคนที่เรารักให้ดีที่สุด เราไม่มีทางห้ามคนคิดไม่ดีหรือทำไม่ดีได้

ตราบใดที่เรายังเป็นสัตว์สังคมใช้ชีวิตร่วมกัน สิ่งที่ทำได้เพียงกันตัวเองออกห่างจากภัยเหล่านั้น ถ้อยคำที่ว่าค่ำคืนยิ่งมืดมิด ยิ่งเห็นดาวได้สว่างสวยงาม เปรียบกับตอนที่เรามีเรื่องเดือดร้อน และทุกข์ใจมาก เรา.. จะได้เห็นคนที่ดีกับเรา คนที่พร้อมยื่นมือช่วยเหลือ คนที่พร้อมรับฟัง เป็นกำลังใจอยู่เคียงข้าง หรือแม้กระทั่งคำติเตียน สั่งสอน ก็ขอยินดีน้อมรับไว้เช่นกันครับ

ขอบคุณพี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทีมจับตัวคนร้าย ทำงานกันอย่างรวดเร็ว หลังวันได้หมายจับ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ทุกท่าน สำหรับการดูแลอย่างอบอุ่น และคำแนะนำเป็นกำลังใจที่ดี ขอบคุณเจ้าหน้าที่ศูนย์พึ่งได้ ที่ดูแลเราด้วยคำพูดที่อบอุ่นใจเสมอ

ขอบคุณทนายที่คอยให้คำปรึกษาแนวทางคดี และที่สำคัญ ขอขอบคุณ สารวัตรเจ้าของคดี ที่ท่านได้ตั้งใจทำคดีนี้ไว้เพียงใด ขอให้ส่งผลกลับไปเป็นความเจริญในชีวิตท่าน เช่นกัน "ความสุขชั่วคราวของใครบางคน อาจเป็นฝันร้ายของใครอีกคนไปชั่วชีวิต" ไม่อยากให้มีใครโชคร้ายและเจ็บปวด แบบที่เราได้ประสบพบเจอ ด้วยรักและขอบคุณกัลยาณมิตรทุกท่าน

อย่างไรก็ตาม หนุ่มเจ้าของโพสต์ดังกล่าว ยังได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องของเราคดีสิ้นสุดไปแล้ว คงไปแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่อยากฝากสื่อฯ นำเสนอจนไปสู่กระบวนการ แก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับคดีแบบนี้ ให้ดูเหมาะสมกับสิ่งที่เขาได้ทำคนๆ นึงที่ตายทั้งเป็น หลังจากเราแชร์เรื่องออกไป มี inbox เข้ามาหลายอัน ที่แชร์เรื่องราวความเจ็บปวด และให้กำลังใจในเวลาเดียวกัน ทำให้เรารู้ว่ามีเรื่องแบบนี้อีกเยอะ แต่โทษที่คนพวกนี้ก็ดูเบาบาง และมีช่องให้ลดหย่อนเยอะเหลือเกิน.

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก