สรุปดราม่าหนังคนละม้วนแม่เลี้ยงเดี่ยว จ.ตรัง โวยเจ้าอาวาสวัดดัง ชวนลูกชายไปบวชเณร แต่ไม่ยอมให้เงินกลับมาเป็นทุนการศึกษา ด้านเจ้าอาวาสแจง พร้อมแนะประชาชนให้ฟังความสองฝ่าย

กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความกล่าวหา พระครูปลัดคณกร มหาญาโณ ดร. เจ้าอาวาสวัดป่ามหาญาณ (วัดทุ่งปง) หมู่ 5 ต.นาท่ามเหนือ อ.เมือง จ.ตรัง ว่ามาขอนำลูกชายของตัวเองอายุ 12 ปี ไปบวชสามเณรภาคฤดูร้อนที่วัด ระหว่างวันที่ 2 เม.ย. ถึง 25 เม.ย. 66

แต่ไม่ยอมสึกให้ลูก และได้นำลูกชายไปถ่ายคลิปลง TikTok เพื่อหวังเรียกคนเข้ามาทำบุญ ทั้งยังอ้างอีกว่าหลังจากมีการสึกแล้วก็ไม่ยอมมาส่งลูกชายของตนกลับบ้านเหมือนกับตอนที่มารับไปบวช แถมไม่ให้เงินลูกชายติดกระเป๋ากลับบ้านแม้แต่บาทเดียว ไม่เหมือนกับลูกชายอีก 2 คนที่ไปบวชอีกวัด แต่กลับได้ทุนการศึกษากลับมาหลายพันบาท

ซึ่งผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าวนั้นทราบชื่อต่อมาคือ นางศรียุภา หรือหยุ่น ที่เคยเป็นข่าวโด่งดังจากการเป็นคุณแม่สู้ชีวิตรับจ้างกรีดยางเพื่อส่งเสียลูกทั้ง 15 คนให้เรียนหนังสือ โดยนางศรียุภาได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เจ้าอาวาสได้ขอลูกชายตน 1 คนไปบวชภาคฤดูร้อนที่วัด ตนอนุญาต เจ้าอาวาสก็มารับไปเอง

...

หลังจากนั้นก็ได้เห็นว่าเจ้าอาวาสนำลูกชายตนไปโพสต์ลง TikTok เพื่อขออนุโมทนาบุญ ก็ติดใจว่าทำไมต้องนำลูกตนเพียงคนเดียวไปขออนุโมทนาบุญ เท่ากับเอาลูกไปขายบุญเหรอ ยิ่งเมื่อลูกชายตนไปบวช ก็ไม่โทรหาแม่ และไม่รับโทรศัพท์เลย ตนจึงได้เดินทางไปหา

ปรากฏว่าเจ้าอาวาสนั่งเล่นแต่มือถือ ไม่คุยกับสักคำ หลังจากนั้นประมาณวันที่ 10 พ.ค. ตนจึงโทรหาเจ้าอาวาสว่า วันที่ 12 พ.ค. ขอสึกลูกชาย เนื่องจากโรงเรียนเปิดวันที่ 15 พ.ค. แต่กลับได้รับคำตอบว่า ไม่ว่าง ติดธุระ และจะมีทอดผ้าป่าที่วัด ว่างอีกทีวันที่ 17 พ.ค. ทำให้ลูกชายต้องขาดโรงเรียนไป 2 วัน

ในวันที่ 17 พ.ค. ตนก็ได้ไปรับลูก ปรากฏว่าลูกชายสึกแล้วตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. แต่ไม่ได้บอกแม่ และเจ้าอาวาสก็ไม่ได้ไปส่งที่บ้านเหมือนกับตอนที่รับมา นางศรียุภา กล่าวอีกว่า ลูกชายอีก 2 คนบวชที่วัดข้างบ้านแค่ 17 วัน แต่เมื่อสึกออกมากลับได้ทุนการศึกษากลับมา 2 คน 3,900 บาท

ซึ่งแตกต่างกับวัดป่ามหาญาณ ไม่ให้เงินสามเณรติดกระเป๋ามาแม้แต่บาทเดียว ทั้งๆ ที่นำลูกตนไปขออนุโมทนาบุญ ลูกตนไปบิณฑบาต และมีการทอดผ้าป่าที่วัดอีกด้วย ก็ไม่คิดว่าน้ำใจจากเจ้าอาวาสจะไม่มีเลย แม้กระทั่งจะซื้อรองเท้านักเรียนให้ก็ไม่มี เรื่องนี้อยากสะท้อนว่าจะเอาลูกไปบวชก็ศึกษาให้ดีก่อนว่าพระเป็นอย่างไร ส่วนที่โพสต์ไปก็แค่อยากให้สังคมรับรู้ ทุกวันนี้พระนำเด็กไปหากินแบบนี้เหรอ ครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นบทเรียน

ขณะที่ พระครูปลัดคณกร มหาญาโณ ดร. เจ้าอาวาสวัดป่ามหาญาณ กล่าวชี้แจงประเด็นดังกล่าวว่า ตนทราบข่าวว่ามีแม่ลูกดกลำบาก จึงเกิดความเมตตา เอ็นดูสงสาร ประกอบกับเรียนมาทางด้านสังคมวิทยาตามพระพุทธศาสนา อยากจะดูแลสังคมตรงนี้

จึงได้นำญาติโยม ทีมงานไปเยี่ยม และบริจาคข้าวของอาหารให้ ประกอบกับลูกของโยมมีความประสงค์จะบวชวัดแถวบ้านอยู่แล้ว อาตมาจึงได้บอกให้มาบวชที่วัดของอาตมาบ้างก็ได้ เนื่องจากบวชสามเณรภาคฤดูร้อนมากว่า 11 ปีแล้ว โยมแม่ก็ได้ให้มา

โดยที่สามเณรบวชในครั้งนี้จำนวน 15 คน ซึ่งก็ถ่ายคลิปกับสามเณรลง TikTok แค่จริงๆ 1 คลิป หากฟังดีๆ ในคลิปเป็นการพูดถามสารทุกข์สุกดิบ และเพื่อเป็นการอนุโมทนาบุญในการบวชของเขาครั้งนี้ ไม่หวังว่าจะหาเงิน หรือหลอกเงินใคร จะให้มีเงินบริจาคมากมายก็ไม่ใช่ หากมีใครจะร่วมบุญก็สามารถทำได้โดยปกติ แต่มาต่อว่าอาตมาพาลูกมาหากิน ไม่เช่นนั้นสามเณรทุกรุ่นที่มาบวช อาตมาพามาหากินหมดเลยเหรอ ทุกวันในศาสนาไม่หากินกันหมดเลยเหรอ

พระครูปลัดคณกร เผยอีกว่า การที่ได้นำมาบวชก็เพื่อมาเข้าสู่ขบวนการขัดเกลาทางสังคม สามเณรลูกของแม่ก็มีนิสัยก็ไม่ค่อยดีเท่าไร ทำไมอาตมาต้องเอามาหากิน การที่มาตั้งประเด็นแบบนี้ อาตมาลำบากขนาดนั้นเลยเหรอ พาตัวเองไม่รอดเหรอ ก็จะฝากไปยังสำนักข่าวที่นำเสนอข่าวออกไปตามความพอใจ อารมณ์ตัวเอง อาตมา และวัดเสียหาย โดยที่ไม่มีการสอบถามอาตมาด้วย

และในประเด็นที่ว่าทำไม่ไปส่งกลับบ้าน อาตมาต้องไปส่งทั้งหมด 15 คนเลยเหรอ และไม่มีเงินให้ลูกเขาติดกระเป๋าไปเลยนั้น โยมจะเอาอะไร สามเณรรูปอื่นๆ ก็ไม่มี เพราะตอนที่บวช ลูกชายของโยมก็มาตัวเปล่า ผ้าไตรจีวรก็ไม่มี ทางวัดเป็นคนจัดการให้หมด ซึ่งบวชฟรีทั้งหมด ไปบิณฑบาตอาหารก็มาแบ่งปันกินกัน หรือเราจะต้องให้สิทธิพิเศษกับเขาเหรอ

ส่วนกรณีในประเด็นที่บอกว่า ไม่ยอมสึกให้และไม่บอก สามเณรสึกถูกต้องตามกระบวนการ โดยที่ให้ลูกชายเขาโทรบอกแล้ว แต่สามเณรบอกว่าโยมแม่ไม่ว่าง ซึ่งจะมารับได้วันที่ 17 พ.ค. อาตมาก็ไม่ก้าวก่าย และที่ไม่ได้ไปส่ง เพราะติดภารกิจหลายๆ ด้าน

และการที่บอกว่าอาตมาติดโซเชียล อาตมาเล่นจริง แต่โพสต์เพื่อเป็นการถ่ายทอดศาสนา และไม่ได้เล่นตลอดเวลา การบวชครั้งนี้ทางบรรดาญาติโยมก็ช่วยปัจจัยมาสนับสนุนกันทั้งสิ้น อยากให้สังคมตัดสินเอาเอง ส่วนการไปต่างจังหวัดเพราะมีกิจนิมนต์มีเวลาเหลือจึงไปตามศาสนาที่ต่างๆ เช่น วัด ก็อยากให้ญาติโยมชั่งน้ำหนัก ฟังความทั้งสองฝ่าย ไตร่ตรองให้ดีในทุกเรื่อง

อย่างไรก็ตาม พระครูปลัดคณกร ได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานกับ พ.ต.ท.ธีระเดช รัตนวิจิตร สว.(สอบสวน) สภ.บ้านคลองเต็ง อ.เมืองตรัง ว่าถูกกล่าวหา และไปร้องเรียนกับสำนักข่าวว่ามีการนำเสนอข่าวออกไปต่อสาธารณะทำให้ได้รับความเสียหาย.

ขอบคุณข้อมูลจาก TikTok@suriyanjantra