สาวเจ้าของสุนัขเปิดใจ หลังเห็นคลิปพนักงานในร้านตัดขนสัตว์ ทำร้ายสุนัขตัวเอง ล่าสุดเข้าแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ด้านร้านคู่กรณียังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์
วันที่ 2 พฤษภาคม 2566 จากกรณีที่สาวเจ้าของสุนัขท่านหนึ่งได้โพสต์คลิปวิดีโอสุดสะเทือนใจ ที่พนักงานร้านตัดขนสัตว์ ทำร้ายและด่าทอสุนัขของเธอ จนโซเชียลต่างเข้าไปแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ ดังที่นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ (เจ้าของใจสลาย เห็นคลิปสุนัขของตนเอง ถูกทารุณระหว่างอยู่ที่ร้านตัดขนสัตว์)
ล่าสุด น.ส.ใบเตย อายุ 35 ปี เจ้าของสุนัข ได้นำคลิปหลักฐานเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรแม่ปิง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อให้ดำเนินการกับทางร้านตัดขนสุนัขดังกล่าว ทั้งยังเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมานำสุนัขพันธุ์ไซบีเรียน ชื่อ วินเทอร์ ตัวผู้ อายุ 2 ปี ไปใช้บริการอาบน้ำตัดแต่งขนที่ร้านดังกล่าว ที่เพิ่งเคยนำไปใช้บริการเป็นครั้งแรก เนื่องจากดูข้อมูลโปรไฟล์แล้วน่าเชื่อถือ เป็นช่างระดับอาจารย์
...
เมื่อส่งแล้ว ตัวเองไปทำธุระต่อ แต่ปรากฏว่าระหว่างที่ทางร้านอาบน้ำตัดแต่งขนให้สุนัข ได้มีการไลฟ์สด และโทรศัพท์มาหาตน บอกว่าสุนัขขนเป็นสังกะตังอย่างรุนแรง อีกทั้งดื้อไม่เชื่อฟัง และกัดด้วย ให้เปิดดูไลฟ์สดย้อนหลังได้ และไปรับสุนัข
จากนั้นตัวเองได้ไปเปิดคลิปดู พบว่าทางร้านมีการกระทำรุนแรง ใช้ถ้อยคำด่าทอสุนัขของตัวเอง ทำให้รู้สึกแย่มาก และเมื่อไปถึงที่ร้านเพื่อรับสุนัข ตัวเองยังถูกทางร้านต่อว่าอย่างรุนแรงอีกว่า ไม่ดูแลสุนัขให้ดี ซึ่งตัวเองไม่ได้เถียง และจะจ่ายค่าบริการ
แต่ทางร้านปฏิเสธ และยังคงตำหนิตัวเองด้วยท่าทีที่ไม่ค่อยดีนัก ทำให้ต้องออกจากร้านมาก่อน โดยหลังจากนั้นได้นำเรื่องราวและคลิปหลักฐานไปปรึกษาเพื่อนที่เป็นสัตวแพทย์ว่า การกระทำดังกล่าว เช่น ดึงหาง กระชากหัว หรือทุบนั้น รุนแรงเกินกว่าเหตุหรือไม่ ซึ่งมีความเห็นตรงกันว่า เป็นสิ่งที่ไม่น่ากระทำ เพราะอาจทำให้สุนัขบาดเจ็บได้
นอกจากนี้ ตัวเองยังได้สอบถามไปยังร้านตัดแต่งขนสุนัข ร้านประจำหลายแห่งที่เคยไปใช้บริการ ว่าสุนัขของตัวเองที่จะนำไปอาบน้ำทำความสะอาดทุกๆ ช่วงประมาณ 2 สัปดาห์นั้น มีพฤติกรรมก้าวร้าว ไม่ยอมเชื่อฟัง และกัดหรือไม่ เพราะปกติแล้วสุนัขที่ตัวเองเลี้ยง น่ารัก ใจดี เป็นมิตร เชื่อฟังคำสั่งดี และไม่ก้าวร้าว
ซึ่งแต่ละร้านต่างยืนยันว่าสุนัขของตัวเองไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าว ไม่เชื่อฟัง หรือกัดแต่อย่างใด ตัวเองจึงได้ตัดสินใจนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นพร้อมคลิป โพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย เพื่อหวังเป็นอุทาหรณ์และเตือนภัย สำหรับเจ้าของสุนัขทุกคน เพราะเชื่อว่าเจ้าของสุนัขทุกคนต่างรัก และทะนุถนอมสุนัขของตัวเอง ไม่อยากให้โดนกระทำเช่นเดียวกันนี้
ขณะเดียวกันยังได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้วที่สถานีตำรวจ เนื่องจากมองว่าน่าจะเข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์ ทั้งนี้หลังจากที่เกิดเรื่อง ทางเจ้าของร้านยังไม่เคยติดต่อพูดคุย หรือขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังร้านตัดขนที่ปรากฏในคลิป ซึ่งเจ้าของร้านก็ยอมรับว่า เป็นร้านที่ถูกพาดพิงถึงจริง แต่ยังไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ.