หมอเจ้าของเพจ "หมอคนสุดท้าย" เล่าคำขอจากผู้ป่วยมะเร็งระยะลุกลาม วัย 15 ขอให้ช่วยพากลับบ้าน เพราะอยากเจอเพื่อน แต่สุดท้ายกลับไปถึง

วันที่ 21 เม.ย. 2566 เฟซบุ๊กเพจ "หมอคนสุดท้าย" ได้โพสต์ข้อความเล่าเหตุการณ์ของผู้ป่วยรายหนึ่ง ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า วันหยุดยาวสงกรานต์ที่ผ่านมา มีโทรศัพท์จากเพื่อนที่อยู่เวรห้องฉุกเฉิน โทร. มาปรึกษาว่า คนไข้ชายอายุ 15 ปี ป่วยมะเร็งระยะลุกลาม มาด้วยหอบเหนื่อย คนไข้ยืนยันว่าไม่ใส่ท่อช่วยหายใจ จึงปรึกษาช่วยจัดการอาการหอบ ซึ่งน้องทราบว่า ตัวเองป่วยมะเร็ง และขอตายแบบสงบไม่ทรมาน

คนในวัย 15 ปี…กล้าตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว คนในวัย 15 ปี…ที่พร้อมจะเผชิญ “ความตาย” คำถามในหัวโผล่ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ถ้าเป็นเราล่ะ…จะทำได้แบบนี้ไหม?

จากนั้น หมอได้ไปพบน้องมิกกี้ (นามสมมติ) เพื่อสอบถามอาการ โดยน้องบอกขอให้หมอช่วยพากลับบ้านทันทีที่ได้เจอหน้า เหตุผลคือ อยากอยู่บ้าน อยากไปอยู่กับแม่ อยากเจอเพื่อน เพราะรู้ว่าผมไม่ไหวแล้ว และอยากจะให้หมอช่วย ซึ่งหมอเองก็เห็นว่า ร่างกายของน้องกำลังจะไม่ไหว ซึ่งน้องเองก็ได้บอกกับครอบครัวแล้วว่าอยากกลับบ้าน แต่แม่บอกว่า "ไม่มีเงิน"

ทั้งนี้ หมอเองถึงกับน้ำตาคลอ และว่าหมอจะพยายามช่วยให้มิกกี้ได้กลับบ้าน แต่ขอคิดว่าวิธีทางช่วยน้องก่อน ทันใดนั้น ครอบครัวของน้องเดินเข้ามา หมอได้รู้ว่าครอบครัวค่อนข้างลำบาก พ่อกับแม่ต้องจากบ้านไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัวที่กรุงเทพฯ มีย่าเลี้ยงดูมิกกี้ตั้งแต่เด็ก

ซึ่งย่าเล่าว่าน้องเป็นเด็กดีมาตลอด เขาตั้งใจเรียน เขาไม่น่าอายุสั้นเลย หลายปีก่อนน้องได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง ครอบครัวพาไปรักษาอย่างต่อเนื่อง ผ่าตัด เคมี ฉายแสง น้องต่อสู้อย่างอดทนมาโดยตลอด แต่โชคร้ายตัวโรคกลับมา มีการแพร่กระจายไปหลายจุด น้องเหนื่อยมากขึ้น จนขอยุติการรักษาด้วยตัวเอง ครอบครัวจึงพาน้องมาดูแลที่บ้านแม่ แต่ตอนนี้น้องอยากกลับบ้าน ซึ่งย่าไม่มีเงินค่ารถ 

...

หมอจึงพยายามหาทางช่วย กระทั่งได้ผู้ใหญ่ใจดีช่วยสนับสนุนค่าเดินทางกลับบ้านให้น้องได้กลับบ้าน หมอจึงรีบมาบอกน้อง แต่แม่ก็กลัวว่าน้องจะกลับถึงบ้านไหม ซึ่งหมอให้ข้อมูลตามจริงว่า "บอกไม่ได้เลยครับ มิกกี้มีโอกาสที่จะเสียชีวิตระหว่างทาง" แต่หากเสียชีวิตระหว่างทาง สิ่งที่เราทำก็ไม่ได้เสียเปล่า เพราะหนึ่งเราตั้งใจพาน้องกลับบ้าน และสองน้องก็รับรู้ว่าเราตั้งใจทำความฝันสุดท้ายให้เขาอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างทาง เราทำดีที่สุดแล้ว

"ผมให้ครอบครัวพามิกกี้โทรหาเพื่อนๆ และวิดีโอคอล อย่างน้อยหากมิกกี้โชคร้ายเสียชีวิตระหว่างทาง ก็ยังมีโอกาสได้คุยกับเพื่อนๆ ของเขา มิกกี้ออกเดินทางด้วยรถที่มีผู้ใหญ่ใจดีสนับสนุนการเดินทาง และโชคร้ายครับ…มิกกี้กลับไปไม่ถึงบ้านอันแสนอบอุ่นหลังนั้น"

ที่มาจาก เฟซบุ๊ก หมอคนสุดท้าย