เทศกาลหยุดยาวช่วงวันสงกรานต์กลับมาอีกครั้ง ปีนี้คงได้ฉลองกันเต็มเหนี่ยว เพราะโรคระบาดโควิด–19 ซาไปแล้ว

แต่แทนที่ภาครัฐจะออกมาตรการเข้มข้นขึ้น เพราะสถานการณ์เปลี่ยนไป แต่ดันมาชนกับช่วงเลือกตั้ง เลยดูเหมือนทุกหน่วยงานปล่อยเกียร์ว่างสบายๆไปด้วย?!

ประชาชนจึงต้องหันกลับมาระมัดระวังดูแลตัวเอง เพราะอาจต้องเจอกับพวก “เมาแล้วขับ”

“ศาลยุติธรรม” ไม่ได้นิ่งนอนใจ นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม ออกมาเตือนด้วยความห่วงใย เพื่อลดการถูกดำเนินคดี และป้องกันอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์

รวบรวมสถิติคดีกระทำผิด พ.ร.บ.จราจรทางบก เปรียบเทียบย้อนหลัง 2 ปี ช่วงการรณรงค์ 7 วันอันตราย ระหว่างปี 2564–2565 มาเตือน เพราะมันอาจหมายถึงการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน

สถิติปี 2564 มีผู้กระทำความผิดขึ้นสู่การพิจารณาพิพากษาคดีทั้งสิ้น 13,103 คน ข้อหาที่มีผู้กระทำความผิดสูงสุดอันดับหนึ่งคือ ขับรถขณะเมาสุรา 12,213 คน คิดเป็น 93.21 เปอร์เซ็นต์!

รองลงมาเป็นข้อหาขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต 816 คน คิดเป็น 6.23 เปอร์เซ็นต์ ขับรถขณะเสพยาเสพติด 40 คน คิดเป็น 0.31 เปอร์เซ็นต์ และขับรถโดยประมาท 34 คน คิดเป็น 0.26 เปอร์เซ็นต์

ปี 2565 มีผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ขึ้นสู่การพิจารณาคดีทั้งสิ้น 17,909 คน ข้อหาที่มีผู้กระทำความผิดสูงสุดอันดับหนึ่งคือ ขับรถขณะเมาสุรา 15,608 คน คิดเป็น 87.15 เปอร์เซ็นต์!

รองลงมาเป็นข้อหาขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต 1,274 คน คิดเป็น 7.11 เปอร์เซ็นต์ ขับรถขณะเสพยาเสพติด 980 คน คิดเป็น 5.47 เปอร์เซ็นต์ และขับรถโดยประมาท 47 คน คิดเป็น 0.26 เปอร์เซ็นต์

...

หากดูจากสถิติ 2 ปีที่ผ่านมา ผู้กระทำความผิดเมาแล้วขับเพิ่มขึ้น 3,395 คน คิดเป็น 27.8 เปอร์เซ็นต์!

สะท้อนให้เห็นว่าผู้ขับขี่ยังขาดความระมัดระวัง อาจทำให้เกิดอันตรายกับตัวเองและผู้อื่น ขอให้พี่น้องประชาชนขับขี่อย่างปลอดภัย ใส่ใจเพื่อนร่วมทางและรับผิดชอบต่อสังคม...

ศาลออกมาเตือนตรงๆ ไม่รู้จะกลัวกันบ้างมั้ย?

สหบาท