ต้องอ่าน ถ้าไม่อยากจ่ายหนี้ เพจทนายแนะข้อปฏบัติ สำหรับผู้ที่ทำ "บัตรเครดิต" หาย แล้วทราบภายหลังว่าถูกคนอื่นนำไปใช้ ชี้หากมีข้อความแจ้งใช้บัตร ควรรีบไปอายัด เพราะมีผลต่อการพิจารณาในศาล

วันที่ 16 กุมพาพันธ์ 2566 เฟซบุ๊กเพจ ที่ปรึกษากฎหมายของชาวบ้าน ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า บัตรเครดิตหาย แล้วมีคนนำไปใช้ และเพราะเหตุ หรือพฤติการณ์อะไร ศาลถึงให้เขาจ่ายหนี้ ตามที่เคยบอกไว้ว่ารอให้คดีถึงที่สุดแล้วจะเอาเรื่องมาเล่าครับ สรุปเรื่องย่อแบบชาวบ้านขาเม้าท์แล้วกัน

เรื่องมีว่าคุณน้องคนนี้ได้ทำบัตรเครดิตหายไป แล้วมีคนเก็บนำบัตรเครดิตของน้องคนนี้ไปรูด.. ปื๊ด..รูดปื๊ดไป เกือบสี่หมื่นบาท แต่น้องคนนี้ก็ไม่ทราบว่าบัตรเครดิตหายไป และไม่ได้ดู SMS ในโทรศัพท์ (ทุกครั้งที่มีการใช้บัตรฯ ธนาคารเจ้าของบัตรจะส่ง SMS แจ้ง) พอเวลาผ่านไป มีใบแจ้งหนี้ เรียกเก็บเงินที่มีรายการใช้บัตรเครดิต น้องเขาก็ไม่ได้แกะดู มารู้ตัวอีกครั้งว่าบัตรฯ หาย ก็ปาเข้าไปร่วม 20 กว่าวันแล้ว ถึงค่อยไปแจ้งความ ซึ่งศาลวินิจฉัยเป็นพฤติการณ์ที่เป็นความบกพร่อง และเป็นความประมาทอย่างร้ายแรงของผู้ใช้บัตรเครดิตเอง ที่ไม่กระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตัวเอง ศาลอุทธรณ์จึงมีพิพากษาให้คนใช้บัตรเครดิตจ่ายหนี้นั้น

ส่วนตัวแอดนั้น เคยถูกแฮกบัตรเครดิต มามากกว่า 4 ครั้ง (บัตรของ 3 ธนาคาร) แต่ละครั้งที่ถูกแฮกบัตรและมีรายการใช้จ่ายผ่านบัตร แอดไม่เคยได้จ่ายเลยแม้แต่บาทเดียว เพราะแอดเห็น sms แจ้งการใช้บัตร แอดจึงรีบโทรไปที่คอลเซ็นเตอร์ เพื่ออายัดและขอบัตรใหม่ ซึ่งมีครั้งหนึ่งที่โทรแจ้งช้าที่สุด ประมาณ 2 วันนับจากที่มีรายการแจ้งใช้บัตรฯ ซึ่งมันก็จะสอดคล้องกับที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยไว้

...

สรุปบทเรียนจากประสบการณ์คนอื่น สำหรับคนที่มีบัตรเครดิต คือ เราควรสำรวจการบัตรเครดิตในกระเป๋าเงินอยู่เนืองๆ ว่าสูญหายไปไหนมั้ย มีรายการใช้บัตรแจ้งมาทาง sms หรือไม่ ถ้าเคสกรณีนี้ มีการแจ้งอายัดไว้ แอดฯ ว่าเขาก็ไม่ต้องจ่าย เพราะนอกจากที่เราไม่ได้ใช้แล้ว เรายังไม่ได้ประมาทอย่างร้ายแรงด้วย

นอกจากพฤติการณ์ของเราแล้ว เรายังมีกฎหมายคุ้มครองด้วย คือ ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจบัตรเครดิตเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2556 ข้อ 8 มีความว่า "ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจมีข้อตกลงกับผู้ขายสินค้า หรือผู้ให้บริการ ที่ให้ผู้บริโภคสั่งซื้อสินค้า หรือใช้บริการที่ผู้บริโภค เพียงแจ้งความประสงค์ขอชําระค่าสินค้าหรือค่าบริการ โดยการแจ้งหมายเลข บัตรเครดิตด้วยวาจาหรือลายลักษณ์อักษร ให้ผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการทําการเรียกเก็บเงินจาก ผู้ประกอบธุรกิจ ต้องมีข้อสัญญาดังต่อไปนี้

(ก) ถ้าผู้บริโภคทักท้วง ว่าไม่ได้เป็นผู้สั่งซื้อสินค้าหรือไม่ได้เป็นผู้ขอรับบริการ จากผู้ขายหรือ ผู้ให้บริการดังกล่าว ผู้ประกอบธุรกิจจะระงับการเรียกเก็บเงินจากผู้บริโภคทันที หรือในกรณีที่เรียกเก็บเงินไปแล้วจะคืนเงินให้กับผู้บริโภคทันที เว้นแต่ผู้ประกอบธุรกิจจะพิสูจน์ได้ว่า ภาระหนี้ที่เกิดขึ้นเป็น การกระทําของผู้บริโภคเองและใช้สิทธิ์เรียกคืนจากผู้บริโภคในภายหลัง โพสต์หน้าจะหาเรื่องมาเล่าใหม่นะ แอด สัญญา.

ขอบคุณข้อมูลจาก แฟนเพจเฟซบุ๊ก