ลงดาบสองแจ้งคดีอาญาเพิ่มอีกกระทง ม.149 ฐานเรียกรับเงิน ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ชุดตั้งด่านตรวจรีดเงินนักท่องเที่ยวดาราสาวไต้หวัน หลังสอบเพื่อนหนุ่มชาวสิงคโปร์เป็นพยาน พบความผิด 6 นาย ร.ต.อ.และชั้นประทวน ทั้งแต่งกายและนอกเครื่องแบบ ด.ต.รอดเพราะออกจากด่านไปตรวจสอบเหตุ ผบก.น. เซ็นคำสั่งทันควันให้ออกจากราชการไว้ก่อน ผบก.สส.บช.น.เผยสอบปากคำ 6 ตำรวจ รับสารภาพชั้นสืบสวนแต่ให้การปฏิเสธชั้นสอบสวนทั้งหมด แต่ไม่กังวลเพราะมีพยานหลักฐานชัดเจนมัดตัวผู้ต้องหา ศาลไม่ให้ประกันนำส่งขังเรือนจำ ด้าน ผบช.น.ปรับเปลี่ยนตั้งด่านตรวจเมาและจุดตรวจต้องขออนุญาตรอง ผบช.น.ย้ำต้องไม่เกิดอีก ส่วนโฆษก ตร.กำชับต้องติดกล้องที่ตัวและแต่งเครื่องแบบ ดาราสาวโพสต์ปลื้ม “เสี่ยชูวิทย์” ขอบคุณที่ช่วยเหลือ ด้าน รมว.ดิจิทัลเสนอควรผลักดันบุหรี่ไฟฟ้าให้ถูกกฎหมายเพื่อแก้ปัญหา
กรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แถลงเปิดตัวพยานนายสกาย หนุ่มชาวสิงคโปร์ วัย 32 ปี เพื่อน น.ส.อัน หยู ฉิง หรือชาร์ลีน อัน นักแสดงสาวไต้หวัน หนึ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ถูกตำรวจ สน.ห้วยขวาง ตั้งด่านตรวจบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ถนนรัชดาภิเษก กักอยู่ที่ด่านนานเกือบชั่วโมงรีดเงิน 27,000 บาท แลกกับไม่ดำเนินคดีบุหรี่ไฟฟ้า นายสกายบินข้ามประเทศมาให้การเป็นพยานยืนยันว่า ตำรวจข่มขู่บังคับเรียกเงิน แบ่งเป็นบุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง แท่งละ 8,000 บาท และไม่พก พาสปอร์ต 3,000 บาท ไม่ได้เป็นคนเสนอให้และไม่รู้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าในไทยผิดกฎหมาย เพราะเห็นขายกันเกลื่อนกลาด พร้อมย้ำว่าเพื่อนสาวชาวไต้หวันถูกจัดฉากให้ถ่ายรูปถือบุหรี่ไฟฟ้า โดยมีพนักงานสอบสวนร่วมฟังและสอบปากคำ เพื่อเตรียมพิจารณาลงดาบสองแจ้งข้อหาชุดตั้งจุดตรวจฉาว ยศ ร.ต.อ.-ส.ต.อ. ความผิดฐานเรียกรับเงิน ก่อนหน้าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดแรกแจ้งข้อหา ม.157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเด้งทั้งหมดไปประจำที่ ศปก.บก.น.1 ส่วน ผกก.สน.ห้วยขวาง ถูกย้ายไป สน.หนองจอก นอกจากนี้เสี่ยชูวิทย์เปิดประเด็นใหม่ขย่ม บช.น.ว่า ตำรวจตั้งด่านตรวจและด่านจราจรรีดไถส่งยอดให้นายที่ตั้งเป้าไว้ ตกเดือนละรวม 324 ล้านบาทเพราะบ่อนพนันปิด
...
ฟัน 6 ตร.แจ้งเพิ่มข้อหาเรียกรับเงิน
ความคืบหน้าที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจนครบาลศรีอยุธยา เขตราชเทวี กทม. เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 ก.พ. มีรายงานว่า หลังจาก พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 นำคณะพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานแวดล้อมและกล้องวงจรปิด รวมทั้งนายสกายพยานและผู้เสียหายในคดีให้การว่า เป็นผู้จ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และชี้รูประบุตัวตำรวจ สน.ห้วยขวาง ที่ตั้งด่านเรียกเงิน มี พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งด่านบริเวณหน้าสถานทูตจีนมาแจ้งข้อหาเพิ่มเติมจำนวน 6 นาย จากทั้งหมด 7 นาย ในความผิดมาตรา 149 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ ทั้งหมดทยอยเดินทางรับทราบข้อกล่าวหาพร้อมด้วยทนายความและครอบครัว แต่ละนายขึ้นไปห้องสอบสวนเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนควบคุมตัวไปฝากขังต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ย่านตลิ่งชัน กทม.
ด.ต.ออกจากด่านไประงับเหตุ
สำหรับรายชื่อข้าราชการตำรวจ สน.ห้วยขวาง ทั้ง 6 รายที่ถูกแจ้งข้อหา ได้แก่ 1.ร.ต.อ.ยอดฤทธิ์ ลางดุลเสน รอง สวป. 2.ร.ต.อ.ปฏิภาณ ศิริชัยวัฒนา รอง สว.จร. 3.ด.ต.กฤษฎา คำมะนา ผบ.หมู่ ป. พฤติกรรมในวันเกิดเหตุมีปากเสียงกับผู้เสียหาย 4.ส.ต.อ.เฉลิมชัย ศิริวังโส ผบ.หมู่ (ป.) ทำหน้าที่คัดเลือกรถเหยื่อ 5.ส.ต.อ.วัชรนนท์ ขาวยอง ผบ.หมู่ (ป.) ในวันเกิดเหตุมีปากเสียงกับผู้เสียหาย 6.ส.ต.อ.นันทวัชร์ สุวรรณา ผบ.หมู่ (ป.) สวมชุดนอกเครื่องแบบเรียกรับเงินผู้เสียหาย ส่วน ด.ต.อธิเวช จุลพันธ์ ผบ.หมู่ (ป.) ที่ปรากฏ 1 ใน 7 รายชื่อตั้งด่านและถูกย้ายไปช่วยราชการ ไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา เนื่องจากในขณะเกิดเหตุได้รับแจ้งเหตุส่งเสียงดัง ซอยรัชดาภิเษกซอย 10 ไปตรวจสอบไม่อยู่ในเหตุการณ์ไประงับเหตุนอกพื้นที่
พลิกลิ้นให้การปฏิเสธชั้นสอบสวน
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า คณะทำงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 6 นาย ความผิดตามมาตรา 157 และความผิดตามมาตรา 149 ในมาตรา 149 มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต ปรับตั้งแต่ 1 แสน ถึง 4 แสนบาท หรือประหารชีวิต เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ในชั้นสืบสวนให้การรับสารภาพ แต่เมื่อสอบสวนในชั้นพนักงานสอบสวนเพื่อลงในสำนวนคดีกลับให้การปฏิเสธทั้ง 6 คน
มีหลักฐานชัดมัดตัวผู้ต้องหา
พล.ต.ต.ธีรเดชกล่าวต่อว่า คณะทำงานมั่นใจในพยานหลักฐานทั้งหมด พยานหลักฐานที่ทางฝ่ายสืบสวนดำเนินการรวบรวม ตั้งแต่ได้รับมอบหมายให้เข้ามาทำงานในคดีมีความคืบหน้ามากกว่าการให้ปากคำของผู้เสียหาย หลักฐานสำคัญเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดจากทางภาคเอกชน สามารถบันทึกเหตุการณ์ตำรวจทั้ง 6 นายไว้ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะสองนายที่เข้าไปพูดคุยกับผู้เสียหาย ส่วนที่ใช้เวลานานกว่าสองสัปดาห์ในการรวบรวมหลักฐานจากกล้องของเอกชน เนื่องจากต้องรอการประสานงานกับทางภาคเอกชนและขอความร่วมมือสื่อมวลชนในการประชาสัมพันธ์ ทำให้รับความร่วมมือในประเด็นนี้เพิ่มเติมมากขึ้น
ไม่แจ้งข้อหาพยานหนุ่มสิงคโปร์
ผบก.สส.บช.น.กล่าวอีกว่า การให้ปากคำของผู้เสียหายชาวสิงคโปร์ชี้ตัวไม่ถึงจำนวน 6 นาย ที่แจ้งข้อกล่าวหา แต่ก็ถือว่าให้การที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานของคณะทำงาน ทำให้สามารถดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาได้ในวันนี้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เดินทางมาควบคุมการสอบสวนตลอดทั้งคืน มั่นใจในพยานหลักฐานที่ทางฝ่ายสืบสวนรวบรวมมา ยังไม่ได้สั่งการใดเป็นพิเศษเพิ่มเติม ส่วนประเด็นกล้องประจำตัวของทางตำรวจชุดที่ตั้งด่านในวันเกิดเหตุ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งไฟล์กลับมาที่พนักงานสอบสวนแล้ว แต่ยังไม่ทราบในรายละเอียด เวลานี้ถือว่าพยานหลักฐานส่วนอื่นที่มีชัดเจนกว่ามากกว่ากล้องประจำตัวแล้ว ยืนยันไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวผู้เสียหาย เนื่องจากพยานหลักฐานสามารถระบุชัดเจนว่าเป็นการเรียกรับไม่ใช่การติดสินบนเจ้าพนักงาน พนักงานสอบสวนจะคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ส่งศาลอาญาคดีทุจริตฯ
คุมตัวชุดด่านฉาวส่งศาลฝากขัง
ต่อมา เวลา 13.15 น. พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 พร้อมคณะพนักงานสอบสวนควบคุมตัว 6 ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ออกจาก บก.สส. บช.น.ไปขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตฯฝากขังเป็นผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน มีเจ้าหน้าที่กำลังตำรวจสายตรวจ 12 นาย เดินประกบซ้ายขวาผู้ต้องหาแต่ละคนพาขึ้นรถกระบะกักขัง 2 คัน คันละ 3 คน มีรถตู้ขับประกบหน้าหลัง ระหว่างทางผู้สื่อข่าวสอบถามว่ากระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ ทั้ง 6 คน ทุกคนต่างมีสีหน้าเคร่งเครียดเดินก้มหน้าไม่ปริปากแม้แต่คำเดียว
ยื่นค้านประกันตัวเกรงหลบหนี
พล.ต.ต.ธีรเดชกล่าวเพิ่มเติมว่า การฝากขังจะยื่นท้ายคำร้องคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมีอัตราโทษสูง หรืออาจเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานในคดีและมีความเสี่ยงต่อการหลบหนี การสอบปากคำตลอดระยะเวลาในชั้นพนักงานสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา สวนทางกับในชั้นสืบสวนให้การเป็นประโยชน์มากกว่านี้ หลักฐานของฝ่ายสืบสวนที่มีรวบรวมมาระบุได้อย่างชัดเจนว่าทั้ง 6 คน ร่วมมือกันรู้เห็นในการปฏิบัติหน้าที่แล้วเรียกรับเงิน ส่วนประเด็นเรื่องเงิน 27,000 บาท ได้ตรวจสอบพบข้อมูลบ้างแล้วและนำลงในสำนวนคดีเรียบร้อยแล้วแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะอาจพาดพิงไปถึงบุคคลอื่นด้วย ต้องขอตรวจสอบก่อน
ผบ.ตร.สั่งปราบผู้ค้าบุหรี่ไฟฟ้า
“พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กำชับให้ทำงานในคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา หากนิ้วไหนร้ายต้องตัดทิ้ง โดยเฉพาะเมื่อเป็นเจ้าที่ตำรวจเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด ส่วนในเรื่องการจัดการกับบุหรี่ไฟฟ้า ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศดำเนินการกวดขันในเรื่องนี้กับผู้จำหน่ายไม่ใช่เฉพาะในเขตพื้นที่ตำรวจนครบาลแต่อย่างเดียว” พล.ต.ต.ธีรเดชกล่าว
ขอบคุณ “สกาย” ให้ข้อมูลครบถ้วน
ต่อมา เวลา 13.30 น. ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เขตตลิ่งชัน กทม. พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 กล่าวภายหลังนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งศาลว่า ส่งคำร้องฝากขังตำรวจทั้ง 6 นาย ผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน พนักงานสอบสวนแนบท้ายขอคัดค้านการปล่อยตัว หากญาติจะยื่นประกันตัวก็เป็นสิทธิขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล ตนมั่นใจพยานหลักฐานครบถ้วนและแน่นหนาเอาผิดผู้ต้องหาได้ แม้ทั้ง 6 นายให้การปฏิเสธ ส่วนจะมีผู้ต้องหาเพิ่มเติมหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้ต้องไปประชุมร่วมกับชุดสืบสวนก่อน ขอขอบคุณนายสกาย ชาวสิงคโปร์ที่ให้ความร่วมมือกับทางตำรวจไทยดีมาก รวมทั้งให้ข้อมูลพนักงานสอบสวนอย่างครบถ้วนเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
ศาลไม่ให้ประกันส่งเข้าเรือนจำ
ต่อมา ศาลอาญาคดีทุจริตฯพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกัน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการ หรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นความผิดตามมาตรา 149, 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ผู้ต้องหายื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิเคราะห์แล้วเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อภาพลักษณ์และกระบวนการยุติธรรมของประเทศโดยรวม อีกทั้งจำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจอาจไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและกระบวนการในชั้นสอบสวน ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้าน จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวให้ยกคำร้อง จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวผู้ต้องหาไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
ผบก.น.1 ให้ออกจากราชการไว้ก่อน
ต่อมา เวลา 17.00 น. พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 เซ็นคำสั่ง ตร.ที่ 45/2566 ลงวันที่ 2 ก.พ.65 มีคำสั่งให้ตำรวจ สน.ห้วยขวาง 1.ร.ต.อ.ปฏิภาณ ศิริชัยวัฒนา รอง สว.ธุรการ 2.ร.ต.อ.ยอดฤทธิ์ ลางคุลเสน รอง สวป. 3.ด.ต.กฤษฎา คำมะนา ผบ.หมู่ ป. 4.ด.ต.นันทวัชร์ สุวรรณา ผบ.หมู่ ป. 5.ส.ต.อ.เฉลิมชัย ศิริวังโส ผบ.หมู่ ป. 6.ส.ต.อ.วัชรนนท์ ชาวยอง ผบ.หมู่ ป. ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบฯ และมีเหตุให้พักราชการได้ ร.ต.อ.ปฏิภาณ กับพวกรวม 6 ราย เป็นข้าราชการตำรวจมีหน้าที่ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดคดีอาญาและรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน แต่กลับมีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์ เพื่อแลกกับการจับกุมผู้กระทำความผิดดำเนินคดี อันเป็นการทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการฯ และพฤติกรรมดังกล่าวไม่น่าไว้วางใจ ถ้าให้คงอยู่หน้าที่ราชการอาจเกิดความเสียหายได้
ไม่มีกล้องห้ามตั้งด่าน
ด้าน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. กล่าวถึงกรณีนายชูวิทย์เปิดประเด็นกรณีตำรวจนครบาลตั้งด่านรีดไถเพื่อนำเงินส่งนายตามเป้ายอด สน.ละ 3 ล้านบาทต่อเดือนว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ ลงตรวจสอบข้อเท็จ จริง เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป หากพบว่ามีหน่วยไหนทำผิด จะมีการดำเนินการเด็ดขาดทั้งวินัย อาญา และปกครอง พร้อมทั้งกำชับการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และด่านตรวจ ทุกหน่วยทั่วประเทศ ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบที่ ตร.สั่งการไว้อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะกล้อง Bodycam ของตำรวจ ในการตั้งด่านทุกนายต้องมีกล้อง Bodycam ทุกคน บันทึกภาพและเสียงเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกครั้ง เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ หากไม่มีห้ามตั้งจุดตรวจ และห้ามตำรวจนอกเครื่องแบบปฏิบัติหน้าที่ตามจุดตรวจอย่างเด็ดขาด
เจอผิดอีกลงทัณฑ์ทั้ง ผกก.–ผบก.
โฆษก ตร.กล่าวว่า การตั้งจุดตรวจต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนและสังคม เช่น จุดตรวจจราจร ต้องตั้งเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ มีสถิติอุบัติเหตุรองรับชัดเจนว่าทำไมต้องตั้งจุดตรวจตรงนี้ เพราะอะไร สำหรับด่านอาชญากรรม ตั้งเพื่อป้องกันเหตุในพื้นที่เสี่ยง พื้นที่เกิดเหตุซ้ำซาก ประชาชนร้องเรียนเรื่องความปลอดภัย การอนุมัติการตั้งจุดตรวจ เป็นอำนาจของ ผบก.ขึ้นไป ถ้าหากจุดตรวจไหน ไม่มีมาตรฐาน เรียกรับผลประโยชน์ เบื้องต้นจะลงโทษหัวหน้าสถานีตำรวจที่ปล่อยปละละเลย ไม่ใส่ใจในการตรวจสอบควบคุมดูแล และ ผบก.ตามลำดับ หากพื้นที่ใดปล่อยปละละเลยกระทำผิดจนเกิดความเสียหาย ต้องดำเนินการเด็ดขาดทั้งวินัย อาญา และปกครอง รวมทั้งพิจารณาโทษผู้บังคับบัญชาด้วย ผบ.ตร.มอบหมายให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ที่รับผิดชอบงานป้องกันปราบปราม ดูแลภาพรวมทั้งประเทศ วางระบบปรับปรุง รูปแบบแนวทางการปฏิบัติให้เป็นมาตรฐานสากลเป็นที่ยอมรับของประชาชน
น.1 มอบนโยบายปรับงานรอง ผบช.น.
ที่ บก.อคฝ. สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.เป็นประธานประชุมมอบนโยบายการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่และรายงานตัวระดับรอง ผบก.-ผกก. สังกัด บช.น. จำนวน 178 นาย ผบช.น.เซ็นคำสั่งปรับเปลี่ยนมอบหมายงานให้รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สำเริงสวนทอง รับผิดชอบงานปราบปรามยาเสพติด (ปส.) จากเดิมดูแลงานป้องกันปราบปราม (ปป.) พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น.รับผิดชอบงานความ มั่นคง (มค.) จากเดิมคุม (ปส.) พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ฐากูรปุณยสิริ รับผิดชอบงานกิจการพิเศษ 2 (กศ.2) จากเดิมคุม (มค.) พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ โยกมาจากรอง ผบช.ภ.9 รับผิดชอบงาน (ปป.)
รีดไถเกิดเพราะปล่อยปละละเลย
พล.ต.ท.ธิติกล่าวในที่ประชุมถึงการดำเนินคดีตำรวจ สน.ห้วยขวาง รีดเงินที่ด่านตรวจว่า เหตุเกิดวันที่ 4 ต่อวันที่ 5 ม.ค.65 เป็นภาพข่าววันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวันที่ 26 ม.ค. ดำเนินการถึง 29 ม.ค. ดำเนินคดีในความผิดที่พบความผิดชัดเจน ส่วนไม่ชัดเจนให้สืบสวนต่อวันที่ 26-29 ม.ค. สรุป 4 วัน วันที่ 30 ม.ค. แจ้งข้อกล่าวหา วันที่ 31 ม.ค.-2 ก.พ. ครบ 7 วันเสร็จสิ้น มีข้าราชการตำรวจเป็นคณะกรรมการเป็นคนในเครื่องแบบ ใครบางคนถูกถอดเครื่องแบบออกให้ใส่ชุดวอร์มนั่งรถคุมตัวผู้ต้องหา สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะไม่มีการรายงาน ไม่มีการเข้าไปควบคุมกำกับดูแล มันคือการปล่อยปละละเลย ไม่เข้าไปใกล้ชิดลูกน้องมากพอ หรือใกล้ชิดแต่ไม่ได้ไปนั่งในใจเขา คนดื้อมันมีแต่ตักเตือนกันได้ทำให้เขาเกรงใจได้แต่วันนี้ไม่ใช่ เดี๋ยวเราจะเห็นภาพข่าวมีข้าราชการตำรวจที่อยู่ในบ้านเราลูกน้องเรา จะรู้จักไม่รู้จักแต่จะเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องจดจำและปรับบทบาทการทำงาน ตั้งแต่ท่านเดินทางออกจากห้องประชุมไป
เน้นย้ำนครบาลต้องไม่เกิดอีก
ผบช.น.กล่าวด้วยว่า สิ่งหนึ่งที่จะฝากไว้สำหรับทุกคน การรายงานเป็นเรื่องสำคัญถ้าเราช้ากว่าก้าวหนึ่งเราก็จะช้ากว่าเขาเสมอ เรื่อง สน.ห้วยขวางทำจริงๆ 7 วันเสร็จ วันนี้เอาคนที่ปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้องไปสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ทำไมสังคมต้องติเตียนเพราะ 1.เรามีรูรั่ว 2.เราช้ากว่าเขาหนึ่งก้าว พอเราจะทำอะไรเขาจะมาบอกในสิ่งที่เราทำอยู่แล้วสิ่งนี้จะเกิดขึ้นอีก จะเกิดขึ้นที่โรงพักไหนสถานีไหนก็แล้วแต่ ท่านเป็นหัวหน้าสถานีอยู่ในภาวะเสี่ยงสูงต้องถูกตรวจสอบอย่างหนักหน่วง หากเจอกรณีการตั้งด่านแบบ สน.ห้วยขวาง จะมีการแจ้งให้ทราบอย่างไร รอง ผบช.น.คุมงานป้องกันปราบปราม และสืบสวน ต้องรับทราบมีการแจ้งให้ทราบปัญหา
เร่งด่วนที่ต้องแก้คือที่อยู่โรงพักแต่ละหน้างานกำลังจะเจออะไร ในรอบ 2-4 สัปดาห์ได้เจอคนธรรมดา นักสืบโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะการตั้งจุดตรวจจุดสกัด อย่าให้มีเรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้น ต้องกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดี กำชับเขาให้ดี สั่งสอนเขาดี เป็นผู้นำที่ดี ตักเตือนดุด่าว่ากล่าว ไม่รักเราไม่เป็นไร แต่อย่าให้เขาเดินไปไม่ดี เขาจะไม่สูญเสียครอบครัวและไม่สูญเสียอนาคต
ตั้งจุดตรวจด่านเมาขอรอง ผบช.น.
“เรื่องเร่งด่วนเรื่องแรก คือ รายงานเหตุหน้างานป้องกันปราบปราม ผกก.ลงไปดูแล รอง ผบก.ลงไปขับเคลื่อนหน้างานต่างๆ โดยเฉพาะงานป้องกัน ปราบปราม จุดตรวจถ้าไม่มีการลงในระบบไม่อนุญาตให้ตั้ง การเสนอขออนุมัติขึ้นมาถึงรอง ผบช.น.ที่ดูแลทั้งในหน้างานจราจรและหน้างานป้องกันปราบปราม ไม่เห็นชอบห้ามตั้ง จุดสกัดยังไม่จำเป็นต้องตั้งจนกว่าจะมีการพิจารณาจากรอง ผบช.น.เกิดเห็นตรงไหนจำเป็นต้องมีแล้วเสนอข้อขึ้นมา ด่านเมายังไม่อนุญาตให้ตั้งจนกว่าจะได้รับการพิจารณาจากรอง ผบช.น.มีความจำเป็นจากอุบัติเหตุบ่อยครั้งหรือปัญหาเกิดจากผู้ขับขี่มีสภาพไม่สมบูรณ์มีการดื่มแอลกอฮอล์ หากตรวจสอบพบมีปัญหาจะมอบหมายให้รอง ผบช.น.ตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อพบภายใน 3 วันต้องพิจารณาได้ว่าบกพร่องเรื่องอะไร เอกสารถึงผมภายใน 7 วันต้องรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นจบลงทัณฑ์ หากตรวจสอบตามลำดับ ผกก.พบลูกน้องทำผิด จดบัญชีถึงเวลาปรับย้ายตำแหน่งทันที พบเหตุทุจริตดำเนินคดี หาก บช.ตรวจพบ รอง ผบก.-สว.รับผิดชอบ” ผบช.น.กล่าว
ดาราสาวชม “ชูวิทย์” เป็นดั่งเทวดา
หลังนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ พาตัวนายสกาย ชาวสิงคโปร์เพื่อนของ “อัน หยู ฉิง” ดาราสาวชาวไต้หวันมาให้การเปิดโปงตำรวจไทยรีดเงินมิหนำซ้ำดาราถูกยัดบุหรี่ไฟฟ้าและถ่ายรูป เมื่อเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน ดาราสาวไต้หวัน โพสต์ข้อความขอบคุณชูวิทย์ พร้อมยกคำของอับราฮัม ลินคอล์น อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐฯว่า “ฉันชอบที่จะเห็นคนภูมิใจในประเทศที่เขาอยู่ ชอบที่จะเห็นคนที่ดำรงชีวิตอยู่แล้วที่ที่เขาอยู่ ภูมิใจในตัวเขา ขอบคุณนายชูวิทย์ ขอบคุณพระเจ้าที่ส่งคุณมาเพื่อเป็นเทวดาพิทักษ์ให้ ความคิดและการแนะแนวทางของคุณ ฉันซาบซึ้งจริงๆ สิ่งที่คุณทำ ทำให้ประเทศภูมิใจ ประเทศไทยจะยังพิเศษสำหรับฉันเสมอ” ดาราสาวได้วิดีโอคอลมาช่วงค่ำของวันที่ 1 ก.พ. แสดงความขอบคุณนายชูวิทย์ นายชูวิทย์ชักชวนมาเที่ยวไทยอีก “อัน หยู ฉิง” ยังโพสต์คลิปวิดีโอคอลคุยกับนายชูวิทย์ ขอบคุณที่เคียงข้างและช่วยเหลือ และหวังว่าจะได้เจอกันที่ไทย นายชูวิทย์คอมเมนต์ว่า “ด้วยมิตรภาพที่ไร้พรมแดนและภาษากีดกั้น คนไทยเชื่อในตัวคุณ และหวังว่าคุณจะเดินทางมาไทยอีกครั้ง ดีใจที่ได้จบประสบการณ์ร้ายๆของคุณด้วยมิตรภาพของชาวไต้หวันและคนไทย มีความสุขกับชีวิตและเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ”
“ชัยวุฒิ” ดันแก้ ก.ม.บุหรี่ไฟฟ้า
ทางด้านนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยกรณีการขายบุหรี่ไฟฟ้าทางออนไลน์ว่า ต้องร่วมมือกับตำรวจจับกุม และส่งข้อมูลในการขอปิดกั้นได้ดำเนินการมาตลอด ต้องยอมรับว่าบุหรี่ไฟฟ้าหลายประเทศในยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น และเพื่อนบ้านถูกกฎหมาย แต่ไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับ เมื่อฝืนวิถีประชาชนทำให้เกิดการลักลอบใช้ ลักลอบขาย ทําธุรกิจผิดกฎหมาย เกิดส่วย เรียกรับผลประโยชน์ และขายทั่วไปไม่ใช่ออนไลน์อย่างเดียว มันดัดจริตน่าจะเลิกห้ามเพราะเห็นสูบกันทั่ว ต้องทำให้ถูกกฎหมาย เสียที จะผลักดันเรื่องนี้ให้เป็นนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ แก้ปัญหาด้วยการผลักดันให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย ลดผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชน เพราะเชื่อว่าบุหรี่ไฟฟ้าสูบแล้วปลอดภัยกว่าสูบบุหรี่จริง ประเทศที่พัฒนาแล้วเกือบทุกประเทศมีการใช้บุหรี่ไฟฟ้าควรพิจารณาตามความเหมาะสม อนุญาตขายและเก็บภาษีให้ถูกต้อง อย่าฟังเพียงคนบางกลุ่ม