เจ้าหน้าที่ตำรวจ เล่านาทีขนลุก หลังได้ยินเสียงสาวร้องไห้สะอื้น ดังมาจากบ้านร้างข้างป้อมจราจร แต่เมื่อเข้าไปตรวจสอบ กลับไม่พบสิ่งผิดปกติ รีบสวดมนต์ ไหว้พระ
วันที่ 24 พ.ย. 65 หลังมีกระแสข่าว เกี่ยวกับความเฮี้ยนของ บ้านร้างข้างตู้ยามตำบลบ้านเนิน จ.เพชรบูรณ์ ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งกำลังเข้าเวรประจำป้อมยามช่วงกลางดึกที่ผ่านมา แล้วได้ยินเสียงร้องไห้ของผู้หญิง แต่เมื่อไปตรวจสอบ กลับไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ ร.ต.ต.สุรชาติ ชัยเทือง รอง สวป. สภ.หล่มเก่า อายุ 53 ปี เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนทำหน้าที่ประจำตู้ยามทางขึ้นภูทับเบิก ที่อยู่ห่างออกไปราว 6 กิโลเมตร ต่อมาได้มีการขยายถนนเป็นสี่เลน ทำให้ป้อมจราจรที่อยู่ในพื้นที่ของการขยายถนนต้องถูกรื้อทิ้ง จึงได้มาประจำตู้ยามบ้านเนินแห่งนี้ พร้อมเพื่อนตำรวจรวม 4 นาย ประมาณ 3 เดือนแล้ว ซึ่งเป็นที่ประจำสายตรวจของ ต.บ้านเนิน ต.นาเกาะ โดยพื้นที่ติดกับป้อมตำรวจนี้มีบ้านร้าง ที่สร้างได้เพียงโครงสร้างปูน 2 ชั้น ก่อนปล่อยทิ้งร้างนานหลายสิบปี โดยไม่ทราบว่าใครเป็นเจ้าของ
โดยเหตุการณ์ที่ได้ยินเสียงปริศนานั้น เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา ขณะปฏิบัติหน้าที่เฝ้าป้อมตำรวจเพียงลำพัง ตนก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ คร่ำครวญ เบาๆ แบบเหนื่อยๆ และเชื่อว่าต้นเสียงมาจากบ้านร้างหลังดังกล่าว แต่เมื่อไปตรวจสอบ ก็ไม่พบใคร จึงได้เรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยซึ่งอยู่ไม่ไกลมากมาเพื่อช่วยฟังเสียงให้แน่ชัดอีกครั้ง
...
เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาถึงเสียงนั้นก็เงียบหายไป ตนจึงได้บอกให้ไปอยู่ที่ริมถนนฝั่งตรงข้าม ซึ่งกู้ภัยก็ได้ยินเสียงแบบเดียวกับตน ตนจึงให้กู้ภัยกลับ ส่วนตนอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อ เพราะถึงแม้จะไม่สบายใจแค่ไหน ก็ทิ้งป้อมตำรวจ หรือละทิ้งหน้าที่ไม่ได้ จึงได้เข้าไปสวดมนต์ และยึดมั่นในพระเครื่องหลวงพ่อใหญ่ วัดตาล ที่เป็นพระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านเมืองหล่มเก่ามาช้านาน และใช้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจมาตลอด ก่อนจะนอนหลับไป ต่อมาทราบภายหลังว่ากู้ภัยคนดังกล่าวได้นำเหตุการณ์นี้ไปโพสต์ลงเฟซบุ๊กทำให้มีคนสนใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นจำนวนมาก
ขณะที่ชาวบ้านรายหนึ่ง เล่าว่า เคยมีคนผ่านมาพบเห็นเด็กหญิงนั่งอยู่คนเดียวที่ป้อมตำรวจแห่งนี้ขณะไม่ได้ใช้งาน เมื่อชาวบ้านเข้าไปสอบถาม เด็กหญิงก็ไม่ตอบและดูจากหน้าตาแล้ว ก็ไม่ใช่เด็กแถวนี้ เมื่อชาวบ้านออกมา และหันกลับไปดูอีกครั้ง ก็ไม่พบเด็กผู้หญิงคนนั้นแล้ว.