หมอธีระ เผยผลงานวิจัย การติดเชื้อ "โควิด-19" กระตุ้นการอักเสบของเซลล์ในสมองคล้ายโรคสมองเสื่อม และพาร์กินสัน
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ว่า 2 พฤศจิกายน 2565 เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 166,009 คน ตายเพิ่ม 357 คน รวมแล้วติดไป 635,423,773 คน เสียชีวิตรวม 6,593,611 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 9 ใน 10 อันดับแรก และ 17 ใน 20 อันดับแรกของโลก จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 93.47 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 75.27
อัปเดต Long COVID
"การติดเชื้อโควิดกระตุ้นการอักเสบของเซลล์ในสมองคล้ายโรคสมองเสื่อม"
Albornoz EA และทีมงานจากมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย เผยผลการวิจัยในห้องทดลองพบว่า ไวรัสโควิด-19 นั้น หากมีการติดเชื้อในเซลล์สมอง (microglia) ของมนุษย์ จะกระตุ้นให้เกิดกระบวนการอักเสบคล้ายกับที่พบในโรคอัลไซเมอร์ และพาร์กินสัน
ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่คนที่ติดเชื้อและประสบปัญหา Long COVID โดยมีอาการผิดปกติทางสมองหรือระบบประสาท ก็อาจเกิดจากกระบวนการอักเสบที่เกิดขึ้น และอาจส่งผลระยะยาวทำให้เสี่ยงต่อปัญหาสมองเสื่อมได้ อย่างไรก็ตามการทำความเข้าใจกลไกข้างต้น ก็จะนำไปสู่การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับยาที่จะใช้รักษาภาวะดังกล่าวต่อไปในอนาคต
...
"ปัญหา Long COVID จะส่งผลกระทบระยะยาวต่อระบบสุขภาพของแต่ละประเทศ"
Al-Aly E และคณะ จากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เผยแพร่บทความวิชาการย้ำให้เห็นผลกระทบของการระบาดของไวรัสโรคโควิด-19 ในแต่ละประเทศว่าจะส่งผลให้เกิดปัญหาโรคเรื้อรังต่างๆ ตามมา อาทิ ความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคทางสมองและระบบประสาท โรคเบาหวาน รวมถึงโรคไต
โดยมีการยกตัวอย่างผลการวิจัยที่เคยประเมินอัตราการกรองของไตในผู้ที่เคยติดเชื้อโรคโควิด-19 โดยมีอาการเล็กน้อยนั้นพบว่า หลังจากติดเชื้อ 1 ปี พบว่ามีอัตราการกรองของไตลดลงมากกว่าคนที่ไม่เคยติดเชื้อ โดยเทียบเท่ากับการเสื่อมลงตามอายุปกติราว 4 ปี
ด้วยข้อมูลจากการวิจัยทางการแพทย์ต่างๆ ชี้ให้เห็นว่าต้องตระหนักถึงปัญหา Long COVID โดยคนที่ติดเชื้อมาก่อน ก็ควรระมัดระวังตัวไม่ให้ติดเชื้อซ้ำ และหมั่นดูแลตรวจตราสุขภาพของตนเองอย่างสม่ำเสมอด้วย
การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเป็นเรื่องจำเป็น ช่วยลดความเสี่ยงต่อการป่วยรุนแรง เสียชีวิต และลดความเสี่ยงของ Long COVID ด้วย เหนืออื่นใดคือ ประชาชนควรใช้ชีวิตอย่างมีสติ ป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอ ไม่ติดเชื้อย่อมดีที่สุด
การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องระหว่างการใช้ชีวิตประจำวันนอกบ้าน จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก.
ข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat