แม่หนูน้อย ดาวติ๊กต่อก เจ้าของวลี "หนูแทบจะไม่ใช่ลูกแล้ว" อึ้ง เปิดเจอแชต "ด.ญ." ป.1 ส่งภาพของลับให้ลูกชาย แนะผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด
วันที่ 11 ต.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลายเป็นเรื่องที่น่าตกใจพอสมควร เมื่อเฟซบุ๊ก "Parott Martin Sawatmetagul" ซึ่งเป็นแฟนเพจของน้องมาร์ติน ดาวติ๊กต่อก เจ้าของวลี "หนูแทบจะไม่ใช่ลูกแล้ว" โพสต์ภาพข้อความทางเมสเซนเจอร์ พร้อมข้อความระบุว่า "อยากให้คุณพ่อคุณแม่ได้อ่านโพสต์นี้ค่ะ เหตุผลที่ไม่ควรให้เด็กเล่นและมีมือถือส่วนตัวก่อนวัยอันควร
เด็กผู้หญิงคนหนึ่งส่งข้อความมาหาลูกชายเราผ่านแอค official ที่ติดต่องาน ซึ่งลูกเราไม่รู้ชื่อแอคด้วยซ้ำ และไม่ได้คุยอยู่แล้วเพราะเป็นแอคไว้ติดต่องาน + น้องไม่มีมือถือ เพราะยังไม่ถึงวัยที่ต้องใช้
เด็กคนนี้ทักมาสิบกว่าวัน หม่าม้าไม่เคยเปิดอ่านจนวันนี้ขึ้นว่าบัญชีลบไปเลยเข้าไปดู
สิ่งที่เจอคือ เด็กคุยกับ Ai มาประมาณ10วัน และเริ่มส่งรูป Selfie + ข้อความเสียงมา (เป็นเสียงเด็ก) พอเห็นว่าตอบแบบเดิมๆ ก็เริ่มส่งรูป 'ของลับ' มาให้เรื่อยๆ สิ้นสุดวันนี้คือ 6 รูป ... ตอนได้เห็นคือช็อคและมีคำถามในหัวเยอะมาก
1คำถามในนั้นคือเด็กทำตามใคร? และที่สรุปได้จากเรื่องนี้คือ ในฐานะคนเป็นพ่อแม่เราต้องระวังเรื่องการใช้มือถือของลูกให้มากขึ้น เมื่อตัดสินใจให้ลูกมีมือถือแล้ว ควรสอดส่องดูแลและให้ความรู้กับเด็กให้ถูกทางในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัยในการใช้ ข้อจำกัดในการใช้พฤติกรรมในการใช้เพราะผลเสียที่ตามมาไม่ใช่แค่ในด้านการติดมือถือและทำให้พัฒนาการช้า แต่ส่งผลต่อพฤติกรรม และความปลอดภัยของเด็กโดยตรง
ดูแลบุตรหลานของท่านให้ใกล้ชิดเพื่อลดความเสี่ยงที่จะตามมาในสังคมนะคะ จริงๆหม่าม้าคิดอยู่นาน กลัวการโพสต์ออกมาจะเป็นดาบสองคม แต่ก็อยากเตือนทุกๆครอบครัวมากๆเลยค่ะอะไรแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นเลยจริงๆ"
นอกจากนี้ คุณแม่ยังบอกเพิ่มเติมด้วยว่า "และเรื่องแบบนี้เคยเกิดแล้วครั้งนึงในแชทของ FB เพจนี้ แต่รอบนั้น มีแค่การพูดถึงของลับ ยังไม่มีส่งรูป และหม่าม้าได้มีการเตือนทางครอบครัวน้องไปแล้ว เนื่องจาก FB สามารถลิ้งไปหาครอบครัวได้
เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัว มันเข้าใกล้ตัวเรามากขึ้นเรื่อยๆ และไม่ปกติ เพราะสื่อและอีกหลายอย่างใน internet ที่เด็กเข้าถึงไม่ได้ขาวเพียงอย่างเดียว"
ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก อาทิ ทุกวันนี้โลกเรามันไปไกลจนน่ากลัว เทคโนโลยี มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย, ขอบคุณที่แชร์ค่ะ น่าเป็นห่วงมาก, ช็อกค่ะ ขอบคุณความรู้ในการใช้มือถือก่อนวัยอันควรนะคะ ตกใจมากเลย ทำไมสังคมกลายเป็นแบบนี้ ฯลฯ.
...
ที่มาจาก เฟซบุ๊ก Parott Martin Sawatmetagul