เปิดใจ "เจ้าของแมว" แจ้งความเอาผิดร้านตัดขน หลังบังคับใส่ที่ครอบอวกาศจนแมวช็อกตาย เผยตำรวจกำลังเรียกคู่กรณีมาไกล่เกลี่ย ยืนยันไม่ต้องการเงิน ถ้าร้านขอโทษและสำนึกผิดจริง ก็จะยอมรับได้
จากกรณี เจ้าของแมวแจ้งโพสต์เศร้า แจ้งความเอาผิด ร้านตัดขนสัตว์ หลังบังคับใส่ที่ครอบหัว จนแมวหายใจเหนื่อยหอบ สุดท้ายช็อกตาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น (เจ้าของสะเทือนใจ ร้านตัดขนสัตว์ บังคับน้องแมวตัดขน-เล็บ จนสุดท้ายช็อกตาย)
ล่าสุด วันที่ 9 ต.ค. 2565 น.ส.อารยา มุ่งสวัสดิ์ อายุ 28 ปี เจ้าของแมว เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ตอนเวลาบ่าย 3 โมง ตนพาแมวชื่อ น้องกัสจัง อายุ 10 เดือน พันธุ์เปอร์เซีย เพศเมีย ไปตัดขนที่ร้านแห่งหนึ่งย่านรามอินทรา โดยฝากน้องไว้กับที่ร้านแล้วก็ออกไปทำธุระ
จากนั้น 6 โมงเย็น กลับเข้าไปรับแมว เห็นน้องอยู่ในสภาพนอนหายใจหอบ แต่ทางร้านก็ยังตัดขนอยู่ ตนเลยถามไปว่า "น้องมีอาการแบบนี้ จะเป็นอะไรหรือไม่" ร้านตอบเพียงว่า "เป็นอาการปกติของแมวที่หอบ" พอสักพักเห็นอาการน้องเริ่มไม่ดี จึงบอกให้ทางร้านหยุดตัดขน และรีบพาน้องแมวไปโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ๆ
...
พอไปถึงโรงพยาบาล หมอรีบช่วยปั๊มหัวใจน้องแมว และเดินออกมาบอกว่า "น้องไม่ไหวแล้วนะ มีอาการฮีตสโตรก ร่างกายอุณหภูมิสูง จนปอดแข็งแล้ว" หลังจากนั้นน้องก็ตาย รู้สึกทำใจไม่ได้ ได้แต่โทษตัวเอง ถ้าไม่เอาน้องไปตัดขน น้องคงไม่ตาย
หลังจากนั้น ตอน 4 ทุ่ม ตนกับแฟนเข้าไปที่ร้านตัดขน และได้โทรหาเจ้าของร้าน เพื่อถามว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แต่ทางร้านบอกเพียงว่า "ถ้าเป็นแบบนี้ ก็ไม่คุยแล้ว ไปฟ้องเอา" พอฟังแบบนี้จึงเกิดความโมโห ปาไม้ไปที่หน้าร้าน แต่ไม่ได้โดน หรือทำอะไรเสียหาย ซึ่งเช้าวันถัดมา ทางร้านก็พยายามติดต่อมาขอโทษ แต่ตนยังทำใจไม่ได้ จึงไม่ได้พูดคุย
ทั้งนี้ สำหรับเหตุผลที่ร้านอ้างว่า ตนไม่ได้แจ้งไว้ว่าแมวมีอาการช็อกง่าย ในส่วนนี้ตนมองว่า แมวจะช็อกหรือไม่ช็อก ทางร้านควรจะรู้หรือไม่ แต่เหตุการณ์นี้ทำไมร้านถึงยังตัดขนอยู่ ไม่รีบพาไปส่งโรงพยาบาล ทั้งๆ ที่น้องเกิดอาการหอบ และคิดว่าการที่แมวต้องใส่ที่ครอบอวกาศ เป็นทรงกลมครอบหัว มีรูระบายอากาศ 3-4 รู ที่ทางร้านบอกว่า ใส่เพราะป้องกันแมวกัด อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้น้องแมวช็อก
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นไปแจ้งความไว้แล้วที่ สน.บางชัน ทางตำรวจจะนัดคู่กรณีมาไกล่เกลี่ยอีกครั้ง ถ้าร้านขอโทษแล้วสำนึกผิดจริงๆ ตนถึงจะยอมรับ แต่ถ้าไม่สำนึกผิดจริงๆ ไม่ต้องมาขอโทษ และยืนยันว่าไม่ได้อยากได้เงิน.