สุดสะเทือนใจ เจ้าของพา "น้องแมว" ไปตัดขน แต่ร้านบังคับใส่ที่ครอบหัว-มัดตัวเพื่อตัดเล็บ จนแมวเกิดสภาวะช็อกแล้วตาย ขณะที่ร้านบอกอยากให้รับผิดชอบก็ฟ้องเอา ล่าสุดเจ้าของแมวเข้าแจ้งความแล้ว

วันที่ 9 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Arraya Mungsawat ได้โพสต์เล่าเรื่องราวสุดสะเทือนใจ ขณะพาน้องแมวไปตัดขน โดยระบุข้อความว่า ความตั้งใจที่จะพาลูกไปตัดขน แต่ไม่คิดว่าจะเหมือนพาลูกไปตาย

ร้านตัดขนสัตว์แห่งหนึ่ง ตัดเล็บน้องแมวเข้าเนื้อทุกเล็บ เลือดออกทุกนิ้ว ถ่ายคลิปไว้ว่าน้องดุมาก บอกปล่อยให้น้องโวยวายจนเหนื่อย ถ้าตัดไม่ได้ก็ควรโทรแจ้งเจ้าของว่าไม่สามารถตัดได้ จะได้กลับไปรับน้องกลับ แต่นี้จนลูกเราช็อก เราไปถึงร้านบ่าย 3 ไปรับน้องประมาณ 6 โมงเย็น ช่างยังตัดไม่เสร็จ เห็นลูกอาการไม่ดี ถามช่างบอกน้องเหนื่อยปกติของแมวที่ตัดขนยังไม่ชิน น้องเหนื่อยจากการดิ้นมาก ไม่นานตัดสินใจเอาน้องออกมาแล้วรีบพาไปหาหมอ หมอรีบช่วยบอกน้องเข้าขั้นวิกฤติแล้ว ความร้อนทุกปรอท ตัวร้อนมากถึงมากที่สุด ซึ่งหมอบอกเราว่าน้องไม่ไหวแล้ว ปอดแข็ง ลิ้นช้ำแดง ปั๊มหัวใจอยู่สักพักแล้วจากเราไป จากนั้นอุตสาห์โทรเข้าไปคุยด้วยดีๆ ร้านบอกไม่รับผิดชอบให้ไปฟ้องเอา

จากนั้น เจ้าของโพสต์ยังได้เผยข้อความอีกว่า "ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงและเป็นกำลังใจมากๆ ยืนยันว่าจะดำเนินการให้ถึงที่สุด ไม่ได้ต้องเงินแต่แค่อยากเห็นความรู้สึกรับผิดชอบของเขา มันเทียบไม่ได้กับหนึ่งชีวิตที่จากไป ถึงจะเป็นแมวก็คือลูกเรา ปกติจะอาบน้ำ เล็มขนเอง ตัดเอง ที่ตัดสินใจไปร้านเพื่ออยากให้ลูกดูดีขึ้น แต่ดันซวยไปเจอคนแบบนี้"

...

ต่อมา เจ้าของโพสต์ ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือกับทาง มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ ระบุว่า ร้านอาบน้ำตัดขนบังคับใส่ที่ครอบหัวแมว และบังคับตัดเล็บ จนแมวเกิดสภาวะช็อกทำให้เสียชีวิต WDT รับเรื่องร้องเรียนจากเจ้าของแมว กัสจัง อายุสิบเดือน เหตุพาน้องไปอาบน้ำตัดขนและตัดเล็บ พบว่า ร้านมีการบังคับใส่ที่ครอบหัว แบบเจาะรู ทำให้มีอากาศหายใจได้น้อย ทั้งยังมัดตัว บังคับตัดเล็บ จนกัสจังอยู่ในสภาวะช็อก นอนนิ่ง น้ำลายฟูมปาก เจ้าของไปรอรับน้องพบเห็นเหตุการณ์ รีบให้ยุติการบังคับน้องแมว แล้วรีบพาน้องไปหาหมอ แต่ไม่ทันการณ์กัสจังเสียชีวิตจากสภาวะช็อกไปแล้ว เจ้าของพยายามขอพูดคุยกับเจ้าของร้านอาบน้ำตัดขน ถามหาความรับผิดชอบ แต่พอดีเป็นยามวิกาล และมีการกระทำที่รุนแรงด้วยอารมณ์ ทางร้านจึงปฏิเสธ แจ้งว่าถ้ามาแบบนี้ก็ให้ไปฟ้องเอา

ทั้งนี้ เจ้าของจึงเข้าแจ้งความที่ สน.บางชัน พร้อมร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้ดำเนินคดีข้อหาทารุณกรรมสัตว์ และทำให้เสียทรัพย์อาญา เป็นบทเรียนของร้านอาบน้ำตัดขน ถ้าแมวอยู่ในสภาวะหยุดชะงักนิ่ง และมีน้ำลายฟูมปาก แสดงว่าแมวไม่อยู่ในสภาพพร้อมที่จะให้บังคับอาบน้ำตัดขนหรือตัดเล็บ ขอให้หยุดการกระทำทุกกรณี แล้วแจ้งเจ้าของว่าไม่สามารถทำต่อไปได้ ก่อนที่แมวจะช็อก และเป็นเหตุให้ถึงแก่ชีวิต เพราะแมวเป็นสัตว์ที่ตกใจและช็อกง่ายมาก

อย่างไรก็ตาม การฝืนบังคับใส่ที่ครอบหัวแมวแบบนี้ มีสัตวแพทย์ออกมาเตือนแล้วว่า อันตรายมาก รวมถึงการมัดตัวไว้ เพื่อบังคับตัดขนตัดเล็บ ทั้งๆ ที่แมวไม่พร้อมแบบนี้ ก็ถือเป็นการทารุณกรรมอย่างหนึ่งด้วย เพราะความหมายตามกฎหมายของ "ทารุณกรรม" ให้หมายถึง การทำให้สัตว์ได้รับความทุกข์ทรมาน ทั้งทางร่างกายและจิตใจด้วย.

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Arraya Mungsawat, แฟนเพจ มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation - WDT