"กรมอนามัย" แนะนำ 4 ประเภทอาหาร เพื่อเป็นทางเลือกช่วยเลิก "บุหรี่" ได้สำเร็จ พร้อมชี้ควรเลี่ยงอาหารบางชนิด เนื่องจากเป็นตัวกระตุ้นความอยากบุหรี่
วันที่ 29 พ.ค. 2565 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า บุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สําคัญของโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองตีบ โรคถุงลมโป่งพอง และเป็นสาเหตุสําคัญของโรคมะเร็งปอด ผู้ที่อยากเลิกบุหรี่ จึงต้องเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม อาจใช้การบำบัดทางการแพทย์ร่วมกับการเลือกกินอาหารที่มีส่วนช่วยให้การเลิกบุหรี่ประสบความสำเร็จได้ มี 4 ประเภท ดังนี้
1. ผักและผลไม้ อุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชดเชยปริมาณวิตามินซีที่สูญเสียไปในช่วงเวลาที่สูบบุหรี่ และช่วยฟื้นฟูระบบอวัยวะภายในให้กลับมาแข็งแรง โดยเฉพาะมะนาว มีผลต่อการทำงานของต่อมรับรสขม ทำให้รสของบุหรี่เปลี่ยนไป
สำหรับวิธีการกินให้ตัดมะนาวทั้งเปลือกเป็นชิ้นเล็ก เมื่อรู้สึกอยากบุหรี่ให้กินมะนาว โดยค่อยๆ เคี้ยวให้ลิ้นรับความรู้สึกขมและเฝื่อนของเปลือกมะนาวอย่างช้าๆ จะช่วยให้อยากบุหรี่น้อยลง ถัดมาคือ มะขามป้อม เนื่องจากปริมาณของวิตามินซีและแทนนินสูง ผลมะขามป้อม จะมีรสเปรี้ยว ฝาด จึงมีฤทธิ์ทำให้รสของบุหรี่เปลี่ยนไป และรู้สึกไม่อยากบุหรี่เช่นกัน สำหรับวิธีกินให้เคี้ยวผลสด คั้นน้ำดื่ม หรือใช้ผลแห้งชงเป็นชาดื่มก็ได้
2. ชาโสม สามารถบำบัดการติดนิโคตินได้ เพราะทำให้การหลั่งโดพามีน ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุขลดลง การดื่มชาโสม มีส่วนช่วยลดความพึงพอใจของการสูบบุหรี่ ทำให้รู้สึกเพลิดเพลินน้อยลง
3. นมและผลิตภัณฑ์นม มีการศึกษาที่ตีพิมพ์ในปี 2550 ในวารสาร Nicotine & Tobacco Research พบว่า การบริโภคนมและผลิตภัณฑ์จากนม ทำให้บุหรี่มีรสขม หรือมีรสชาติแย่ลง ช่วยยับยั้งการสูบบุหรี่ได้
...
4. หมากฝรั่งไม่มีน้ำตาล (sugar free) และลูกอม ที่ใช้ในการเลิกบุหรี่จะมีสารนิโคตินผสมอยู่ โดยใช้เวลาในการเคี้ยวหรืออม เม็ดละ 30 นาที เพื่อให้นิโคตินละลายออกมาช้าๆ ช่วยระงับอาการขาดนิโคติน และระงับความอยากบุหรี่ได้
ทั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มบางชนิด เช่น แอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เนื้อสัตว์ และอาหารที่มีน้ำตาลหรือมีรสจัด เพราะอาจช่วยเพิ่มรสชาติของบุหรี่ และกระตุ้นให้เกิดความอยากสูบบุหรี่ ดังนั้น เมื่อสามารถลดหรือเลิกบุหรี่ได้ จะทำให้สุขภาพปอดดีขึ้น ต่อมรับรสที่ลิ้นทำงานดีขึ้นกินอาหารอร่อย หายใจหอมสดชื่น ลดความเสี่ยงโรคต่างๆ และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้อีกด้วย.