บริษัทขนย้ายและทำความสะอาดห้องของ "สาวติดเตียง" ที่ "พิมรี่พาย" เข้ามาช่วยเหลือ ยันคัดทิ้งเฉพาะของเน่าเสีย ลั่นของถึงเอาไปก็ใช้อะไรไม่ได้ ขู่หากอีกฝ่ายไม่หยุดจะรวบรวมหลักฐานดำเนินคดี

จากกรณี "สาวติดเตียง" ที่ "พิมรี่พาย" เคยเข้าช่วยเหลือ ได้อ้างว่า ทีมงานได้ขนของในห้องออกไปและไม่ยอมคืนให้ รวมทั้งตอนนี้ตัวเองก็ยังเดินไม่ได้ตามที่หลายคนเข้าใจ

ซึ่งต่อมา พิมรี่พาย ได้ชี้แจงว่า ระหว่างการเคลียร์ห้องมีแม่ของผู้ป่วยอยู่ด้วย เพื่อบอกว่า สิ่งใดทิ้งได้ สิ่งใดทิ้งไม่ได้ และได้เช่าห้องเพื่อเก็บสิ่งของต่างหาก พร้อมกับโชว์หลักฐานจากหมอกายภาพว่า ผู้ป่วยบ่ายเบี่ยงการรักษา พร้อมกับยืนยันว่า ตนเองไม่เคยเอาเคสนี้ไปขอรับบริจาค

โดยล่าสุด ทางบริษัทที่เข้ามาขนย้ายและทำความสะอาดในห้องของสาวติดเตียง ได้โพสต์ข้อความว่า ในเคสนี้มีการกล่าวพาดพิงถึงบริษัทและทีมงานที่รับทำความสะอาด ว่าเป็นผู้ทำให้เกิดความเสียหาย และมีการนำของไป จะด้วยหมายความถึงการเอาไปทิ้งหรือจะเป็นการนำกลับมาใช้เองก็ดี

จึงขออนุญาตชี้แจงผ่านช่องทางนี้ ถึงกรณีปัญหาเคสการทำงานดังกล่าวที่เกิดขึ้นในนามผู้บริหารบริษัทและทีมงาน ปกติไม่เคยคิดบูลลี่ ลูกค้า คนป่วย คนพิการ แต่เคสนี้ขอยืมคำพูดพิมรี่มาหน่อยว่า "ของถึงเอาไปก็ใช้อะไรไม่ได้ครับ"

ซึ่งในการทำงานวันนั้นทีมงานเราได้รับมอบหมายให้คัดสรรแยกของใช้ที่ยังอยู่ในสภาพใช้งานได้ กับพวกซากของใช้ ซากอาหารที่เน่าเสียให้แยกเคลียร์นำไปทิ้ง ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเป็นเสื้อผ้าของใช้ที่อยู่ในสภาพพอใช้งานได้ทางทีมงานเราไม่มีความจำเป็นต้องนำออกไปทิ้งแต่อย่างใด จะทำการเก็บส่วนหนึ่งเข้าตู้และส่วนหนึ่งเก็บพับใส่ถุงไว้ให้ ซึ่งสิ่งที่ทีมงานคัดแยก และจะนำออกไปทิ้งส่วนใหญ่จะเป็นขยะเปียกของบูดเน่า หรือถ้ามีส่วนของเสื้อผ้า จะเป็นชุดที่อยู่ในสภาพไม่สามารถใช้งานต่อไปได้ ซึ่งเป็นส่วนน้อยมาก

...

แต่กระนั้นทุกขั้นตอนก็จะมีคุณแม่ของทางเจ้าของห้องเป็นผู้ประกบคอยรื้อออกมาอีกครั้ง จนไม่สามารถเอาอะไรลงไปทิ้งได้เลย เนื่องจากของทุกชิ้นรวมถึงขยะที่เราจะขนไปทิ้ง จะถูกคุณแม่ตามเบรกและให้ยกกลับมาไว้ที่เดิม ทำให้การทำงานในวันนั้นเป็นไปด้วยความล่าช้าและยากลำบาก

ทางเราและทีมงานจึงประสานถึงคุณพิมรี่พาย ซึ่งสามารถตัดสินใจได้อย่างชัดเจนว่าให้ตามใจคุณแม่ โดยจะเปิดห้องข้างๆ ให้นำของไปเก็บไว้แทน และจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้เองตามที่คุณพิมรี่พาย ชี้แจงในคลิป

ซึ่งหากยังไม่หยุดการกล่าวอ้างและออกมายอมรับชี้แจง ถึงกรณีพาดพิงว่าทีมงานที่ทำความสะอาดวันนั้นเป็นผู้นำของใช้ไป จนเป็นเหตุให้ต้องเรียกร้องค่าความเสียหายกับทางคุณพิมรี่พาย ทางเราจะรวบรวมหลักฐานที่มีและทำการดำเนินคดี ในส่วนที่เป็นการหมิ่นประมาทพาดพิงทำให้บริษัทเราเสียชื่อเสียง ในกระบวนการต่อไป.