กระแสข้าวเหนียวมะม่วงฟีเวอร์ ทำเอามิจฉาชีพอินเทรนด์คิดมุกใหม่ แอบอ้างเป็น "มิลลิ" นักร้องดัง ทักขอบัตรเติมเงิน แลกข้าวเหนียวมะม่วงเจ้าเด็ด

จากกรณีแร็ปเปอร์สาว “มิลลิ ดนุภา คณาธีรกุล” หรือ MILLI กินข้าวเหนียวมะม่วง พร้อมทั้งขึ้นโชว์ในงานเทศกาลดนตรีระดับโลก Coachella 2022 จนปลุกกระแสข้าวเหนียวมะม่วงฟีเวอร์ สร้างซอฟต์พาวเวอร์ ทำให้เมนูข้าวเหนียวมะม่วงขายดีอย่างต่อเนื่อง

ทำให้หลายๆ คนต่างก็เกาะกระแสไปกับมิลลิ และเมนูข้าวเหนียวมะม่วงตามไปด้วย รวมไปถึงมิจฉาชีพบางกลุ่ม ก็ได้ใช้ช่วงเวลานี้แอบฉวยโอกาส แอบอ้างตัวเป็นมิลลิ มาหลอกลวงประชาชน

โดยในโลกออนไลน์ ได้แชร์ข้อความความของมิจฉาชีพ ที่ตั้งชื่อและโปรไฟล์ในเฟซบุ๊ก แอบอ้างเป็นมิลลิ ทักแชตไปหาผู้คน และหลอกขอยืมเงิน โดยระบุข้อความว่า "สวัสดีค่า มิลลิเองน้า หนูมีปัญหาด้านการเงิน เพราะหนูยังค้างค่าทำเพลงไว้ แต่หนูมีข้อเสนอให้คุณ แค่ส่งบัตรทรูมาให้หนู 300 บาท หนูจะส่งข้าวเหนียวมะม่วงเจ้าเด็ดที่เอาไปกินบนเวที Coachella ให้ 1 ชุด"

หลังภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ได้มีชาวเน็ตเข้ามากดถูกใจ และแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ต่างก็ขำกับพฤติกรรม และความพยายามของมิจฉาชีพ แม้หลายคนจะทราบว่า เป็นเรื่องที่ดูไม่น่าเชื่อ แต่อย่างไรก็ตามทาง PCT Police ก็ได้มาโพสต์เกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าว เพื่อเตือนประชาชนระวังตัว และไม่ให้ถูกหลอกได้

ด้าน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ ศูนย์ PCT กล่าวว่า ขอเตือนสติแฟนคลับ และผู้สนับสนุนชื่นชมแร็ปเปอร์สาวคนดัง อย่าหลงเชื่อ ผู้ที่อ้างบุคคลมีชื่อเสียง หน่วยงานราชการ หรือธนาคาร จะไม่มีวันทักแชตไลน์หรือเฟซบุ๊กเด็ดขาด และห้ามเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลทางสื่อสังคมออนไลน์ ขอให้ตั้งสติ รวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุด นำข้อมูลไปปรึกษาตำรวจ

...

โดยเมื่อวานนี้ ก็มีกรณี น.ส.กิ๊บ (ขอสงวนชื่อสกุลจริง) อายุ 17 ปี นักศึกษา ปวช.วิทยาลัยอาชีวศึกษาแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.นางรอง หลังถูกแก๊งมิจฉาชีพทั้งโทรศัพท์ และส่งข้อความทางไลน์มาข่มขู่ กล่าวหาว่าขับรถฝ่าแดง และหนีด่านที่ สภ.เมืองชลบุรี ทั้งที่เจ้าตัวไม่เคยเดินทางไป จ.ชลบุรี อีกทั้งยังหลอกว่า มีชื่อพัวพันกับคดีฟอกเงิน ต้องส่งเอกสารส่วนตัวและบัญชีธนาคารที่มีอยู่ทั้งหมดให้ตรวจสอบ ไม่งั้นจะมีความผิดตามกฎหมาย

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ขอให้ทุกท่านมีสติ คิดให้รอบคอบ รวมถึงการซื้อสิ้นค้าทางออนไลน์ หรือเข้าไปกดแชร์ กดไลค์ ขอให้ตรวจสอบให้ชัดเจน ก่อนจะดำเนินการอะไรก็ตาม ต้องหาข้อมูลก่อนทุกครั้ง อย่าเชื่ออะไรเด็ดขาด เพราะอาชญากรรมไซเบอร์มีรูปแบบก่อเหตุหลายรูปแบบ เพื่อหลอกเหยื่อ

ดังนั้น ถ้าเกิดขึ้นให้รีบโทรศัพท์ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือศูนย์แจ้งความออนไลน์ที่เว็บไซต์ thaipoliceonline.com หรือติดต่อศูนย์ PCT 081-8663000 หรือ สายด่วน บช.สอท.1441 ตลอด 24 ชั่วโมง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แต่งตั้งคณะทำงานเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มี พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าคณะ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน ตลอดจนสถาบันการศึกษาโดยคณะทำงานจะเข้าไปบรรยายให้ความรู้เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับนักเรียน นักศึกษา ที่เป็นเยาวชน เพื่อช่วยในการขับเคลื่อนการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ขอฝากประชาชนอย่าไปหลงเชื่อใครง่ายๆ อย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลทางสื่อสังคมออนไลน์ ขอให้ตั้งสติ รวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุด