ชมรมแพทย์ชนบท อ้าง "ฟาวิพิราเวียร์" ขาดแคลนหนักทั่วประเทศ จี้ สธ. ออกมายอมรับความจริง สวนทางกับ "อนุทิน" โต้ มีเพียงพอ ไม่มีการสต๊อกไว้แน่นอน
วันที่ 28 มี.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กเพจ "ชมรมแพทย์ชนบท" ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ ยาฟาวิพิราเวียร์ โดยอ้างว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ ขาดแคลนหนักทั้งประเทศ พร้อมระบุว่า
ฟาวิพิราเวียร์ที่ขาดหนัก ยังไม่เท่าความอึมครึมของข่าวสาร
“ทำไมหมอไม่ให้ยาฟาวิ ยายผม 60 ปีแล้ว มีเบาหวานด้วย”
“ช่วงนี้ยาฟาวิมีน้อยมาก หมอขอสงวนไว้สำหรับคนที่หนักจริงๆนะ”
“โรงพยาบาลห่วยๆ ยาฟาวิก็ยังไม่มี ”
“มันไม่มียาจริงๆ กินฟ้าทะลายโจรไปก่อน ได้ผลเหมือนกัน หากไม่ดีขึ้นมาโรงพยาบาลได้ตลอด”
“ถ้ายายผมพี่ผมเป็นอะไรไป หมอต้องรับผิดชอบ”
นี่คือสถานการณ์จริงหน้างาน สืบเนื่องจากความคาดหวังของผู้ป่วยและญาติกับฟาวิพิราเวียร์ที่ขาดแคลนหนัก
สถานการณ์ฟาวิพิราเวียร์ที่ขาดหนักทั้งประเทศ ยังไม่ดีขึ้นนับตั้งแต่ที่ชมรมแพทย์ชนบทออกมาบ่นดังๆ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 และผู้ใหญ่ผู้โตพูดออกสื่อว่า “ไม่จริง ยามีเพียงพอ” แต่ความจริงถ้าลองถามโรงพยาบาลต่างๆ ดู จะพบมาช่วงเดือนสองเดือนนี้ ฟาวิมีใช้อย่างจำกัดจำเขี่ย แม้จ่ายยาตามแนวปฏิบัติของกรมการแพทย์ที่ใช้จ่ายเฉพาะคนอายุ 60 ปีขึ้นไปก็ยังไม่พออย่างยิ่ง ขาดหนักจนบางพื้นที่ให้เฉพาะคนที่มีภาวะปอดบวมเท่านั้น
ฟาวิพิราเวียร์เป็นยาต้านไวรัส ลดการแบ่งตัวของไวรัส งานวิจัยของศิริราชชัดเจนว่า การทานฟาวิเร็วภายใน 2 วันแรกของการเจ็บป่วย จะช่วยให้โอกาสที่อาการจะหนักลดลง ดังนั้นยาฟาวิหากจะให้ได้ผลดี ต้องทานให้เร็ว การมียาเพียงพอจึงจำเป็น
ฟาวิฯ พอไม่พอ ขอให้ สธ.แถลงแบบลงรายละเอียดว่า เหตุที่ฟาวิจึงขาดหนัก การนำเข้าเคมีภัณฑ์สะดุดหรือ องค์การเภสัชผลิตปั๊มเม็ดยาได้สัปดาห์ละกี่เม็ด คงที่ไหม ราคาผลิตเองเม็ดละเท่าไหร่ ข่าวที่ว่าองค์การเภสัชจะเลิกผลิตโดยจะนำเข้าอย่างเดียวจริงไหม ทำไม ขณะนี้นำเข้ามาสัปดาห์ละกี่เม็ด ราคาเม็ดละเท่าไหร่ รวมๆ แล้วแต่ละสัปดาห์จะมีฟาวิให้กระจายได้กี่เม็ด จะกระจายอย่างไร เป็นต้น
การขาดแคลนฟาวิพินาเวียร์เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ แต่สิ่งที่ไม่เข้าใจก็คือ ทำไมกระทรวงสาธารณสุขไม่ออกมาบอกความจริงกับสังคมและโรงพยาบาลต่างๆ และร่วมวางแผนกันให้เปิดเผย สิ่งที่ทุกโรงพยาบาลอยากรู้คือ จะได้รับจัดสรรครั้งละประมาณกี่เม็ดและหลังรับจัดสรรแล้วอีกกี่วันจึงจะได้มาอีก จะได้บริหารยาให้เหมาะสมกับจำนวนยาที่มี
ความยากของแพทย์และบุคลากรสุขภาพในปัจจุบันคือ ไม่รู้เลยว่ายาฟาวิที่เหลืออยู่ในมือสมมุติว่า มีเหลือ 2000 เม็ด ซึ่งใช้ได้ 40 คน อีกกี่วันจึงจะได้มาเติม จะได้บริหารยาให้ดีที่สุดในท่ามกลางความขาดแคลน
ส่วนยาโมลนูพิราเวียร์นั้นแม้จะนำเข้ามาแล้ว แต่มีจำนวนน้อย ราคาแพงกว่าฟาวิฯ มาก การจะขอใช้ยายุ่งยาก จึงไม่อาจนำมาทดแทนฟาวิฯ ได้
การยอมรับความจริงและร่วมวางแผนรับสถานการณ์ที่ขาดแคลนอย่างเปิดอกของ สธ. น่าจะดีกว่าการปล่อยให้อึมครึมปล่อยให้พื้นที่ไถๆ เอาตามมีตามเกิดแบบนี้นะครับ ไถมาร่วมเดือนเดือน ชักจะไถไม่ไหวแล้ว คนไข้ไม่เข้าใจ ก็ทะเลาะกับแพทย์พยาบาลทุกวัน
รอบนี้อย่าบอกนะว่า “ยาฟาวิมีเพียงพอ” ปัญหามีไว้แก้ ขอแค่บอกความจริงกับสังคม แล้วแก้ปัญหาไปด้วยกัน
ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก หลายคนมองว่า นโยบายเปลี่ยนรายวัน จนตามสถานการณ์ไม่ทัน บางคนอ้างว่า รพ.สต. จะจ่ายยาฟาวิฯ ให้เฉพาะคนที่มีอาการเชื้อลงปอดเท่านั้น ส่วนคนที่ไม่มีอาการ จะได้รับเพียงยาตามอาการเท่านั้น ฯลฯ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ กรณีชมรมแพทย์ชนบทระบุยาฟาวิพิราเวียร์ในต่างจังหวัดขาดแคลนว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ ทางองค์การเภสัชกรรม (อภ.) มีสารตั้งต้นในการผลิตได้เองในประเทศ พร้อมกับมีการนำเข้ามาจากต่างประเทศด้วย ซึ่ง นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ.รายงานว่า สามารถบริหารจัดการเรื่องยาได้อย่างดี
ขณะเดียวกัน อภ. ก็ได้จัดหายาโมลนูพิราเวียร์จากแหล่งผลิตอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย รวมถึงกรมการแพทย์ก็ได้จัดหายาอื่นๆ ทั้งยาเรมเดซิเวียร์ ยาโมลนูพิราเวียร์ และยาแพกซ์โลวิด ยืนยันว่ามีการกระจายยาฟาวิพิราเวียร์ทั่วถึง เราไม่มีทางเก็บยาไว้ในสต๊อกโดยที่ยังมีความต้องการใช้ โดยตรรกะเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ส่วนกลางจะส่งยาไปที่จังหวัด การบริหารจัดการจะอยู่ในระดับจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เป็นเรื่องของการประสานงานระดับพื้นที่
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับผู้ติดเชื้อขณะนี้ข้อมูลการรักษาตามอาการ พบว่า ในจำนวนผู้ติดเชื้อ 50% ไม่มีอาการ ไม่จำเป็นต้องใช้ยารักษา อีก 25% มีอาการบ้าง ก็ใช้ยารักษาตามอาการ เช่น ลดน้ำมูก แก้ไอ และอีก 25% ใช้ยาต้านไวรัส เช่น ยาฟาวิพิราเวียร์ ยืนยันยามีเพียงพอ รพ.ทั่วประเทศมีกว่าพันแห่ง บางแห่งอาจสำรองยาไว้น้อย ถ้าขาดก็สามารถแจ้งที่ สสจ. เพื่อนำยาจากคลังสำรองในจังหวัดไปให้ได้ ตรงนี้ไม่มีปัญหา ภาพรวมประเทศไม่ขาดแน่นอน.
...