ดีเจ หุ้นส่วนร้านโอมากาเสะ ดราม่า "แจ็ก แปปโฮ" แถลงขอโทษ ยันไม่คิดดูถูกลูกค้า รับน้อยใจ พิมพ์ไปไม่ทันคิด ที่ปิดเฟซหนี เพราะภรรยากำลังท้อง ไม่อยากให้มีผลกระทบ
วันที่ 4 ก.พ. ที่ ร้านมาเนกุ โอมากาเสะ ถ.พัฒนาการ ซอย 20 กทม. ดร.ปัณณวิชญ์ โชติเตชธรรม หรือ หมอเจล และ นายกฤษกร ภูมินัตน์ หรือ ดีเจกฤษ ผู้บริหารร้าน ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ภายหลังจากมีคลิป แจ็ก แปปโฮ ยูทูบเบอร์ ขึ้นไปเดินเหยียบบนโต๊ะโอมากาเสะ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์หนัก ขณะที่ทางร้านออกมาขอโทษพร้อมเปลี่ยนโต๊ะ แต่พบว่ามีการระบุว่ามีหุ้นส่วนของร้าน ออกมาโพสต์โต้ตอบทำนองว่า คนที่เข้ามาติไม่มีเงินมากิน ทำให้เกิดกระแสดราม่าหนักขึ้นไปอีก
นายกฤษกร กล่าวว่า เหตุการณ์ในเกิดเหตุ ลูกค้าจะเหมาปิดร้านปูพรมแดง จัดการเปิดตัวซิงเกิลใหม่ของ หมอสุนิล ดร.สุนิล พล มหาเศรษฐีพันล้าน ทันตแพทย์นักปาร์ตี้ ซึ่งจะมีเซอร์ไพรส์จากยูทูบเบอร์ มาเป็นเชฟ ปั้นอาหารได้ด้วย โดยภายในงาน คุณหมอขอกับทางร้านว่า ขอให้ยูทูบเบอร์มีส่วนร่วมกับเซฟด้วย ระหว่างงานก็มีขึ้นโต๊ะ ตามที่เห็นในคลิป เหตุการณ์นั้น เชฟก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ด้านคุณแจ็ก แปปโฮ ก็ได้ฝากขอโทษทางร้านมา ทุกคนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ส่วนที่เจอดราม่าถล่ม จนต้องปิดเฟซบุ๊กหนี เพราะไปตอบกลับคอมเมนต์ของรุ่นพี่ที่สนิท ว่า "คนติไม่มีเงินมากินครับ ได้กดคีย์บอร์ดอยู่ที่บ้าน" ทำให้หลายคนมองว่า เหยียดลูกค้านั้น ตนต้องขอโทษที่พิมพ์ถ้อยคำไม่เหมาะสม ในสถานการณ์นั้น เราโต้ตอบกับเพื่อนรุ่นพี่ที่สนิทกันเท่านั้น ตนขอโทษจริง ไม่ตั้งใจจะดูถูกใคร แต่บางทีมีอารมณ์น้อยใจ จึงพิมพ์อะไรไปโดยที่ไม่ทันได้คิดก่อน ทำให้มีผลกระทบหลายอย่างมาก จนต้องปิดเฟซ เพราะภรรยาตั้งท้องอยู่ จึงไม่อยากให้มีผลกระทบต่อครอบครัว
...
"ที่ผ่านมา เวลาเราอบรมพนักงานที่ร้าน จะบอกเสมอว่าเราไม่ได้เป็นคนให้เงินเดือนทุกคน แต่ลูกค้าทุกคนที่ให้เงินเดือนเรา เพราะฉะนั้นลูกค้าคือคนที่สำคัญสำหรับเรา ถ้าไม่มีเขา เราก็อยู่ไม่ได้ นี่คือสิ่งที่เราปลูกฝังพนักงานเสมอ แต่ก่อนตนโตมาเป็นเสาหลักของครอบครัว ไม่ได้มีเงิน เรื่องการดูถูกคนผมไม่เคยทำ และไม่คิดที่จะทำ สิ่งใดที่ผิดพลาด ผมขอโทษ"
ด้าน ดร.ปัณณวิชญ์ กล่าวว่า ตนต้องขอโทษทุกท่านสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนี้ ทางร้านจะรีบดำเนินการจะแก้ไขปรับปรุงร้านอย่างด่วนที่สุด โดยเปลี่ยนโต๊ะใหม่และใช้แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อทั้งหมด เรื่องนี้เราไม่ได้โทษใคร ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนเราจึงขอออกมาเป็นตัวแทนของแต่ละคนขอโทษและรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น
ส่วนเรื่องที่ออกมาชี้แจงช้า เนื่องจากว่าเราทำหลายธุรกิจมาก จึงต้องปรึกษาหารือกันก่อน ต่อไปเราจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก โดยถ้าหากหลังจากนี้ ลูกค้าจะไม่กล้ามาทานหรือความเชื่อมั่นของลูกค้าที่จะมาทานร้านเรา ซึ่งอันนี้เป็นสิทธิ์ของทางลูกค้าเรากับการที่เขาจะเข้ามาคอมเมนต์หรือติชม.