คนในโลกโซเชียลช่วยกันแชร์ เพื่อบริจาคเลือดให้เด็ก 10 ขวบ โดนงูกะปะกัด ต้องผ่าตัดนิ้วมือ ระบายเลือดเร่งด่วน
จากกรณีในโซเชียลมีการแชร์ข้อความขอความช่วยเหลือ บริจาคเกล็ดเลือด กรุ๊บ AB เพื่อ ด.ญ.กัญพัชญ์ อนุมาลย์ ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เนื่องจากโดนงูกะปะกัด และต้องเข้ารับการผ่าตัด ระบายแรงดันบริเวณมือ เพื่อให้เลือดไปเลี้ยงนิ้วมือได้ เบื้องต้นเกิดการแข็งตัวของเลือด ทำให้คาดว่าในการผ่าตัดเด็กอาจจะเสียเลือดมาก
ล่าสุด วันที่ 13 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ นางจิราพร ขาวนวล อายุ 44 ปี แม่ของ ด.ญ.กัญพัชญ์ อนุมาลย์ อายุ 10 ปี ซึ่งถูกงูกะปะกัด ที่นั่งเฝ้าอาการลูกสาวอยู่หน้าห้องไอซียู รพ.สมเด็กพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยตอนนี้แพทย์ยังต้องเฝ้าดูอาการน้องอย่างต่อเนื่อง
นางจิราพร เล่าว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.30 น. วานนี้ (12 ธ.ค.) น้องไปเดินเล่นรอบบ้าน ก่อนจะได้ยินเสียงน้องร้อง พร้อมตะโกนว่าถูกงูกัดบริเวณนิ้วมือซ้าย จึงรีบวิ่งไปดู พบบริเวณที่ถูกงูกัดมีเลือดไหลจำนวนมาก จึงได้นำสายกระเป๋ามารัดไว้ ก่อนที่พ่อจะตีงูจนตาย และพาน้องส่งโรงพยาบาล พร้อมกับซากงู แต่เนื่องจากน้องมีอาการแพ้เซรุ่มแก้พิษงู ทางโรงพยาบาลแจ้งว่า ไม่มีเลือดกรุ๊บ AB จำนวนมากพอ ที่จะทำเกล็ดเลือดเพื่อรักษาน้อง ทางญาติจึงได้โพสต์ขอความช่วยเหลือในโซเชียล ซึ่งต้องกราบขอบคุณทุกคนที่มาบริจาคเลือด เพื่อช่วยน้องในครั้งนี้ด้วย
สำหรับอาการของน้อง ตอนนี้แผลที่บริเวณนิ้วเริ่มเป็นเนื้อตาย แพทย์ต้องการผ่าตัดเอาเลือดออก เพื่อให้เลือดหมุนเวียน โดยรวมยังไม่พ้นขีดอันตราย ต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อ โดยแพทย์ได้นำเลือดที่คนบริจาคไปทำเกล็ดเลือด เพื่อไปรักษาด้วยการเร่งกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อโดยธรรมชาติ ซึ่งไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย อีกทั้งยังทำให้ลดอาการปวด โดยวันนี้มีคนมาบริจาคเลือดให้น้องเป็นจำนวนมาก ทำให้โรงพยาบาลมีเกล็ดเลือดมากเพียงพอในการรักษา หากไม่เพียงพอจะได้ประชาสัมพันธ์อีกครั้ง ตอนนี้ขอหยุดรับบริจาคเลือดไปก่อน
...
สำหรับงูกะปะ เป็นงูพิษที่มีพิษรุนแรง ลักษณะหัวเป็นรูปสามเหลี่ยม คอเล็ก ลำตัวอ้วน หางเรียวสั้น มีลายเป็นรูปเหมือนหลังคาบ้านอยู่ด้านข้างตลอดลำตัว มีสีเทาอมชมพูลายสีน้ำตาลเข้ม เกล็ดมีขนาดใหญ่ จงอยปากงอนขึ้นข้างบน หากินเวลาพลบค่ำและกลางคืน โดยเฉพาะในเวลาที่มีความชื้นในอากาศสูง เช่น หลังฝนตก ชอบอาศัยในดินปนทรายที่มีใบไม้หรือเศษซากไม้ทับถมกันเพื่อซ่อนตัว เป็นงูที่ไม่ปราดเปรียว เวลาตกใจจะงอตัวหรือขดนิ่ง แต่ฉกกัดรวดเร็ว นับเป็นงูพิษที่มีอันตรายมากที่สุดที่พบในประเทศไทย
ซึ่งพิษของงูกะปะนั้นมีผลต่อระบบเลือด ทำให้เลือดออกมากผิดปกติ เมื่อถูกกัดภายใน 10 นาทีหลังบริเวณรอบแผลที่ถูกกัดจะบวมขึ้นย่างรวดเร็ว จนกระทั่งแขนหรือขาข้างนั้นบวมไปหมดภายใน 1 ชั่วโมง โดยในรอยเขี้ยวจะมีเลือดไหลตลอดเวลา บริเวณแขนขาที่บวมจะมีสีเขียวคล้ำ ผิวหนังเกิดพองตอนแรกมีน้ำใส ต่อมาภายหลังมีเลือด ภายหลังถูกกัดไม่กี่วันรอยเขี้ยวจะเกิดการเน่า ทำให้ผิวหนังมีเลือดออกเป็นรอยคล้ำ เลือดออกทางเดินอาหาร ผู้ที่โดนกัดจะเสียชีวิตได้จากความดันโลหิตต่ำ ซึ่งความดันโลหิตต่ำเกิดจากการเสียเลือด.